ปากีสถานโวย! สังหาร บินลาดิน โดยพลการ

(4 พ.ค.) รัฐบาลปากีสถาน ได้ออกแถลงการณ์โจมตีสหรัฐ จากกรณีสังหาร โอซามา บินลาดิน ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัล เคด้า โดยกระทรวงการต่างประเทศของปากีสถานได้ปฎิเสธการรับรู้เรื่องปฎิบัติการดังกล่าว อีกทั้งยังเผยว่าไม่มีการแจ้งว่าจะนำเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์สหรัฐออกจากฐานทัพในปากีสถาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยร่วมมือกัน และปากีสถานรู้สึกวิตกกังวลอย่างยิ่ง โดยปฎิบัติการของสหรัฐเป็นการกระทำเพียงพลการฝ่ายเดียว และอาจถือเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระดับนานาชาติด้วย

ขณะที่ด้าน นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวเผยว่า หน่วยซีลได้ปฎิบัติการเตรียมจับกุม บินลาดิน โดยใช้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ เหนือบ้านหลังดังกล่าวและได้เข้าเคลียร์พื้นที่จากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่ง ในปฎิบัติการที่ใช้เวลาเกือบ 40 นาที โดยทางทำเนียบขาวต้องการจะจับเป็นเขา แต่ภารกิจของหน่วยซีลเสี่ยงอันตรายจากบุคคลจำนวนมากซึ่งเต็มไปด้วยอาวุธปืน จึงเกิดการจึงปะทะกันขึ้น

บินลาดิน ถูกสังหารในสภาพไม่มีอาวุธ แต่เขาได้พยายามจะขัดขืนการจับกุม และมีการยิงตอบโต้ต่อการจับกุมดังกล่าว ส่วน อมาล อัล ซาดาห์ ภรรยาของเขาได้พุ่งเข้าหาสมาชิกหน่วยซีล ทำให้เธอถูกยิงที่บริเวณขา แต่ไม่ได้ถูกสังหาร และเธอไม่ใช่โล่ห์มนุษย์แต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ลูกสาววัย 12 ปีของเขา ที่อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เห็นเหตุการณ์ช่วงที่บิดาถูกยิงด้วย ซึ่งทางการสหรัญจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเรื่องนี้ต่อไป

ด้าน นายลีออน พาเน็ตต้า ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐ หรือ ซีไอเอ ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงมีความวิตกในทำเนียบขาวที่จะเปิดเผยภาพศพ บินลาดิน เนื่องจากเห็นว่าภาพดังกล่าวเป็นเรื่องอ่อนไหว ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็ลังเลที่จะอนุญาตให้มีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวหรือไม่ เนื่องจากเกรงว่าจะกลายเป็นประเด็นขาดการเคารพต่อผู้ตาย กระตุ้นให้เกิดกระแสโต้แย้งขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ทางทำเนียบขาวจะตัดสินใจครั้งสุดท้ายสำหรับกรณีนี้