กสิกรไทย มองเงินเฟ้อปีนี้ 3.9%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์ แนวโน้มเงินเฟ้อ ว่า หลังจากที่ราคาสินค้าผู้บริโภคหลายรายการ ที่เคยได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทำให้ในช่วงเวลาหลังจากนี้ไป คงจะต้องติดตามความเคลื่อนไหวรายเดือนของราคาสินค้าผู้บริโภค ซึ่งน่าจะมีการทยอยปรับสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า สอดรับกับการขยับขึ้นของรายได้ และการขยับขึ้นของต้นทุนภาคธุรกิจ หลังจากที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ตรึงราคาสินค้าไว้ตลอดปี 2554 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ปัจจัยผลักดันราคาสินค้าส่วนใหญ่ที่น่าจะมีผลต่อการขยับขึ้นเดือนต่อเดือนของเงินเฟ้อ ได้แก่ การปรับสูงขึ้น ของราคาพลังงานในประเทศตามการปรับโครงสร้างราคาของรัฐบาล การทรงตัวในระดับสูงของราคาสินค้าเกษตร อาทิ ข้าว ตามโครงการจำนำราคา ตลอดจนต้นทุนค่าจ้างแรงงานในภาคเอกชนที่จะเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดในเดือนเมษายน 2555 ตามหลังการปรับฐานเงินเดือนขั้นต่ำให้กับข้าราชการที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2555ทั้งนี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลก ที่มีโอกาสทรงตัวในระดับสูง หากข้อพิพาทของอิหร่านกับชาติตะวันตกยืดเยื้อ และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่อาจเพิ่มสูงขึ้นตามทิศทางอุปสงค์ในประเทศ ในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากเหตุการณ์อุทกภัย และอานิสงส์ของนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐในระยะข้างหน้า ก็น่าจะเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อทิศทางเงินเฟ้อด้วยเช่นกัน ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงยังคงตัวเลขประมาณการไว้ที่ร้อยละ 3.9   สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไป และร้อยละ 3.0 สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ไว้เช่นเดิม