มติสอท.ให้รบ.จัดเก็บภาษีเงินได้ฯ23%ปี55

นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. กล่าวว่า ส.อ.ท.ได้มีมติสนับสนุนรัฐบาลเดินหน้ามาตรการลดการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลลง เหลือร้อยละ 23 ในปีหน้าตามแผนเดิม จากปัจจุบันที่มีการจัดเก็บอยู่ที่ร้อยละ 30 เนื่องจากก่อนหน้านี้ ส.อ.ท. เป็นผู้ผลักดันแนวคิดดังกล่าวมาโดยตลอด นอกจากนี้ ส.อ.ท. ยังเห็นว่าหากยังไม่ปรับลดภาษีลงธุรกิจรายเล็กอาจได้รับผลกระทบ

ส่วนมติที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันหรือ กกร. ที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาให้รัฐบาลชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ออกไปอีก 1 ปี เพื่อให้รัฐบาลมีรายได้ในระดับเดิม แล้วนำมาจัดสรรตั้งกองทุน จำนวน 5 - 7 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ SME ที่ถูกน้ำท่วมนั้น เห็นว่าเรื่องดังกล่าว ควรเป็นไปโดยความสมัครใจ ซึ่ง กระทรวงการคลัง ได้ทำหนังสือชี้แจงมายังภาคเอกชน ว่า พร้อมที่จะให้การช่วยเหลื่อในเรื่องของข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรค




กกร.ตั้งคณะทำงานประสานงานแก้รธน.2550

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชนร่วม 3 สถาบัน หรือ กกร. มีมติแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาประสานการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปี 2550 มาตรา 190 วรรค 2 ที่ระบุว่า การลงนามข้อตกลงกับต่างประเทศ จะต้องผ่านการอภิปรายจากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกฎหมายนี้ทำให้ไทยเสียเปรียบผู้ค้า เพราะมีการเปิดเผยรายละเอียดก่อนลงนามในสัญญา จึงควรยกเลิกกฎหมายนี้ หรือไม่เช่นนั้นควรเร่งรัดกฎหมายลูก ที่มีอยู่กว่า 10 ฉบับ เพื่อให้ระดับกระทรวง สามารถดำเนินการขับเคลื่อนกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ที่ประชุมยังแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาและติดตามการทำงานของคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟู และสร้างอนาคตประเทศไทย หรือ กยอ. และคณะทำงานยุทธศาสตร์ เพื่อการวางระบบการบริหารจัดการน้ำ หรือ กยน. เพื่อป้อนข้อมูลการทำงานให้กับคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด ให้มีการขับเคลื่อนแผนการจัดการน้ำได้อย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนญี่ปุ่น