นายกฯ อ้าง ต้นทุนสูงทำของแพงทั่วโลก

นายกฯ อ้าง ต้นทุนสูงทำของแพงทั่วโลก

นายกฯ อ้าง ต้นทุนสูงทำของแพงทั่วโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ โดยยอมรับปัญหา เรื่องของแพงยังได้รับการร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าหลักๆ เช่น น้ำมันปาล์ม ที่รัฐบาลเข้าไปแก้ปัญหา จะมีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยมีการนำน้ำมันปาล์ม ในสาขาพลังงานมาผลิต เพื่อเร่งรัดจัดจำหน่ายไปทั่วประเทศ ขณะที่เมื่อวันจันทร์ ที่ผ่านมา ตนได้ไปสำรวจตลาด พบว่า น้ำมันฝาสีสมพู ยังไม่มีการออกมาจำหน่าย แต่บางห้างสถานการณ์ก็ได้คลี่คลายไปแล้ว ซึ่งได้กำหนดราคาจำหน่าย อยู่ที่ ขวดละ 47 บาท โดยเชื่อว่าปลายสัปดาห์ฝาสีชมพู จะเริ่มออกจำหน่าย พร้อมกันนี้ ยังได้ขอร้องประชาชน อย่าซื้อสินค้าไปกักตุ้นไว้ เพราะจะทำให้ขาดตลาด ไม่เพียงพอจำหน่าย ส่วนคนที่ขายเกินราคา ถือว่า เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย พร้อมกันนี้ ยังได้เรียกร้องให้ประชาชนแจ้งทางการว่า ขณะนี้ในย่านชุมชน ยังมีปัญหาอยู่หรือไม่ ส่วนปัญหาน้ำตาลราคาแพง ยืนยัน ไม่ได้ได้ขาดแคลน แต่ยอมรับมีการลักลอบนำจำหน่ายยังประทเศเพื่อนบ้าน ซึ่งตนได้สั่งการกระทรวงอุตสาหรรม และกระทรวงพาณิชย์ ไปแก้ปัญหาแล้ว

ส่วนปัญหาน้ำมันภาคขนส่งนั้น รัฐบาลได้ตรึงราคาน้ำมันดีเซล ไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท ถึงสิ้นเดือน เม.ย. ส่วนเงินในกองทุนน้ำมัน ที่เหลือเพียง 7 พันล้านบาทนั้น จากการตรวจสอบ พบว่า มีการนำไปอุดหนุนในภาคก๊าซหุงต้มด้วย ดังนั้น พรุ่งนี้จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือเรื่องหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุน ขณะที่สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ได้ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในลาดโลก ซึ่งได้ให้ทุกหน่วยงาน บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน โดยกระทรวงการคลัง ได้ไปวิเคราะห์ตัวเลข และจะรายงานให้ตนทราบพรุ่งนี้ นอกจากการช่วยเหลือประชาชน ด้วยการตรึงราคาแล้ว รัฐบาลยังมีแนวคิดเพิ่มรายได้ให้ประชาชน โดยพรุ่งนี้ จะเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร การขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และภาคเอกชน รวมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อให้สอดคล้องกับราคาสินค้าแพงในปัจจุบัน



นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยด้วยว่า ได้เตรียมหารือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อกำหนดวันยุบสภา และเตรียมการเลือกตั้งครั้งใหม่ หลังมีระบรมราชโองการ โปรดเกล้า โปรดกระหม่อม แก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึง ความคืบหน้าการช่วยเหลือแรงงานไทย ในลิเบีย ว่า มีแรงงานไทยอยู่ในลิเบีย จำนวน 2 หมื่นคน ซึ่งบางส่วนได้ทยอยกลับมาแล้ว ส่วนรัฐบาลช่วยเหลือกลับประเทศไทย จำนวน 4 พันคน สำหรับที่เหลือ ได้กระจายไปอยู่ในพื้นที่ ที่ปลอดภัยแล้ว โดยกระทรวงแรงงาน จะดูแลเรื่องการจ่ายเงินชดเชยให้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook