ปชช.ทยอยสวนลุม เสวนาแก้รธน.ล่าชื่อถอดนายกฯ-ครม.

ปชช.ทยอยสวนลุม เสวนาแก้รธน.ล่าชื่อถอดนายกฯ-ครม.

ปชช.ทยอยสวนลุม เสวนาแก้รธน.ล่าชื่อถอดนายกฯ-ครม.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บรรยากาศการจัดเสวนา ประชาชนคัดค้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญ 50 ยึดอำนาจเพื่อทักษิณ ที่จัดขึ้น โดยเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน และภาคีเครือข่าย 13 องค์กร ในขณะนี้เริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางเข้าร่วมรับฟังแล้วที่อาคารลุมพินีสถาน โดยที่บริเวณด้านหน้าทางเข้า มีการตั้งโต๊ะสำหรับลงรายชื่อเพื่อยื่นถอดถอน นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ส.ส. ส.ว. และผู้ที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 20,000 รายชื่อ ขณะที่บริเวณด้านหน้าทางเข้า ก่อนเข้าห้องประชุม มีการตรวจกระเป๋าบุคคลที่เข้าร่วมรับฟังอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันกลุ่มคนที่ไม่หวังดี ลอบเข้ามาสร้างความวุ่นวาย ทั้งนี้ ในพื้นที่บริเวณการจัดงาน ยังไม่พบมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาดูแลความสงบเรียบร้อยแต่อย่างใด สยามสามัคคี ห่วงแก้ รธน.หมวดสถาบัน พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกวุฒิสภาสรรหา แกนนำกลุ่มสยามสามัคคี กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยรัฐบาล รวมถึงพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งการจัดตั้ง ส.ส.ร. ถือว่าเป็นการฉีกรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับการทำรัฐประหาร และเป็นการแก้ขณะที่ประชาชนยังได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤติอุทกภัยและปัญหาปากท้อง ซึ่งเห็นว่าคนที่ได้รับผลประโยชน์จากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีเพียง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวเพราะไม่เชื่อมั่น และห่วงว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ร.จะเป็นไปตามฐานเสียงของพรรคการเมือง ส่วน ส.ส.ร.สรรหา ก็มาจากเสียงข้างมากของสภา ก็จะถูกครอบงำทางการเมือง และมีความกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีการแก้ในหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ แทรกแซงองค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม และการนิรโทษกรรม ทั้งนี้ พล.อ.สมเจตน์ ยืนยันว่าการชุมนุมในครั้งนี้ไม่ใช่การปลุกระดมมวลชน ราษฎรอาสา จ่อชง อสส.-ศาล รธน.ปมแก้ รธน.ไม่ประชามติ ขัด รธน.กลุ่มราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบันที่นำโดย นายบวร ยสินทร และอีก 8 กลุ่มที่เห็นด้วยได้ออกแถลงการณ์โดยมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อให้มี ส.ส.ร. โดยไม่มีการลงประชามติก่อนเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที่มีการลงประชามติจากประชาชนแล้ว และเป็นการล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งถือว่าเป็นความผิดตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญแห่งราบอาณาจักรไทย ทั้งนี้กลุ่มราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบันจะร่วมกับคณะบุคคลที่มีอุดรการเดียวกัน เสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง และยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำสั่งตามมาตรา 65, 68 และ บริบทของรัฐธรรมนูญปี 2550 เพื่อให้เลิกกระทำดังกล่าว และสั่งยุบพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง พร้อมเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมือง และกรรมการบริหารพรรคที่ถูกยุบเป็นเวลา 5 ปี "ตุลย์" เสวนาค้านแก้ รธน. บอกรัฐช่วย "ทักษิณ" เมิน ปชช.น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี กล่าวในงานเสวนา ประชาชนคัดค้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญ 50 ยึดอำนาจเพื่อทักษิณ ว่า ขณะนี้รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง ปล่อยให้ข้าวของในประเทศมีราคาแพง เพราะรัฐบาลคิดอย่างเดียวคือ ต้องการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้กลับประเทศ และการที่รัฐบาลต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพราะกลัวว่าตนเองจะติดคุก ซึ่งด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ คือกฎหมาย การแก้กฎหมายก็เพื่อช่วยเหลือคนผิด เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 แล้วทำให้ค่าครองชีพถูกลงก็สนับสนุน ดังนั้นการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องฟังเสียงของประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อจะได้ขับเคลื่อนประเทศชาติได้อย่างถูกต้อง  "แซมดิน" ค้านแก้ รธน. รัฐต้องถาม ปชช. ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ กล่าวในการ "เสวนาประชาชน คัดค้าน การล้มล้างรัฐธรรมนูญ 50 ยึดอำนาจเพื่อทักษิณ" ว่า การแก้มาตรา 291 สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทั้งฉบับ และการแก้ไข รธน. ต้องสอบถามประชาชนทั้งหมดซึ่งประชาชนไม่ได้เป็นผู้เดือดร้อนกับรัฐธรรมนูญ จึงอยากสอบถามว่าผู้ใดเป็นคนเดือดร้อน และอยากให้ประชาชนคิดว่าการกระทำของรัฐบาลมีความเหมาะสมหรือไม่ และหากรัฐบาลจะดำเนินการสิ่งใดก็ควรสอบถามประชาชนก่อน ขณะที่บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนร่วมรับฟังจำนวนมากจนล้นออกนอกห้องประชุม "แก้วสรร" ค้านโละ รธน. เชื่อหวังลบคดี "ทักษิณ"นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะแกนนำ กลุ่มสยามสามัคคี กล่าวในการเสวนาประชาชน คัดค้าน การล้มล้างรัฐธรรมนูญ 50 ยึดอำนาจสร้างรัฐธรรมนูญใหม่ เชื่อว่า หากแก้รัฐธรรมนูญได้จะมีการลบคดี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีทิ้งไป เพราะไม่สามารถออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมได้ ดังนั้น หากจะทำให้สำเร็จ ต้องแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อลบล้างความผิด และแก้มาตราสุดท้ายด้าน นายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน ในฐานะแกนนำกลุ่มอีกคน กล่าวในการเสวนาว่า การที่ ส.ส. ยกมือสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ ได้สะท้อนว่า สนับสนุนการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งการที่ อ้างว่า สภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ ส.ส.ร. มาจากประชาชนนั้น ไม่มีหลักฐาน จึงไม่สามารถเชื่อถือได้ สยามสามัคคี ตั้ง กก.ติดตามแก้ รธน.  พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม ประธานภาคีเครือข่ายกลุ่มสยามสามัคคี แถลงภายหลังการประชุมร่วมกับแกนนำจากกลุ่มต่างๆในการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ว่า มติที่ประชุมจะมีการตั้งคณะกรรมการประสานงานเพื่อติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากพบว่ากระบวนการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. และการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่เป็นธรรม จะมีการรวมกันเคลื่อนไหวคัดค้านถึงที่สุด ทั้งนี้ ยืนยันว่า ที่ผ่านมากลุ่มไม่เคยได้รับผลประโยชน์จากการรัฐประหาร ส่วนความกังวลว่าการเคลื่อนไหว และการชุมนุมครั้งนี้ จะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงนั้น พลเอกสมเจตน์ ระบุว่า ความขัดแย้งมีสาเหตุมาจากรัฐบาล ซึ่งชุมนุมของมวลชนเป็นการชุมนุมโดยสันติ ปราศจากอาวุธ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนรัฐบาล เนื่องจากวันนี้ เกิดเหตุการณ์มีกลุ่มคนเสื้อแดงพยายามขัดขวางการจัดการเสวนาครั้งนี้ ส่วนการเคลื่อนไหวต่อไป จะมีการยกระดับเหมือนกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรในอดีตหรือไม่นั้น ยืนยัน ว่าไม่มี  สามารถย้ำไม่แก้หมวดสถาบัน-ไม่ยุบองค์กรอิสระนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมของรัฐสภา กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า การประชุมครั้งต่อไปในสัปดาห์หน้า จะคุยถึงการแก้ไขมาตรา 291 เริ่มในหลักการและเหตุผลมาตราย่อยต่างๆ รวมทั้งเรื่องการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ซึ่งส่วนตัวมองว่า ไม่ควรจำกัดเวลาการพิจารณาของกรรมาธิการ เพราะความเห็นคงมีหลากหลาย โดยเฉพาะที่มาคุณสมบัติ และการสรรหา ส.ส.ร. รวมถึงเรื่องตัวแทนจากสถาบันการศึกษา พร้อมยังคงต้องรอการแปรญัตติของ ส.ส.ที่จะจบ 25 มีนาคม นี้ด้วย นายสามารถ ยังกล่าวว่า พร้อมฟังข้อเสนอจากผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยมีสิทธิ์ทำเอกสาร หรือมาให้ข้อมูลได้ พร้อมได้ลงนามแจ้งไปยังผู้เสนอร่างทั้ง 3 ฉบับ ให้ส่งชื่อตัวแทน เพื่อเป็นที่ปรึกษาของกรรมาธิการด้วยนอกจากนี้ นายสามารถ แก้วมีชัย กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ส่วนตัวเห็นด้วย กับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ที่กำหนดสัดส่วนสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เลือกตั้ง 77 คน และสรรหา 22 คน เพราะจากประสบการณ์ที่เคยเป็น ส.ส.ร.ปี 2540 ก็ใช้สัดส่วนนี้ โดยส่วนตัวมองว่า ส.ส.ร.แบบเลือกตั้ง ไม่จำเป็นต้องยึดโยงสัดส่วนประชากร เพราะไม่ใช่ ส.ส.ที่ต้องดูแลประชาชน ส่วน ส.ส.ร.สรรหานั้น เห็นว่า สัดส่วนภาควิชาการเหมาะสมแล้ว แต่อาจต้องศึกษารายละเอียด เรื่องตัวแทนจากสถาบันการศึกษา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับนักวิชาการอิสระด้วยทั้งนี้ นายสามารถ เปิดเผยกับสำนักข่าวผ่าน รายการ เปิดข่าวเด่นเจาะประเด็นดัง ทางคลื่น FM 102.75 MHz  เกี่ยวกับการประชุมครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา ว่า เป็นการประชุมวางกรอบคร่าวๆ ทั้งหมด ส่วนการประชุมครั้งหน้าในวันพฤหัสบดีที่ 8 มี.ค. นั้น จะมีการลงรานละเอียด ในเรื่องของมาตราที่จะมีการแก้ไขต่อไป โดย นายสามารถ ระบุว่า จากการประชุม ได้มีความเห็นร่วมกันของกรรมาธิการ ว่า จะให้บัญัติว่า สสร. ที่จะคัดเลือกเข้ามานั้น จะไม่มีสิทธิ์แก้ไขในหมวดที่ 1 - 2 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 เลย เพื่อให้ประชาชนสบายใจว่า การแก้ไข ในครั้งนี้ จะไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับหมวดสถาบันแต่อย่างใด ส่วนหมวดองค์กรอิสระ ที่ประชุมก็มีความเห็นตรงกันว่า จะให้ สสร. พิจารณาเพื่อแก้ไขปรับปรุงให้เป็นองค์กรอิสระ ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบได้อย่างตรงไปตรงมา ไม่ถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง หรือฝ่ายใดก็ตาม รวมถึงไม่มีการยุบหรือ ยกเลิกองค์กรอิสระใดๆ แน่นอน ส่วนเรื่องจำนวน และที่มาของ สสร. นั้น นายสามารถ กล่าวว่า เบื้องต้น กรรมาธิการยึดตามร่างแก้ไขรัฐบาล ที่กำหนดให้มี 99 คน แต่ก็จะเปิดโอกาสให้ กรรมาธิการ ส.ส. และ ส.ว. ที่มีความเห็นต่างกัน แปรญัติ สงวนความเห็นได้ และจะหาข้อยุติ เรื่องสัดสวน จำนวน สสร. และที่มาด้วยการลงมติของการประชุมร่วม 2 สภา ทั้งนี้คุณสมบัติคร่าวๆ ของ สสร. มีดังนี้ อายุ 35 ปีขึ้นไป ต้องมีภูมิลำเนาในจังหวัดนั้นๆ 5 ปี หรือเกิดจังหวัดนั้น รับราชการในจังหวัดนั้น 5 ปี และไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ การศึกษา ต้องหารือกันอีกครั้ง เพราะร่างแก้ไขของรัฐบาล ระบุว่าต้องจบปริญญาตรี แต่ของพรรคเพื่อไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา นั้น ไม่จำเป็น ซึ่งจะให้กรรมาธิการแสดงความเห็นและลงมติต่อไป เฉลิมโต้อภิสิทธิ์แก้รธน.ยุบองค์กรอิสระแนะรอดูสสร. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเสนอให้รัฐบาลแสดงความชัดเจนต่อการไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ใน 3 เงื่อนไข คือ หมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ องค์กรอิสระ และการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น นายอภิสิทธิ์ ใจร้อนเกินไปที่วิจารณ์ เพราะยังไม่ทรายว่าใครจะเป็น สสร. บ้าง และห่างร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ดี ประชาชนก็ไม่รับประชามติ ดังนั้นไม่ควรตกใจเกินเหตุ อีกทั้งข้อกล่าวหาที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทย จะส่งคนเข้าไปเป็น สสร. ก็เป็นเรื่องที่เพ้อเจ้อ ส่วนการชุมนุมของกลุ่มสยามสามัคคี เพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่สวนลุมพินี ในช่วงเย็นวันนี้ ไม่ได้สกัดกั้นการชุมนุม แต่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยตามหน้าที่ จะไม่คุกคามผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตามเชื่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไม่ทำให้ปัญหาความขัดแย้งบานปลายอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ทุกฝ่ายจะได้รับประโยชน์ ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า ร่างพระราชบัญญัติปรองดอง จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีนายกรัฐมนตรี ได้กลับประเทศหรือไม่ พท.ซัดกมธ.แก้รธน.ฝ่ายค้านจำกัดบทบาทสสร. นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการรัฐสภา พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม กล่าวว่า ในการประชุมของคณะกรรมาธิการ เมื่อวานที่ผ่านมา มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่ยังวนเวียนอยู่ในจุดเดิม โดยเฉพาะพรรคฝ่ายค้าน ที่นำประเด็นการเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 นั้น ชอบตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า ในชั้นกรรมาธิการ ไม่สามารถพิจารณาประเด็นดังกล่าวได้ เนื่องจากรัฐสภาผ่านความเห็นชอบไปแล้ว นอกจากนี้ ฝ่ายค้านยังมีความพยายามจำกัดบทบาทของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ว่าจะต้องไม่มีการแก้ไขในหมวดพระมหากษัตริย์ และไม่กระทบต่อองค์กรอิสระ ไม่ลดอำนาจตุลาการ หรือศาล รวมถึงการนิรโทษกรรมจะต้องไม่มีผลย้อนหลังคดีที่ตัดสินไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมาธิการครั้งต่อไป จะเชิญอดีตประธาน สสร. ปี 40 และปี 50 มาเป็นที่ปรึกษากรรมาธิการด้วย ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยขอประณาม 2 คนร้าย ที่ทำร้ายร่างกาย นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ จึงขอเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำไปเป็นแบบอย่าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook