ประมวล เพลงประกอบละคร ที่ไม่มีวันตาย

เมื่อครั้งที่แล้ว หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ได้ไขปริศนาถึงสาเหตุที่ทำไม้...ทำไมละครไทยที่นำมาปัดฝุ่นถึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่ากับของเดิม ดังนั้นวันนี้เลยขอต่อยอดด้วยการพูดถึงเพลงประกอบละครทีวีไทยเหล่านี้ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเรื่องนั้นๆ ไปเลย

จะเห็นได้ว่าแม้ละครเก่า จะถูกนำกลับมาทำใหม่กี่ครั้งกี่หน ก็ต้องเปลี่ยนตัวนักแสดง รูปแบบวิธีการเล่าเรื่องใหม่ และเพลงจะเปลี่ยนคนร้องมาแล้วกี่คนต่อกี่คน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนเดิม คือ เพลงประกอบละคร ที่ยังคงใช้เพลงเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง กลายเป็นความอมตะของ บทเพลง เหล่านั้น จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของละครไปโดยปริยาย

ถึงแม้สรรพสิ่งจะผกผันไปตามกาลเวลา นักแสดงที่เคยวาดลายในเรื่องต่างๆ อาจจะล้มหายตายจากกันไปบ้างแล้ว หรือผู้สร้างจะออกแบบเนื้อหาวิธีการเล่าเรื่องของละครใหม่อย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยตาย และกลายเป็นอมตะ ที่ผู้จัดทุกยุคทุกสมัยต้องนำกลับมา คือเนื้อหาของเพลงละครที่เมื่อไรนำกลับมาเล่าใหม่ ก็มีอันต้องปลุกชีวิตของพวกมันให้ตื่นขึ้นมาเท้าความทรงจำให้แก่คนดูนึกภาพถึงเมื่อนั้น

เริ่มจากที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ กับ กักขังฉันเถิดกักขังไป ขังตัวอย่าขังหัวใจดีกว่า อย่าขังหัวใจให้ทรมาน ให้ฉันเศร้าโศกา เหมือนว่าฉันเป็นเช่นดังจำเลย เพลง จำเลยรัก ขับร้องโดย พั้นช์- วรกาญจน์ โรจนวัชร ในละครเรื่อง จำเลยรัก เวอร์ชั่นที่แสดงโดย อั้ม- อธิชาติ ชุมนานนท์ กับ แอฟ- ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ที่กำลังเรียกเรตติ้งอยู่ในขณะนี้

อีกเรื่องที่ถูกนำมาฉายซ้ำบ่อยๆ ไม่แพ้ใคร ก็คือละครที่มีชื่อเดียวกับเพลงอย่าง บ้านทรายทอง ที่มีประโยคเด็ดๆ ว่า นี่คือสถาน แห่งบ้านทรายทอง ที่ฉันปองมาสู่ ฉันยังไม่รู้ เขาจะต้อนรับ ขับสู้เพียงไหน อาจมียิ้มอาบ ฉาบบนสีหน้า ว่ามีน้ำใจ แต่สิ่งซ่อนไว้ ในดวงจิต คือความริษยา ซึ่งประพันธ์คำร้องโดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ไม่ว่าจะทำมากี่เวอร์ชั่น เปลี่ยนนักแสดง เปลี่ยนโลเกชั่นอย่างไร เชื่อว่านับจากนี้ไป เพลงนี้ก็จะยังคงใช้เป็นเพลงประกอบอย่างแน่นอน

ความแรงยังไม่ตก คงหนีไม่พ้นละครที่ถูกนำมาเคาะสนิมอยู่ตลอด คือเรื่อง คู่กรรม เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย บทเพลง คู่กรรม ที่มีท่อนฮุกที่ว่า ดังนรกชังหรือสวรรค์เเกล้ง เเกล้งทรมานให้ฉันได้เจอ เกลียดชิงชังสุดท้ายรักเธอ เเต่พอเผลอ พรากเธอดับสูญ เหมือนกับเพลง ดาวพระศุกร์ ตั้งแต่สมัย กบ- สุวนันท์ คงยิ่ง กับ หนุ่ม- ศรราม เทพพิทักษ์ หรือจะเป็นเวอร์ชั่นที่ บรู๊ค- ดนุพร ปุณณกันต์ แสดงคู่กับ เมี่ยง- อติมา ธนเสนีวัฒน์ ก็ยังคงใช้เพลงเดียวกัน โดยมีท่อนอมตะคือ คืนนี้เป็นคืนเดือนแรม มองนภาไม่แจ่ม แลแอร่มแค่แสงดารา ดาวสุกใสอยู่ปลายฟากฟ้า แสงแจ่มเหนือมวลดารา เป็นทั้งดาวฟ้า ดาวใจ ร้องโดย ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์

ต่อด้วย ละครเรื่อง สุดแต่ใจจะไขว่คว้า ที่มีชื่อเพลงชื่อเดียวกัน มีเนื้อหาที่ว่า สุดแต่ใจจะไขว่คว้า...ตั้ง ใจทำดังหวังวาดไว้ ไม่คิด ฝันไป ให้ไกล เกินจริง รู้ คุณค่า ของคน ไม่ทิ้ง ไขว่คว้า ให้จริง ฝันคง ไม่ไกล ขับร้องโดย ต๊ะ- ฌานิศ ใหญ่เสมอ ซึ่งฟังเมื่อไร ก็สามารถรู้ได้ทันที ว่าเป็นละครจากเรื่องอะไร ล่าสุดช่อง 3 จะนำมาผลิตใหม่ เชื่อขนมกินได้ว่าเพลงนี้ก็คงจะกลับมาให้ได้ยินอีกครั้งอย่างแน่นอน

ด้านละครเรื่อง ปริศนา ก็มีเพลงประจำตัวอย่าง ความในใจ กับท่อนร้องอมตะ หากฉันเพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย อย่างน้อย อาจทำให้ต้องเฉลียวใจ ว่ามีความหมายใด ซ่อนในดวงฤทัย บ่งบอกความในใจที่ดวงตา

ส่วนเพลง สัญญาก่อนลา เพลงประกอบละคร มนต์รักลูกทุ่ง กับท่อนฮิตติดหู หอมเอยหอมดอกกระถิน รวยระรินเคล้ากลิ่นกองฟาง เมื่อถูกนำมาทำใหม่ ก็ทำให้เกิดเนื้อเพลงใหม่ในเวอร์ชั่นที่กลับมาดังอีกครั้งเมื่อ 10 ปีก่อน ในเพลงที่ร้องว่า ต้องจากกันไป แล้วใครกันเล่า ที่จะคลอเคล้าเอาใจ เมื่อยามที่เราห่างไกล หัวใจคงเหงา แสนเศร้าเพียงใด ต้องห่างเธอไปเหมือนใจหลุดลอย ฉบับแรกร้องโดย ตั้ว- ศรัญยู วงษ์กระจ่าง และ น้ำผึ้ง- ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ และล่าสุด กบ- สุวนันท์ คงยิ่ง กับ ป๋อ- ณัฐวุฒิ สกิดใจ ก็นำมาขับขานใหม่อีกรอบ

เช่นเดียวกับเพลง ลอดลายมังกร จากละครเรื่อง ลอดลายมังกร ที่บทบาทได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเรื่องไปแล้ว ซึ่งเพียงแค่ขึ้นต้นเนื้อเพลงตอนแรก กับท่อนที่ว่า จากแผ่นดินถิ่นโพ้นทะเล ด้วยเรือน้อย ล่องลอยสุดไกลแสนไกล หอบติดมาเสื่อผืนหมอนใบ สู่อ่าวไทยแผ่นดินสยาม ดั่งมังกรซ่อนสุมกายา หลบหลีกมาสุดไกลจากไฟสงคราม ใต้ใบบุญแผ่คุ้มยังจำ ตั้งใจทำสัมมาหากินกันตาย ขับร้องโดย แซม- ประวิทย์ เปรื่องอักษร แห่งวง ซิกส์เซนส์ ที่โด่งดังเมื่อหลายสิบปีก่อน ก็พลอยทำให้นึกถึงละครและบรรยากาศที่ยังตราตรึงใจผู้ชม

เหล่านี้คือส่วนหนึ่งขิง เพลงประกอบละคร ที่ยังคลาสสิคแม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หรือละครเรื่องนั้นๆ จะถูกนำกลับมาทำซ้ำๆ อีกกี่รอบก็ตาม

สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย