บุกแหล่งผลิตบึ้มมหาชัยจับผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายฮิซบันเลาะห์

บุกแหล่งผลิตบึ้มมหาชัยจับผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายฮิซบันเลาะห์

บุกแหล่งผลิตบึ้มมหาชัยจับผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายฮิซบันเลาะห์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้. ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำกำลังเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้น และจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย และจุดที่คาดว่าคนร้ายเก็บวัตถุระเบิดสำหรับเตรียมก่อการร้ายในไทย ที่บริเวณตึกแถวย่านวัดกาหลง จ.สมุทรสาคร โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายอาทริส ฮุสเซน (Atris Hussein) ไปยังจุดที่เกิดเหตุ หลังให้การว่า ได้นำวัตถุระเบิดมาซุกซ่อนไว้ในตึกแถวบริเวณดังกล่าว เบื้องต้น จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในจุดดังกล่าว ระบุว่า พบวัตถุต้องสงสัยสำหรับเตรียมก่อเหตุจริง แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด โดยจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะ ความคืบหน้ากรณีที่ทางกำลังตำรวจ นำโดย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีกหลายนาย เข้าบุกจับตึกแถว เป็นอาคารพาณิชย์ เลขที่52/15 หมู่ 2 อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ในท้องที่ของ สภ.บางโทรัด จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นแหล่งซ่อมสุมอาวุธ และแหล่งผลิตวัตถุระเบิดของกลุ่มก่อการร้ายที่จะเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย แต่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ 1 คน ล่าสุด กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด และจะทำการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่อไป ตร.แถลงบุกชาร์จแหล่งผลิตบึ้มก่อการร้ายพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังตำรวจกว่า 200 นาย พร้อม นายอาทริส ฮุสเซน ชาวเลบานอน ผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย เข้าตรวจค้นในอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น บริเวณ ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังทราบว่าเป็นแหล่งเก็บวัตถุระเบิดของเครือข่ายก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งจากการตรวจค้นพบปุ๋ยยูเรีย 4,380 กิโลกรัม แอมโมเนียไนเตรทละลายน้ำ 10 แกลลอน พัดลม 400 ตัว กระดาษ A4 และรองเท้าแตะจำนวนมาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สารประกอบวัตถุระเบิดดังกล่าว ไม่ใช่เพื่อก่อเหตุในประเทศไทย แต่ผู้ต้องสงสัยมาเช่าโกดังเก็บสินค้าแห่งนี้นานประมาณ 1 ปี เพื่อเป็นแหล่งพักของ ก่อนลำเลียงออกสู่นอกประเทศทางเรือ เบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผบ.ตร.เผยแหล่งเก็บระเบิดพร้อมส่งปท.อื่น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังนำกำลังตำรวจ 200 นาย พร้อม นายอาทริส ฮุสเซน ชาวสวีเดน เชื้อชาติเลบานอน ผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายในประเทศไทย เข้าชี้จุดพร้อมตรวจค้นอาคาร 3 ชั้น ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังให้การว่า ได้นำสารประกอบวัตถุระเบิดซุกซ่อนไว้ภายในอาคารดังกล่าว โดย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาตามหลักสากล ผู้ต้องหานั้นได้เปิดเผยจุดซ่อนของกลาง ที่ซุกซ่อนป๋ยยูเรียไว้ประมาณ 337 ลัง โดยแต่ละลังบรรจุถุงพลาสติกจำนวน 4 ถุง น้ำหนัก 7 กิโลกรัม รวมถึงสารประกอบอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ส่วนสารประกอบวัตถุระเบิดทั้งหมด จะถูกลำเลียงส่งออกไปยังประเทศใดนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดได้ ขณะที่จากการสอบถามไปยังเจ้าของอาคาร เบื้องต้นทราบว่าไม่มีส่วนรู้เห็นและเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายแต่อย่างใด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการอาญัติของกลางที่ตรวจยึดได้ทั้งหมด พร้อมส่งไปยังกองพลาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายอาทริส ไปยังกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อสอบสวนขยายผล และในเวลา 11.00 น. วันนี้ เจ้าหน้าที่จะมีการประชุมเพื่อหารือถึงแนวทางการดำเนินการต่อไป รอง ผบ.ตร เร่งสืบสวนคดี นายแอตทริส ประชุมขยายผลวันนี้พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวขณะเข้าร่วมสอบปากคำ นายแอตทริส ฮุสเซน ชาวสวีเดน เชื้อชาติเลบานอน ผู้ต้องสงสัยครอบครองสารแอมโมเนียมไนเตรทในจังหวัดสมุทรสาคร ว่าตนในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนได้มอบหมายงานในการสืบสวนคลี่คลายคดีนี้ ซึ่งในส่วนของหลักฐานนั้น ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแล ส่วนการดูในเรื่องอาคารที่พบสารแอมโมเนียมไนเตรท มอบหมายให้ ตำรวจภูธรภาค 7 ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ตรวจสอบว่าใครเป็นผู้เช่า ส่วนการตรวจสอบประวัติการเดินทางเข้าประเทศไทย ของ นายแอตทริส นั้น ได้มอบหมายให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นผู้ดูแล โดยวันนี้จะทำการประชุมมอบหมายงานและสืบสวนขยายผลก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายแอตทริส ว่า กระทำผิดพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ปี 2550 มาตรา 15 และมาตรา 43  ผู้ต้องหายอมรับสารภาพมีวัตถุต้องห้ามแล้วความเคลื่อนไหวในการสอบสวน นายอาทริส ฮุสเซน (Atris Hussein) ชาวสวีเดน ที่ครอบครองสารแอมโมเนียไนเตรต ที่ตรวจยึดได้ที่ จ.สมุทรสาคร ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังคงสอบปากคำ นายฮุสเซน อยู่ในกองบัญชาการตำรวจตะเวนชายแดน  โดยทางด้าน พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการสอบปากคำ นายฮุสเซน เบื้องต้น ตั้งแต่ควบคุมตัวมาสอบสวน ตามกฎหมาย คนเข้าเมืองนั้น นายฮุสเซน ได้ให้การรับสารภาพทุกขั้นตอน นำมาสู่การตรวจค้นพบ แอมโมเนียไนเตรต จำนวนมากดังกล่าว ส่วนจะโยงถึงบุคคลใดบ้าง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวน และการพิจารณาว่า จะแจ้งข้อหาก่อการร้ายหรือไม่นั้น ขอสอบสวนก่อน  หากเข้าข่าย ก็จะมีการพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ส่วนการควบคุมตัว นายฮุสเซน นั้น ได้เตรียมพิจารณาสถานที่กองปราบปราม หรือ สภ.เมืองสมุทรสาคร ไว้ แต่จะดูความเหมาะสมอีกครั้ง วินัยสั่งเข้มจุดเสี่ยง24ช.ม.หลังพบแหล่งซุกบึ้ม พลตำรวจโท วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึง ความคืบหน้าการบุกค้นแหล่งซุกซ่อนระเบิด ย่านมหาชัย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจับผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย ฮิซบุลลอฮ์  ว่า ขณะนี้มีการเรียก บริษัท Shipping ย่านประตูน้ำ และเจ้าของบ้านเช่าหลังดังกล่าวแล้ว แต่ไม่พบความเชื่อมโยงกับผู้ต้องสงสัย สำหรับ ด้านการข่าว ยังไม่พบว่ามีสถานที่ ที่จัดเป็นแหล่งเก็บซ่อนวัตถุระเบิด ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น ได้จัดสนธิกำลังตำรวจกองปราบและตำรวจท่องเที่ยว ในการเฝ้าระวังสถานที่สำคัญต่าง ๆ  โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง คือ ตรอกข้าวสาร ซ.รามบุตรี และ สุขุมวิท 22 ด้วยการจัดสายตรวจ เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ตลอด 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกันกับ สถานทูตสหรัฐฯและอิสราเอล ได้มีการจัดกำลังสายตรวจ และเจ้าหน้าที่สันติบาล เฝ้าดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเช่นกัน ส่วนผู้ต้องสงสัยตามภาพสเกตช์นั้น ทางเจ้าหน้าที 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook