ธีระชัยสั่งธ.ก.ส.รื้อบัตรเครดิตชาวนาใหม่
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผย ภายหลังการประชุมร่วมกับคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ว่า ภายหลังการร่วมกันหารือนั้น ในส่วนของโครงการบัตรเครดิตเกษตรกร พบว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว มีความซับซ้อนมากเกินไป รวมถึงใช้งบประมาณสูงกว่า 1,000 ล้านบาท จึงได้สั่งให้มีการทบทวนโครงการและปรับปรุงรูปแบบอื่น แทนบัตรเครดิต
อย่างไรก็ตาม คาดว่า โครงการดังกล่าวอาจออกเป็นบัตรแถบแม่เหล็กคล้ายบัตรเดบิตการ์ด ให้เกษตรในการซื้อสินค้า และจะมีการเรียกเก็บค่าชำระบริการในทุกๆ 6 เดือน
พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าวที่ได้มีการปรับปรุงนั้น คาดว่า จะแล้วเสร็จในปี 2555 และเชื่อว่า จากการปรับรูปแบบนั้นจะช่วยลดภาระในการดำเนินการได้เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เปิดเผยว่า ทางกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้ทางธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ดำเนินนโยบายพักหนี้ครัวเรือนของเกษตรกรรายย่อย และผู้มีรายได้น้อย ที่มีหนี้ต่ำกว่า 500,000 บาท และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ สำหรับผู้ที่มีหนี้เกิน 500,000 บาท ซึ่งทางธนาคารจะพักชำระหนี้ให้กับลูกค้า โดยไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยจะเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2554 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2557
พร้อมกันนี้ทางธนาคารจะจัดทำโครงการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกรพักหนี้อย่างครบวงจร เพื่อให้มีการปรับเปลี่ยน
พฤติกรรมการดำรงชีวิต และพัฒนาความรู้ในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น สำหรับเงื่อนไขผู้เข้าร่วมโครงการนั้น จะต้องเป็น
เกษตรกรที่มีปัญหาหนี้สิน ค้างชำระ หรือหนี้ปรับปรุงโครงสร้างที่เกิดจากสาเหตุสุจริตและจำเป็นจริงๆ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในขณะนี้ทางกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้ทาง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งจะมีการเริ่มรับจำนำ ในวันที่ 7 ต.ค.นี้ โดยจะใช้วงเงินของทางธนาคารที่มีอยู่กว่า 90,000 ล้านบาท และวงเงินการกู้จากธนาคารพาณิชย์อื่นอีก 320,000 ล้านบาท รวมเป็นวงเงิน 410,000 ล้านบาท ในการดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งการรับจำนำครั้งนี้ จะไม่มีการจำกัดปริมาณในการรับจำนำของเกษตรกรแต่ละราย ซึ่ง นายธีระชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนการป้องกันการทุจริตนั้น จะมีอยู่ในทุกๆ ขั้นตอนของการดำเนินการ เพื่อให้เกิดความรัดกุมมากที่สุด พร้อมมั่นใจว่าทาง กระทรวงพาณิชย์จะระบายข้าวที่รับจำนำออกได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม คาดว่า โครงการดังกล่าวอาจออกเป็นบัตรแถบแม่เหล็กคล้ายบัตรเดบิตการ์ด ให้เกษตรในการซื้อสินค้า และจะมีการเรียกเก็บค่าชำระบริการในทุกๆ 6 เดือน
พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าวที่ได้มีการปรับปรุงนั้น คาดว่า จะแล้วเสร็จในปี 2555 และเชื่อว่า จากการปรับรูปแบบนั้นจะช่วยลดภาระในการดำเนินการได้เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เปิดเผยว่า ทางกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้ทางธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ดำเนินนโยบายพักหนี้ครัวเรือนของเกษตรกรรายย่อย และผู้มีรายได้น้อย ที่มีหนี้ต่ำกว่า 500,000 บาท และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ สำหรับผู้ที่มีหนี้เกิน 500,000 บาท ซึ่งทางธนาคารจะพักชำระหนี้ให้กับลูกค้า โดยไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยจะเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2554 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2557
พร้อมกันนี้ทางธนาคารจะจัดทำโครงการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกรพักหนี้อย่างครบวงจร เพื่อให้มีการปรับเปลี่ยน
พฤติกรรมการดำรงชีวิต และพัฒนาความรู้ในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น สำหรับเงื่อนไขผู้เข้าร่วมโครงการนั้น จะต้องเป็น
เกษตรกรที่มีปัญหาหนี้สิน ค้างชำระ หรือหนี้ปรับปรุงโครงสร้างที่เกิดจากสาเหตุสุจริตและจำเป็นจริงๆ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในขณะนี้ทางกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้ทาง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งจะมีการเริ่มรับจำนำ ในวันที่ 7 ต.ค.นี้ โดยจะใช้วงเงินของทางธนาคารที่มีอยู่กว่า 90,000 ล้านบาท และวงเงินการกู้จากธนาคารพาณิชย์อื่นอีก 320,000 ล้านบาท รวมเป็นวงเงิน 410,000 ล้านบาท ในการดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งการรับจำนำครั้งนี้ จะไม่มีการจำกัดปริมาณในการรับจำนำของเกษตรกรแต่ละราย ซึ่ง นายธีระชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนการป้องกันการทุจริตนั้น จะมีอยู่ในทุกๆ ขั้นตอนของการดำเนินการ เพื่อให้เกิดความรัดกุมมากที่สุด พร้อมมั่นใจว่าทาง กระทรวงพาณิชย์จะระบายข้าวที่รับจำนำออกได้ทั้งหมด
สนับสนุนเนื้อหา
