ชงของบอัดเงินกู้พยุงธุรกิจท่องเที่ยว ชุมพลหารือเอกชนดึงงบกลางใช้ก่อน6.8พันล้าน
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ผ่านมาตรการเงินกู้ 3 ส่วน ได้แก่ 1.เงินชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้คงค้างเดิมของภาคเอกชนกู้ไว้ 2.เงินชดเชยเป็นค่าส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มเติมกับผู้ประกอบการรายใหญ่และรายกลาง และ 3.เงินกู้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ระยะเวลา 4 ปี ทั้งนี้ จะให้ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลจัดสรรวงเงินและดอกเบี้ย ส่วนธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ให้เงินกู้เพิ่มเติม
ตอนนี้เราต้องเร่งเรื่องเงินกู้เพื่อช่วยเหลือให้เ็ว จะเป็นหนี้เสีย 1-2 รายก็ไม่ใช่ปัญหา เมื่อเทียบกับโอกาสที่จะฟื้นฟูวิกฤติในขณะนี้ เพราะเราไม่สามารถปล่อยให้เอกชนไม่ว่าจะเป็นร้านขายสินค้า สปา และอื่นๆ ต้องตายไปต่อหน้า ซึ่งประเทศจะเสียหายมากกว่านี้ นายชุมพลกล่าวและว่าได้ย้ำให้คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการ ไปจัดทำระยะเวลาการดำเนินการแต่ละขั้นตอน เพื่อทราบว่าระยะเวลากว่าเงินช่วยเหลือจะถึงมือผู้ประกอบการต้องใช้เวลามากน้อยเพียงใด เพื่อให้เงินกู้ถึงมือผู้ประกอบการเร็วและตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
// //
ส่วนมาตรการต่อไปที่จะเสนอคือ การยกเว้นค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าในหลายๆ ประเทศให้เร็วมากขึ้น เช่น จีน หรือประเทศลุ่มแม่น้ำโขงแถบอาเซียนที่จะยกเลิกใน 3 ปี ก็จะขอปรับให้มีผลเร็วขึ้น เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวในระยะใกล้ได้
ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเบื้องต้นเชื่อว่าตนจะยังดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเหมือนเดิม ซึ่งทำให้จะอยู่ในตำแหน่งประธานนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติด้วย ทั้งนี้ แนวทางการบริหารด้านการท่องเที่ยวนั้น จะเร่งผลักดันโครงการด้านการท่องเที่ยวต่างๆ มาสู่ขั้นการพัฒนาเร็วมากขึ้น เพื่อฟื้นฟูด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะโครงการแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย หรือ รอยัล โคสต์ ให้แล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2553 ซึ่งจะผลักดันเป็นโครงการแรกๆ ในการประชุมแผนนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ
ตะลุยข่าว - 388 ศพสึนามิ...ยังไม่ได้กลับบ้าน
แม้พิบัติภัยสึนามิจะผ่านพ้นไปแล้ว 4 ปี ทว่าภาพความเสียหาย การล้มตาย และสูญหายไปของคนอันเป็นที่รัก ยังคงติดตรึงอยู่ในใจเหมือนภาพฝันร้ายในคืนที่แสนยุ่งเหยิง หลายครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับมหันตภัยที่เกิดขึ้นกับตนเอง ครอบครัว และธุรกิจ เสียงหวีดร้องโหยหวนและร่ำไห้เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ยังคงก้องอยู่ในมโนสำนึก