พิชัยเดินหน้าขึ้นNGV,LPGเหตุแบกรับภาระขาดทุน

 พิชัยเดินหน้าขึ้นNGV,LPGเหตุแบกรับภาระขาดทุน

 พิชัยเดินหน้าขึ้นNGV,LPGเหตุแบกรับภาระขาดทุน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตอบกระทู้ถามด่วนของ นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี เรื่อง การปรับขึ้นราคาก๊าซ NGV, LPGในวันที่ 16 ม.ค. มีผลกระทบต่อประชาชนเป็นอันมาก รวมทั้งกับผู้ประกอบการกิจการสาธารณะ ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นว่า การจะให้รัฐบาลเข้าไปอุดหนุนราคาพลังงานตลอดไป ไม่สามารถทำได้ เอ็นจีวี แม้ว่า จะผลิตเองได้ แต่รัฐบาลต้องการเสริมให้เป็นพลังงานหลักของประเทศ แต่ปรากฏว่า ประเทศไทยมีการนำเข้าพลังงานปีละ 1.2 ล้านล้านบาท และการกำหนดให้ราคาเอ็นจีวี อยู่ที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่ใช้มากว่า 10 ปีแล้ว ขณะที่ราคาพลังงานในโลก ได้ปรับเพิ่มขึ้นสูงมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 5 เท่า แต่เอ็นจีวียัง 8.50 บาทอยู่ ถามว่าเหมาะสมหรือไม่ ประกอบกับในราคา 8.50 บาท มีถึง 2 บาท ที่กองทุนน้ำมันจ่ายชดเชยให้อยู่ ซึ่งเงินที่เอามาอุดหนุนเอ็นจีวี ก็มาจากเงินของผู้ใช้ดีเซล และ เบนซิน นอกจากนี้ ปีที่ผ่านมา ปตท. ขาดทุนรวม 2 0,000 ล้านบาท รวมตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ขาดทุนสะสม 40,000 ล้านบาท ดังนั้นหากขยายให้ใช้เอ็นจีวีเพิ่มขึ้นในราคาดังกล่าวจะขาดทุนเพิ่มขึ้น ประเทศจะเดินหน้าไม่ได้ ซึ่ง เอ็นจีวีที่ใช้อยู่เมื่อมีการปรับแล้ว ราคายังถูกกว่าน้ำมันดีเซลครึ่งต่อครึ่ง บังคับให้เอ็นจีวีขายขาดทุนไปเรื่อยๆ คงเป็นไปไม่ได้ในระยะสั้น ยืนยันว่า รัฐบาลช่วยเหลือประชาชนจากการชะลอเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อให้ประชาชนสามารถอยู่ได้ในภาวะลำบาก แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง เราต้องกลับมาเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาพลังงานในความเป็นจริง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook