น้ำป่าหลากเข้าท่วมลำปาง-เสียหาย20หลังคา

น้ำป่าหลากเข้าท่วมลำปาง-เสียหาย20หลังคา

น้ำป่าหลากเข้าท่วมลำปาง-เสียหาย20หลังคา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากเกิดฝนตกหนักใน จ.ลำปาง ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยล่าสุด ทำให้เกิดมีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ในพื้นที่ ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ประกอบกับลำน้ำแม่จาง มีระดับสูงขึ้น ทำให้น้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ ต.สบป้าด โดยรายงานเบื้องต้น มีชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้วจำนวน 20 หลังคาเรือน ส่วนในพื้นที่ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่บ้านน้ำเค็มหมู่ 7 ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานงานจาก นายสมจิต ปัญญาทา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านห้วยน้ำเค็ม ต.บ้านเสด็จ ว่าเกิดเหตุน้ำป่าไหลลากและน้ำท่วม หลังจากลำห้วยน้ำเค็ม เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ ความสูงน้ำประมาณ 1 เมตร มีทรัพย์สินชาวบ้านเสียหายจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องล่าสุด ขณะนี้ระดับน้ำป่าจากลำห้วยแม่จาง ในบางจุดน้ำได้ท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำสูงกว่า 1.20 เมตร แล้ว ส่วนพื้นที่ ต.แม่เมาะ ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน หลังน้ำจากลำห้วยทราย ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนตั้งแต่เช้ามืดที่ผ่านมา รวม 2 ตำบล ในเขตพื้นที่ ต.แม่เมาะ มีบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 100 หลังคาเรือน มีทรัพย์สินต่างๆ ของชาวบ้านเสียหายจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่ จ.ลำปาง ยังคงมีฝนตกหนักทางตอนบนของจังหวัด ด้าน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วนแล้ว  น้ำป่า ซัดเมืองลับแล-ดินสไลด์ปิดเส้นทางหลัก นายมงคล ขอร้อง ปลัดอำเภอเมือง จ.อุตรดิตถ์ ฝ่ายป้องกัน พร้อมอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) เมืองอุตรดิตถ์ ร่วมกัน สำรวจความเสียหายในพื้นที่ ต.บ้านด่านนาขาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่เขาพลึง รอยต่อระหว่างเขต อ.เด่นชัย จ.แพร่ และ ต.บ้านด่านนาขาม และไหลบ่าลงมาสมทบกับลำห้วยแม่เฉย ไหลหลากเข้าท่วม บ้านไฮ่ฮ้า หมู่ 7 ราว 20 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 1 เมตร ชาวบ้านที่กำลังหุงหาอาหาร และเตรียมส่งลูกหลานไปโรงเรียน ต่างพากันขนของหนีน้ำกันโกลาหล ราว 30 นาที น้ำก็ลดระดับลง และมีดินจากภูเขาสไลด์ลงมาทับเส้นทางเข้าออกระหว่างหมู่บ้านกับถนนสายหลัก 4 จุด จึงได้ประสาน อบต.บ้านด่านนาขาม นำเครื่องจักรมาดันดินที่สไลด์ออกจากเส้นทาง พร้อมประกาศเตือนให้ประชาชนในหมู่บ้าน เตรียมพร้อมอพยพ ตลอด 24 ชั่วโมง อีกจุดที่ต้องเฝ้าระวังคือ บ้านป่าว่าน หมู่ 13 เนื่องจาก น้ำป่าที่ไหลมาจากบ้านไฮ่ฮ้า กับบ้านหนองน้ำเขียว ไหลลงมาสมทบกันที่บ้านดังกล่าว และกัดเซาะตลิ่งคอสะพานข้ามหมู่บ้านที่มีเพียงแห่งเดียว หากสะพานดังกล่าวพังเสียหาย ก็จะทำให้หมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอกทันที เชียงใหม่ฝนตกต่อเนื่องพบพื้นที่เสี่ยงหลายจุด จังหวัดเชียงใหม่ ประกาศเตือนภัยธรรมชาติจากฝนตกหนัก เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดย นายคมสัน สุวรรณอัมพา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ข้อมูลจากระบบเตือนภัยดินถล่มของเชียงใหม่ แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยสีแดงหลายจุด โดยพบที่ โรงเรียนแม่ฮะ  อำเภอหางดง มีปริมาณฝนมากกว่า 125.6 มิลลิเมตร พื้นที่ ต.แม่สาบ อ.สะเมิง 108 มิลลิเมตร ต.แม่สอย อ.จอมทอง 105 มิลลิเมตร ต.แม่งอน อ.ฝาง และใกล้เคียงปริมาณฝน 65 - 108.8 มิลลิเมตร บ้านห้วยทราย อ.พร้าว 105 มิลลิเมตร นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เฝ้าจับตาเข้าสู่พื้นที่เสี่ยงระดับสีแดงเช่น ต.สันทราย อ.ฝาง ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง ต.ท่าตอน อ.แม่อาย ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว มีปริมาณฝนมากกว่า 55 - 80 มิลลิเมตร ทั้งนี้ เรดาร์ ยังตรวจพบกลุ่มฝนในปริมาณมากในพื้นที่โซนกลางและโซนเหนือของจังหวัดได้แจ้งเตือนไปทุกอำเภอให้ติดตามสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว ส่วนพื้นที่เสียหายจากน้ำป่าหลากที่ อ.แม่ออน วานนี้ได้เข้าซ่อมสะพานและถนนใช้การได้ชั่วคราวแล้ว น้ำท่วมปราสาทหินพิมาย เร่งสูบน้ำออก หลังจากที่เกิดฝนตกหนักวานนี้ ส่งผลให้บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย หรือปราสาทหินพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เป็นโบราณสถานที่สำคัญของ จ.นครราชสีมา และของประเทศ ถูกน้ำท่วมขังบริเวณด้านข้างตัวปราสาท สูงกว่า 40 ซ.ม. เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ต้องเร่งทำการสูบน้ำออกจากตัวปราสาทอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเกรงว่า หากเกิดฝนตกลงมาซ้ำอีก จะยิ่งทำให้ปริมาณเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งหากปล่อยทิ้งไว้นานไป น้ำที่ท่วมขัง อาจจะกัดเซาะ สร้างความเสียหายให้กับตัวปราสาทได้ และส่งผลให้เต่าขนาดใหญ่ ที่นอนจำศีลอยู่ภายในปราสาท ต้องออกมาหาที่อยู่ใหม่ เนื่องจากที่บริเวณใต้ปราสาทที่เป็นที่จำศีลของเต่าถูกน้ำท่วมขัง ทำให้บรรดาชาวบ้านที่พบเห็น ต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นเจ้าพ่อปราสาทที่ต้องการออกมาให้โชคลาภ ต่างพากันมุงดูเป็นจำนวนมาก ส่วนปริมาณน้ำในเขื่อนพิมาย ที่กั้นแม่น้ำมูล ซึ่งไหลผ่านตัวเมืองพิมาย มีปริมาณน้ำสูงขึ้น ซึ่งทางชลประทานพิมาย ยังไม่ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน เนื่องจากเขื่อนยังสามารถรองรับน้ำได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้ง ในพื้นที่ท้ายเขื่อนระบายน้ำพิมาย ก็ได้มีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณในแหล่งน้ำธรรมชาติเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook