วิลลี่ ไม่โกรธ! เปิ้ล ถอนหุ้นเปิดบริษัทใหม่

หุ้นส่วนสำคัญอย่าง เปิ้ล นาคร ประกาศขอถอนหุ้นจากบริษัทลักษ์ 666 จนหลายคนมองว่าขัดแย้งเรื่องธุรกิจกับ 2 หนุ่มอย่าง วิลลี่ แมคอินทอช และ เสนาหอย เกียรติศักดิ์ หรือไม่ ซึ่งคุณพ่อป้ายแดงอย่างวิลลี่เผยว่าตนไม่ได้โกรธหรือมีความขัดแย้งทางธุรกิจแต่ประการใด แจงอีกฝ่ายให้เหตุผลว่ามีครอบครัวแล้ว ทำงานน้อยลงเลยไม่อยากเอาเปรียบ ซึ่งตนก็เคารพในการตัดสินใจ ส่วนรายการก็ยังมีการทำร่วมกันอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ เปิ้ล นาคร ไม่มีหุ้นแล้วเท่านั้น

ล่าสุดหนุ่มวิลลี่มาร่วมงานฉลองครบรอบ 7 ปี นิตยสารเรียล แพเรนติ้ง พร้อมขึ้นรับรางวัล คุณพ่อแห่งปี 2012 ซึ่งนักแสดงชื่อดังเผยถึงความภาคภูมิใจนี้ว่า " ภูมิใจมากครับ มันดูยิ่งใหญ่สำหรับคุณพ่อมือใหม่ป้ายแดงอย่างผมมากๆ เป็นแรงกกดันที่ทำให้มันเคลื่อนไปข้างหน้าที่จะเป็นคุณพ่อที่ดีในอนาคต"

เป็นเพราะอะไรเราถึงได้รางวัลนี้?
"อาจจะเป็นความมุ่งมั่นและพยายามของเราทั้ง 2 คนที่จะมีลูกจนทำสำเร็จ ก็ขอบคุณเสียงโหวตที่ให้มาและขอบคุณ Real Parenting ที่จัดรางวัลนี้มาให้"

ส่วนตัวหวง น้องวิน ไหม เพราะไม่เห็นเอามาโชว์ตัวเลย?
"เราอยากเอามาก กำลังนั่งปรึกษาคนจัดงาน ถ้าเร็วกว่านี้ 2 ชั่วโมง ไม่ไปขัดจังหวะของการอาบน้ำ กินข้าวของเขา ก็คงจะได้มา เวลามางานเราก็อยากให้ลูกอารมณ์ดี ไม่อยากให้แผลงฤทธิ์"

ได้รางวัลการันตีแบบนี้แล้ว อยากมีน้องคนที่ 2 ต่อเลยไหม?
"ผมฮึกเหิมอยู่แล้ว แต่ภรรยาผมต้องเหนื่อย ต้องปรึกษากันก่อนว่าเขาจะยังไงแบบไหน แค่คนเดียวก็เหนื่อยมากเช่นกัน เราก็รู้ความรู้สึกคนเป็นพ่อแม่แล้ว ก็รักคุณพ่อคุณแม่ขึ้นเยอะเลย ถ้ามีโอกาสมีได้ก็คงจะมี"

อัพเดทพัฒนาการของน้องวินหน่อยว่าตอนนี้เป็นอย่างไรแล้ว?
"เริ่มคลาน นั่งเอง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาผมก็พาไปว่ายน้ำ คุณครูก็พาดำน้ำแล้ว เป็นเรื่องที่สนุกมาก มีกิจกรรมให้ทำกับลูกเยอะมาก เราก็พยายามร่วมทุกกิจกรรมเพื่อให้เขาเห็นหน้าเราเพราะเขาโตเร็ว ได้คุยกับคุณกบคุณบรู๊ค ว่ารู้สึกไหมว่าไม่อยากทำงาน อยากอยู่กับลูกตลอดเวลา เราก็ไม่รู้ว่าแต่ละวันที่เราไม่ได้อยู่กับเขา เราพลาดอะไรไปบ้าง รู้สึกเสียดายไง แต่ก็ต้องไปทำงานเพื่อลูกครับ"

ถามถึงประเด็นข่าวล่าสุดที่ว่า เปิ้ล นาคร ถอนหุ้นออกจากบริษัทลักษ์ 666 แล้ว วิลลี่ชี้แจงว่า "การที่พี่เปิ้ลไม่ได้ถือหุ้นก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร 15 ปีที่ผ่านมาก็ยังเหมือนเดิม เราก็ยังทำรายการ "สาระแน" ด้วยกันอยู่ เมื่อวานก็ถ่ายโฆษณาถึงเที่ยงคืน ตี 1 ด้วยกันอยู่นะ เราไม่รู้สึกหรอกเพราะอยู่กันมานาน 15 ปีแล้ว ผมเข้าใจนะ คนมีลูก มีครอบครัวแล้ว อนาคตจะเป็นยังไงบ้าง ถ้าอยู่เรือนแพแบบเรา 3 คนเหมือนสมัยก่อนคงไม่ได้ เราก็ต้องตัดสินใจอะไรสักอย่างนึง เราก็ต้องให้เกียรติในการตัดสินใจของทุกคน"

พี่เปิ้ลบอกว่าทำงานน้อยลงเลยเกรงใจเพื่อนๆ
"ก็สมควรจะเกรงใจนะ (หัวเราะ) ถ้าพี่เปิ้ลแกหนีไปแล้วผมจะไปกับลูกได้ยังไงล่ะ ก็เหลือพี่หอยอยู่คนเดียว คงไม่รอด"

พี่เปิ้ลให้เหตุผลในการถอนหุ้นคือเพื่อไปดูแลครอบครัว?
"ใช่ครับ พูดง่ายๆเลยคือว่า พอเขาเห็นว่าเวลาที่เสียไปกับการทำงานของพวกเรา ก็กลัวว่ากลับมาแล้วออกัสลูกสาวจำไม่ได้ ผมเองก็ระแวงเหมือนกันเพราะเราทำงานกันเยอะมาก ทำทุกอย่าง รับหมด เราก็ทำงานเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วเพราะเรามีลูกกันแล้ว ดังนั้นเราก็เลือกที่จะทำให้มันเบาลง ทางเลือกใครทางเลือกมัน แต่ไม่มีโกรธกันครับ เราเข้าใจ"

ยังเป็นเพื่อนรักเหมือนเดิมไหม?
"เหมือนเดิมครับ"

ข่าวว่าพี่เปิ้ลจะไปเปิดบริษัทใหม่?
"ไม่มีปัญหาหรอกครับ เราก็ทำหนังสือมาแล้วพี่เปิ้ลก็ทำ The toilet ตามหลักการแล้วเราจะไปคาดหวังอะไรกับเขาล่ะ (หัวเราะ)"

หลังจากนี้ไปงานก็หนักมากขึ้น แล้วจะแบ่งงานกันอย่างไร?
"ผมมีลูกก็เริ่มจะหนีงานบ่อยหน่อย ส่วนพี่หอยก็เริ่มซื้อตู้เย็นให้นักศึกษาหลายคนอยู่ (หัวเราะ) เรื่องงาน รายการเราก็ทำทุกอย่างเหมือนเดิม ถ้าทำหนังแล้วมีบทที่ให้พี่เปิ้ลเล่นเราก็ติดต่อไปให้พี่เขาเล่นเหมือนเดิม"

เล็งหาหุ้นส่วนใหม่มาแทนพี่เปิ้ลไหม?
"ไม่ครับ เราต้องเก็บไว้เอง เดี๋ยวแบ่งไม่ลงตัว"

พี่วิลลี่ก็มีลูก แล้วในอนาคตจะถอนหุ้นเหมือนพี่เปิ้ลหรือเปล่า?
"คงไม่ได้ขนาดนั้นหรอกครับ ตั้งแต่ผมมีลูกมาก็มีแรงเยอะขึ้นกว่าสมัยก่อน แต่ก่อนทำงานไปก็ไปคุยกับเยลหลี 2 คนว่าเราทำไปเพื่อใคร ก็เลยเริ่มขี้เกียจ เดี๋ยวไปเที่ยวดีกว่า พอมีลูกปั๊บเวลากลับบ้านขอรอยยิ้มอันเดียว เดี๋ยวลุยให้เลย อยากได้อะไรบอกมา ดังนั้นเราก็ไม่รู้สึกเหนื่อยหรอก ถึงเหนื่อยก็ยิ้ม ลูกโตขึ้นเรื่อยๆ เราก็ต้องขยันทำงานมากขึ้น อยากทำหลายๆให้ลูกเพื่อว่าเขาโตขึ้นมาจะได้สบาย ไม่เหนื่อยเหมือนเรา"

เรื่องเวลายังแบ่งให้ลูกได้อยู่ไหม?
"เขาแทบจะโยนให้เลยแหละ พอผมกลับบ้านเยลหลีจะหยุดทุกอย่างที่ทำอยู่และยื่นลูกให้ เพราะผมมีเวลาน้อยไง"