ตร.หอบสำนวน ฟ้อง! พธม.บุกสนามบิน

ตร.หอบสำนวน ฟ้อง! พธม.บุกสนามบิน

ตร.หอบสำนวน ฟ้อง! พธม.บุกสนามบิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ.ต.อ.เอกรัตน์ ลิ้มสังกาศ ผกก.สส.บก.น.9 ในฐานะ พนักงานสอบสวน คดีกลุ่มพันธมิตรฯ บุกยึดสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ ปี 2551 นำสำนวนเอกสารหลักฐานของ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ นายการุณ ใสงาม ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวจำนวน 24 ลัง 165 แฟ้ม ให้พนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 คน โดย พ.ต.อ.เอกรัตน์ เปิดเผยว่า สำหรับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ผู้ต้องหาที่ได้รับการปล่อยตัวออกไป และผู้ต้องหาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปฝากขัง ซึ่งบางคน กำหนดการฝากขังจะหมดในวันที่ 22 มี.ค. นี้ จึงต้องดำเนินการสั่งฟ้องให้ทันก่อนกำหนด สำหรับผู้ต้องหาที่ได้รับการปล่อยตัวไปนั้น จะนัดมาอีกครั้ง เพื่อส่งสำนวนให้กับทางพนักงานอัยการ ในวันที่ 5 เม.ย. นี้ สำหรับผู้ต้องหาคนใดที่ไม่ได้เดินทางมาในวันดังกล่าว ก็จะดำเนินการออกหมายจับ โดยในคดีนี้ มีผู้ต้องหาทั้งสิ้น 114 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการออกหมายจับอีก 18 คน

ด้าน นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เปิดเผยว่า ขั้นตอนต่อไป ทางพนักงานอัยการจะดำเนินการพิจารณาพยานหลักฐาน หากหลักฐานชัด ก็สามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนกรณีหากเลยกำหนดการฝากขังไปแล้ว ก็สามารถดำเนินการสั่งฟ้องย้อนหลังได้เช่นเดียวกัน

ขณะที่ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีการสั่งฟ้องผู้ต้องหา ในคดีกลุ่มพันธมิตรฯ บุกยึดท่าอากาศยานดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ว่า ในวันนี้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีความเห็น โดยพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาก่อการร้าย รวม 15 คน จากเดิมที่คณะพนักงานสอบสวน มีความเห็นสั่งฟ้องในคดีนี้ทั้งสิ้น 25 คน และสั่งฟ้องในข้อหากระทำผิดตาม พ.ร.บ.การบินฯ 104 คน ซึ่งในจำนวน 15 คน ยังคงสั่งฟ้องในข้อหาก่อการร้ายนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งรุ่น 1 และรุ่น 2

สำหรับการพิจารณาสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา 10 คน นั้น โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ข้อหาก่อการร้ายมีการระบุรายละเอียดไว้ส่วนหนึ่งว่า เจตนาพิเศษ ซึ่งเจตนาพิเศษนั้นต้องมีการตั้งในทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการขนส่ง กระบวนการปกครอง โดยหากดูจากเนื้อหาในสำนวน ก็ไม่สามารถพิสูจน์ความผิดได้ ทำให้อาจจะหลุดในส่วนนี้ไปแต่อย่างไรก็ตาม คงมีความผิดตาม พ.ร.บ.การบินฯ ที่มีโทษสูงไม่ต่างกัน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook