6 ความประทับใจจาก genie fest 2020 : Rock Mountain ที่ทำให้เราฟินจนไม่อยากกลับ!

ถือเป็นงานใหญ่ประจำค่าย genie records ที่จัดมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้จัดทุกปี ทว่าแฟนเพลงต่างก็รอคอยงานๆ นี้มาโดยตลอด ไล่เรียงมาตั้งแต่ genie fest 16 ปีแห่งความร็อก หรือ g16 ณ ริมทะเลสาบเมืองทองธานี ในปี 2014 ต่อด้วย genie fest 19 ปี กว่าจะร็อกเท่าวันนี้ หรือ g19 ณ ราชมังคลากีฬาสถาน ในปี 2018 แต่สำหรับ genie fest 2020 ที่มาในชื่อธีม Rock Mountain ก็ขอบุกไปถึงเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ณ Jolly Land กับบรรยากาศแห่งเทือกเขาที่ทำเอาฟินสุดๆ

และเมื่อบวกกับไลน์อัพศิลปินที่เรียงตามตัวอักษรอย่าง 25hours, Big Ass, Bodyslam, Cocktail, Klear, Labanoon, Num Kala, Palmy, Paradox และ Potato บอกเลยนี่คือตัวท็อปแห่งวงการเพลงบ้านเราทั้งสิ้น

Sanook Music เดินทางกว่า 500 กิโลเมตร เพื่อไปสัมผัสกับธรรมชาติ คลอเคล้าเสียงดนตรีร็อกที่ทุกคนคุ้นเคย และนี่คือ 6 ความประทับใจที่ยังติดตา ตรึงใจ ที่เราอยากจะเล่าสู่กันฟัง

 

01 ปราสาทสุดอลัง กับฉากหลังแห่งขุนเขา

ก้าวเท้าเข้าสู่ดินแดน genie fest 2020 : Rock Mountain ก็ถึงกับตะลึงงันกับเวทีสุดอลังการที่เนรมิตปราสาทขนาดยักษ์เป็นแบ็กกราวนด์ แนวยาวของเวทีที่ศิลปินเดินไปไหนต่อไหนได้สุดทาง ในตอนนั้นไม่รู้ว่าเรากำลังอยู่ในเทศกาลดนตรีในเมืองไทยหรือต่างประเทศกันแน่

แต่จะบอกว่าไฮไลต์อยู่ในช่วงโพล้เพล้ที่ดวงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า เพราะด้านหลังของปราสาทนั้นปรากฏแนวทิวเขากับท้องฟ้าสีสวย ภาพนั้นกลายเป็นภาพจำที่ทุกคนน่าจะหลงรักได้อย่างง่ายดาย

 

02 มวลชนมหาศาล โดดยับร่วมสิบชั่วโมง

หากโปรดักชั่นยิ่งใหญ่ แต่ไร้คนมาดู เทศกาลดนตรีก็คงจะไร้เสน่ห์เป็นแน่แท้ ทว่าคงไม่ใช่กับ genie fest 2020 : Rock Mountain เพราะทุกอาณาบริเวณไม่ว่าจะเป็นด้านล่างหรืออัฒจันทร์ธรรมชาติซึ่งเป็นเนินขั้นบันไดสูงขึ้นไป ต่างแน่นขนัดไปด้วยแฟนเพลง แถมยังอึด ถึก ทน กระโดดไปกับท่วงทำนองสุดมันตั้งแต่ Paradox ซึ่งขึ้นเป็นวงแรกในช่วงสี่โมงเย็นไปจนถึงตีสองกว่า ขอคารวะ... ยอม!

 

03 เด็กไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

ปกติช่วงเวลาเซตอัพของแต่ละวงก็อาจจะมีการเปิดเพลงเพื่อเลี้ยงบรรยากาศเอาไว้ แต่สำหรับ genie fest 2020 : Rock Mountain ทาง Show Director ที่ชื่อ ขจรเดช พรมรักษา หรือ กบ Big Ass ก็พาน้องๆ วงดุริยางค์จากโรงเรียนสุรนารีวิทยา จังหวัดนครราชสีมา มาโชว์ฝีมือทางดนตรี ซีนที่เล่นเพลงชาติไทย พร้อมธงไตรรงค์ที่เป็นวิชวลอยู่บนเวทีช่างน่าขนลุกเป็นอย่างยิ่ง

 

04 ลมหนาวปะทะกับอุณหภูมิไม่ถึง 20 องศาเซลเซียส

ช่วงกลางวันที่เขาค้อแดดอาจจะแรง แต่เมื่อเข็มสั้นเข็มยาวเดินหน้าไปเรื่อยๆ ลมเย็นๆ เริ่มปะทะร่างกาย หลายคนหยิบเสื้อหนาวเสื้อแจ็คเกตขึ้นมาสวมใส่ เช็กแอปฯ อุณหภูมิดูสักหน่อย เริ่มลดลงสู่ระดับ 20 กว่าองศา มุ่งหน้าสู่ 18-19 ในช่วงประมาณตีหนึ่ง ซึ่งหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้เปิดมือถือดูอีกแล้ว แต่คาดว่าน่าจะลดต่ำลงไปอีกนั่นแหละ มันจะมีอะไรดีไปกว่าการนั่งฟังเพลงกับความหนาวที่หาได้ยากในประเทศไทยอีกล่ะ

 

05 กองทัพเพลงเก่า ทำเอาเราต้องแหกปาก

แต่ละวงมีเวลาโชว์ราวๆ 1 ชั่วโมง แน่นอนว่าทุกวงขนเพลงฮิตมาโชว์แบบยาวๆ แต่ที่ฟินแบบหนักมากตั้งแต่อินโทรก็คือบรรดาเพลงเก่าที่ไม่ได้ฟังแบบสดๆ มาเนิ่นนาน อย่าง หนุ่ม กะลา มาพร้อมเมดเลย์เพลงเศร้าที่มีทั้ง “บอกสักคำ” หรือแม้แต่ “ใช่ฉันหรือเปล่า”, Labanoon จัดให้อย่างสาสมกับ “ยาม”, “บังอาจรักเธอ”, “191”, “คนตัวดำ” ส่วน Bodyslam ก็มี “ความรักทำให้คนตาบอด” มามอบให้คนอกหักที่กระจายอยู่ทั่วทั้งเทศกาล

 

06 Palmy is the best!

เอาเข้าจริงทุกวงต่างงัดพลังแห่งดนตรีมามอบให้กับเหล่าสาวก แต่หากจะให้เลือกเพลงหนึ่ง เราขอยกให้ ปาล์มมี่ (อีฟ ปานเจริญ) ที่ยังคงเอกลักษณ์การถอดรองเท้าขึ้นเวที เพลงใหม่อย่าง “ซ่อนกลิ่น” และ “ดวงใจ” พอนำมาเล่นสดก็ได้เสน่ห์ที่หาไม่ได้จากเวอร์ชั่นที่เราฟังทางสตรีมมิ่ง ส่วนเพลงเก่าก็มาทั้ง “ทำเป็นไม่ทัก”, “ความเจ็บปวด” รวมไปถึง “อยากร้องดังดัง” นอกจากนั้น “พี่มี่” ยังมีซีนกวนๆ ที่เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของแฟนๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นซีนกระโดดหนีทีมงานที่มาติดไวร์เลสให้ รวมไปถึงช่วงที่ให้แฟนเพลงร้องตามที่อยากจะบอก ปาล์มมี่ว่า... มันยากจังเลยนะครับ แหะๆ

 

แม้ว่าความประทับใจจะเต็มเปี่ยม แต่ genie fest 2020 : Rock Mountain ก็ยังแอบๆ มีข้อด้อยอยู่บางประการ ไม่ว่าจะเป็นระบบซาวด์โดยรวมที่เมื่ออยู่กลางแจ้งและเจอลมก็ทำให้ซาวด์มีแกว่งๆ อยู่โดยตลอด รวมไปถึงห้องน้ำที่ยังคงไม่เพียงพออย่างเห็นได้ชัด

ยังไม่รู้ว่า genie fest ครั้งต่อไปจะจัดเมื่อไหร่และที่ไหน ระหว่างนี้ก็ดูภาพความประทับใจจาก genie fest 2020 : Rock Mountain ไปก่อนก็แล้วกัน