“Potato” กับ “Magic Hours” น่าอัศจรรย์ที่ทำฮอร์โมนพลุ่งพล่านถึงขีดสุด (วันแรก)
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมายาวจนถึงปัจจุบัน วงดนตรีมากประสบการณ์อย่าง Potato ได้ก้าวผ่านเรื่องราวมากมายในวงการ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านวิธีการฟังเพลง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสมาชิก ซึ่งที่ผ่านมาพวกเขาก็ได้ปล่อยเพลง 7 อัลบั้มและมีเพลงฮิตนับไม่ถ้วน ซึ่งหลายๆ ผลงานก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่สวยงามและแสนเศร้าของแฟนๆ
เมื่อก้าวปีที่ 18 Potato ก็ได้มาพร้อมอัลบั้ม ชุดที่ 7 และคอนเสิร์ตใหญ่ที่ใช้ชื่อว่า POTATO Magic Hours Concert #มันคือเรื่องจริง ซึ่งงานครั้งนี้ที่จัดขึ้น ณ อิมแพ็ค อารีน่า ในวันที่ 30 พฤศจิกายน และ 1 ธันวาคม โดยถือเป็นครั้งแรกที่ทางวงได้จัดงานในฮอลล์ อิมแพ็ค อารีน่า และหลังจากที่เปิดขายไม่นาน บัตรทุกใบก็ถูกจับจองหมด
หลังจากที่ก้าวเข้ามาในอิมแพ็ค อารีน่า ช่วงเวลา 1 ทุ่ม การแสดงของวง Potato ที่นำโดย ปั๊บ-พัฒนชัย ภักดีสุข (ร้องนำ), หั่ง-ทีฆทัศน์ ทวิอารยกุล (กีตาร์), กานต์ อ่ำสุพรรณ (กลอง) และ โอม-ปิยวัฒน์ อนุกูร (เบส) ก็ได้ปรากฎตัวอย่างเรียบง่ายพร้อมร้องเพลง "เธอยัง" ทั้ง 4 คนแทนการต้อนรับที่ติดตลก ก่อนที่จะพวกเขาจะกลับมาพร้อมมือคีย์บอร์ดที่เป็นแบ็คอัพอย่าง อั้ม-เกียรติยศ มาลาทอง พร้อมเล่นเพลงที่มีเนื้อหาสื่อถึงความสว่างและสดใสอย่าง "ฮู้ฮู", "Circle", "อรุณ" และ "บังเอิญ โลกกลม พรหมลิขิต" ซึ่ง ปั๊บ โอม หั่ง ได้ออกไปทักทายแฟนๆ บนทางเดินที่อยู่ติดกับโซนที่นั่ง ท่ามกลางบรรยากาศที่เหมือนกับช่วงดวงอาทิตย์ขึ้น ตามธีมของ Magic Hours ที่สื่อถึงช่วงเวลาที่แสงตะวันกำลังจะขึ้นหรือจากท้องฟ้าไป โดยเราได้สังเกตว่างานครั้งนี้มีการทำลูกบอลกลมขนาดยักษ์บนเพดานที่ชวนนึกถึงดวงอาทิตย์ และในขณะเดียวกันตัวเวทีแนวราบและการวางจอตามแนวนอน ก็มีความคล้ายกับเส้นขอบฟ้า
เมื่อทักทายแฟนๆ เสร็จทางวงก็ได้ใส่เต็มเพลงอกหักที่ทุกคนรู้จักดีไม่ว่าจะเป็น "นี่แหละความเสียใจ", "ปากดี", "ทนพิษบาดแผลไม่ไหว" และ "รักแท้ ดูแลไม่ได้" ก่อนที่จะถึงคิวแขกรับเชิญคนแรกอย่าง อะตอม-ชนกันต์ รัตนอุดม ที่มาร้องเพลง "อ้าว" และ "รักเธอไปทุกวัน" ซึ่งมาพร้อมกราฟฟิคสีสันสดใสและบรรยากาศน่ารัก ที่ตรงข้ามกับเพลงเศร้าที่ฟังก่อนหน้านี้ โดยงานนี้อะตอมเป็นเหมือนตัวแทนแฟนเพลง Potato ที่กลายมาเป็นศิลปินมีชื่อเสียงเหมือนวงในดวงใจ
หลังจากที่อะตอมได้ลงจากเวทีไป ปั๊บ Potato ได้เล่าถึง ปีย์-ปีย์ชนิตว์ อ้นอารี นักร้องนำผู้ล่วงลับ พร้อมเล่นเพลง "ไม่ให้เธอไป" ที่ปีย์ร่วมเขียน ก่อนที่ทางวงจะเล่นเพลงเศร้าอย่าง "ทิ้งไว้กลางทาง", "ภาษากาย", "กล้าพอไหม" และเพลงใหม่ "พอแล้ว" ที่ปั๊บแต่งเอง ก่อนที่จะสลับมาร้องเพลงรักอย่าง "สิ่งของ" ของวง Klear และ "แชร์ (Share)" ที่ แพท-รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย นักร้องนำวง Klear มาร่วมแจมในฐานะน้องสาวร่วมค่าย genie records ของปั๊บ จนทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความละมุนชวนอบอุ่นใจ จาก 2 เพลงที่สื่อถึงการดูแลคนรัก
ด้วยความเป็นวงที่มีเพลงดังเยอะมาก ทำให้ กบ-ขจรเดช พรหมรักษา มือกลองวง Big Ass ที่เป็น Show Director ได้ทำพาร์ท โถวิเศษ ที่สมาชิกอย่าง ปั๊บ, โอม และ หั่ง ได้ออกมาอยู่กลางฮอลล์พร้อมร้องเพลงอย่าง "น้ำหอม", "ทำนองที่หายไป", "ขอบใจ", "สามเวลา" และ "หวังดีเสมอ" ซึ่งนอกจากการย้อนรำลึกเพลงในอดีตแล้ว ยังมีพาร์ทที่ปั๊บร้องเพลงแทนคำขอบคุณให้กับ กานต์ มือกลองที่เพิ่งกลายเป็นคุณพ่อ และต้องมาขึ้นคอนเสิร์ตหลังวันเกิดลูก 1 วัน และการแนะนำ ฟองเบียร์-ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม นักแต่งเพลงผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวง โดยช่วงนี้ก็จบลงด้วยเซอร์ไพรส์ เมื่อสมาชิกทั้ง 4 ได้งัดเพลง "ชีวิตที่ขาดเธอ" ผลงานพิเศษที่วง Potato ได้ร้องเพลงประกอบซีรีส์เกาหลี Princess Hours หรือ เจ้าหญิงวุ่นวายและเจ้าชายเย็นชา และปั๊บเองก็ได้ร้องเวอร์ชั่นภาษาเกาหลีท่ามกลางกระดาษที่โปรยจากเพดานที่เหมือนหิมะ ซึ่งเราเองคาดไม่ถึงว่าจะได้ฟังเพลงนี้ เพราะที่ผ่านมาเพลง "ชีวิตที่ขาดเธอ" ไม่ได้อยู่ในแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งและทางวงก็ไม่ได้นำมาเล่นสดตามงานทั่วไป
พอผ่านชั่วโมงแห่งความซึ้งไปไม่นาน ก็ถึงเวลาการแสดงโชว์ที่เดือดอีกครั้ง เมื่อกานต์ได้มารัวกลองกลางเวทีโชว์ความสามารถในการเป็นกระดูกสันหลังทางจังหวะวง ก่อนที่จะถึงการแสดงเพลง "ทุกด้านทุกมุม" ที่มาพร้อมเซอร์ไพรส์เมื่อ ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย นักร้องนำวง Bodyslam ได้ขึ้นมาร่วมแจมบนเวที ก่อนที่จะเผยว่าสมาชิกคนอื่นๆ อย่าง ปิ๊ด-ธนดล ช้างเสวก (เบส), โอม เปล่งขำ (คีย์บอร์ด), ชัช-สุชัฒติ จั่นอี๊ด (กลอง) และ ยอด-ธนชัย ตันตระกูล (กีตาร์) จนทำให้เกิดการแสดงเพลง "ความเชื่อ" เวอร์ชั่น Bodyslam x Potato ที่มาพร้อมการแสดงที่เร้าอารมณ์และภาพสมาชิกทุกคนบนหน้าจอ จนในตอนนั้นจุดนั้นไม่มีใครสามารถนั่งติดเก้าอี้ได้อีกต่อไป ก่อนจะปิดท้ายเพลง "คนที่ถูกรัก" ที่ ปิ๊ด, ยอด, โอม (Potato) รวมถึงตูนและปั๊บได้เดินกลับเข้าไปหาผู้ชมอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยในคอนเสิร์ตสเกลอิมแพ็ค อารีน่า
พอถึงช่วงพัก ปั๊บ ก็ได้พิมพ์ข้อความผ่านแอปพลิเคชั่นที่ถูกฉายขึ้นหน้าจอ เพื่อพูดคุยกับทุกคนขณะที่มีอาการน้ำตาไหล แล้วกลับมาพร้อมการแสดงพาร์ทสุดท้ายที่มาพร้อมเพลง "เธอคือเรื่องจริง" ที่เหมือนบทสรุปของเรื่องจริงอันมหัศจรรย์ที่ทางวงได้บอกเล่าตลอด 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยระหว่างที่แสดงก็มีกระดาษที่มีข้อความแทนคำขอบคุณอย่าง "เธอคือเรื่องจริง" พร้อมลายเซ็นสมาชิกโปรยลงมา พร้อมเล่นเพลง "เธอยัง" แบบเต็มๆ อีกครั้ง ก่อนจะนำความเดือดกลับมาสู่เวทีอีกครั้งด้วยเพลง "ยื้อ" ที่มาพร้อมแขกรับเชิญที่ร่วมร้องฟีทเจอริ่งในเพลงดังกล่าวอย่าง เต๋า-ดุลยเกียรติ เลิศสุวรรณ นักร้องนำวง Sweet Mullet ที่มาไม่กี่นาทีแต่ก็ทำให้บรรยากาศเดือดขึ้นทันตาเห็น
ซึ่งหลังจากที่เต๋าอำลาเวที บรรยากาศความอบอุ่นก็ค่อยๆ กลับมาเมื่อทางวงเล่นเพลง "ที่เดิม", "เพียงพอ" และ "ขอบคุณที่รักกัน" เพื่อส่งผู้ชมกลับบ้าน พร้อมกับฉากหลังที่ค่อยๆ มืดลงเหมือนดวงตะวันที่ค่อยๆ อำลาท้องฟ้า ราวกับเป็นสัญญาณ Magic Hours ได้ผ่านไปแล้ว โดยก่อนที่จะลาจากเวทีสมาชิกก็ได้เดินแจกไม้กลอง ปิ๊กกีตาร์ และ เสื้อวงเพื่อเป็นของที่ระลึกให้กับแฟนๆ ที่อยู่กับพวกเขาตลอด 4 ชั่วโมง
สิ่งที่เราประทับใจเกี่ยวกับงานครั้งนี้อย่างมาก็คือเซ็ทลิสต์ที่มาพร้อมเพลงตั้งแต่อัลบั้มแรก มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถูกเลือกมาได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะผลงานที่มีเนื้อหาอกหัก ให้กำลังใจ หรือ เพลงฟีลกู้ด จนทำให้ผู้ชมได้ย้อนรำลึกเพลงเหล่านั้นภายใต้บรรยากาศที่เร้าอารมณ์ จนทำให้ฮอร์โมน อะดรีนาลีน ที่เกิดขึ้นเมื่อมีความตื่นเต้น และฮอร์โมน เอ็นโดรฟิน ที่มาพร้อมความสุขของเรานั้นพุ่งพล่านจนเราไม่รู้สึกเหนื่อยตลอดงาน รวมถึงการที่พวกเขาพยายามใกล้ชิดแฟนๆ จนบรรยากาศในงานชวนนึกถึงภาพเวลาที่ศิลปินเล่นแคมปัสทัวร์ตามสถานศึกษา หรือร้านอาหารที่พวกเขาจะอยู่ค่อนข้างใกล้ชิดผู้ฟัง โดยในพาร์ทสคริปต์เรามองว่ามีปัญหาเล็กน้อยในจุดพาร์ทการพูดคุย "โถวิเศษ" ที่ยาวและยืดเยื้อไปเล็กน้อย
ทางด้านการแสดงสิ่งที่ทำให้เราทึ่งก็คือพลังงานของปั๊บที่ส่งให้ทุกคน ตลอด 4 ชั่วโมง เพราะถึงแม้จะมีช่วงที่เสียงแกว่ง และร้องไม่ถึงคีย์บ้าง รวมถึงบางจังหวะการพูดที่ไม่ลื่นไหล แต่เขาก็ใช้พลังทั้งหมดที่มีในการให้ความสนุก ถ่ายทอดเพลง รวมถึงละลายพฤติกรรมแฟนๆ ที่อยู่นิ่งให้กระโดดจนลืมอายุตัวเอง จนเราสงสัยว่าเขาไปเอาพลังมาจากไหน ในส่วนของ หั่ง, กานต์ และ โอม ก็ได้โชว์ความสามารถด้านดนตรีและร่วมพูดคุยกับปั๊บจนพาร์ทการพูดคุยนั้นไม่น่าเบื่อ และทั้ง 3 ก็ได้ถือโอกาสโชว์ความสามารถด้านการร้องเพลง ที่หลายๆ คนไม่เคยเห็นในงานครั้งนี้ด้วย
ส่วนแขกรับเชิญงานครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น อะตอม, แพท Klear ก็มาเป็นส่วนเสริมที่ความละมุนในโชว์ เต๋า Sweet Mullet ที่มาเสริมความเดือดในเพลง "ยื้อ" ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี ในขณะที่วง Bodyslam ก็ได้มาพร้อมการแสดงที่สมบูรณ์และทำให้เกิดโชว์ที่เปรียบเสมือนแบทเทิลทางดนตรีที่วัยรุ่นยุค 2000 ซึ่งโตมากับทั้งสองวงรอคอยมานาน
ทางด้านของโปรดักชั่นงานครั้งนี้ ทางทีม H.U.I. ได้สร้างสรรค์แสงสีเสียงตลอดงานได้อย่างตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะแสงสีเสียงที่มากับแต่ละโชว์ ภาพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกราฟฟิคหรือภาพการแสดงที่ถูกฉายขึ้นจอ รวมถึงควันและเอฟเฟกต์ต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้สนับสนุนความเดือดและอารมณ์ต่างๆ ของโชว์ได้เป็นอย่างดี และในขณะเดียวกันซีนเปิดตัวที่สื่อถึงดวงอาทิตย์ขึ้นและตอนจบก็มีความสอดคล้องกับธีมที่ผู้จัดและวงต้องการสื่อ
ถึงแม้ว่าภาพรวมในส่วนโปรดักชั่นจะออกมาดี แต่พาร์ทซาวด์ดนตรีงาน POTATO Magic Hours Concert #มันคือเรื่องจริง ก็มีปัญหาบางจุด อย่างเช่นซาวด์กีตาร์ที่บาง ซาวด์เบสที่ค่อนข้างนัวๆ รวมถึงซาวด์กลองที่เราสัมผัสได้ว่ามีความก้อง ซึ่งเราเองที่ยืนอยู่ตรงกลางฮอลล์สามารถสัมผัสได้ถึงปัญหาจุดนี้ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้อรรถรสของโชว์หายไปบ้าง
ตลอด 4 ชั่วโมงของวง POTATO Magic Hours Concert #มันคือเรื่องจริง นั้นอาจจะไม่ใช่การแสดงที่สมบูรณ์ 100% แต่สำหรับเราแล้วมันคือชั่วโมงมหัศจรรย์ ที่มาพร้อมเพลงที่ทำให้เราย้อนนึกถึงอดีตทั้งในวันที่มีความสุขและเศร้า และในขณะเดียวกันก็เร้าอารมณ์จนเรากระโดดอย่างไม่หยุดราวกับว่าฮอร์โมนวัยรุ่นในร่างกายกลับมาพุ่งพล่านอีกครั้ง จนทำให้ความทรงจำดีๆ ในงานครั้งนี้จะอยู่ในใจเราไปอีกนาน
>> "กานต์ Potato" เผยข่าวดีได้เป็นคุณพ่อ ก่อนคอนเสิร์ตใหญ่ของวง 1 วัน
>> "Potato" วงดนตรีที่ไม่มองตัวเองเป็น "รุ่นใหญ่" กับการต่อสู้ที่ไม่เคยสิ้นสุด
>> “ปั๊บ Potato” อึ้ง! หลัง “พีช พชร” แสดงเอ็มวีเพลงใหม่ “พอแล้ว” แบบไร้แสตนด์อิน
อัลบั้มภาพ 26 ภาพ