อ่านมุมมองสาวดอกหญ้า "ต่าย อรทัย" ในวันที่ดาวรุ่งลูกทุ่งเกิดขึ้นแทบทุกวัน | Sanook Music

อ่านมุมมองสาวดอกหญ้า "ต่าย อรทัย" ในวันที่ดาวรุ่งลูกทุ่งเกิดขึ้นแทบทุกวัน

อ่านมุมมองสาวดอกหญ้า "ต่าย อรทัย" ในวันที่ดาวรุ่งลูกทุ่งเกิดขึ้นแทบทุกวัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เธอเตรียมรับมืออย่างไร หากถึงวันที่ความนิยมลดน้อยถอยลง

เมื่อเส้นทางในการเป็นนักร้องในสมัยนี้ ไม่ได้ยากลำบากเหมือนเมื่อก่อน ในทัศนคติของคุณมองว่ามันทำให้ความขลังในวงการลูกทุ่งเจือจางลงไหม
ต่าย อรทัย: ความขลังมันไม่ได้ลดลง มันอยู่ที่การโปรโมทสู่การรับรู้ของผู้คน ถ้าเราตัดสินใจแล้วว่าเราจะเป็นนักร้อง เป็นคนมีชื่อเสียง และเลือกที่จะอยู่ในวงการนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะทำให้คนอื่นเห็นว่าเรา 'เห็นง่ายจนเกินไป' หรือ 'เห็นยากแล้วรู้สึกอยากชื่นชมนานๆ' คือสื่อมันพัฒนาของมันไปทุกโมงยามอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงอยู่ที่ตัวเราว่าจะกำหนดให้อนาคตเป็นอย่างไร
 
คุณเองก็เป็นศิลปินที่มาจากสายประกวดมาก่อน คุณจะมีคำแนะนำอย่างไร สำหรับนักร้องลูกทุ่งหน้าใหม่ ให้สามารถยืนระยะในวงการนี้ได้อย่างสง่างามเช่นคุณ
ต่าย อรทัย: ยุคนี้ ศิลปินหน้าใหม่มีโอกาสที่จะได้แสดงศักยภาพของตัวเอง หรือพัฒนาตัวเองได้เร็วมากกว่าต่าย ยกตัวอย่างในเรื่องการร้องเพลง เมื่อก่อนมีคนแนะนำไหม? ไม่มี เราก็คิดเอาเองว่าการร้องเพลงให้ไพเราะ คือฟังต้นแบบแล้วร้องตามให้เหมือนมันถูกแล้ว แต่ในความเป็นจริงตอนมาเป็นนักร้อง สิ่งที่เราคิดว่าทำถูกแล้วมันไม่ใช่ เจอปัญหาเยอะมาก ทั้งเสียงขึ้นจมูก ทั้งร้องคร่อมจังหวะ ทั้งอะไรต่างๆ นานา แต่ยุคนี้ มีรายการประกวดร้องเพลงเกิดขึ้นเยอะมาก ศิลปินรุ่นใหม่มีโอกาสได้รับคอมเมนท์จากมืออาชีพ แล้วกลับไปพัฒนาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ยืนได้เร็ว ดูแลตัวเองได้เร็ว ถ้าทุกคนเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนี้มาทำให้ตัวเองแข็งแรง ต่อให้มันมาเร็วแต่ก็ยังตั้งใจอย่างเต็มที่ ความเต็มที่ ความตั้งใจ ความอดทน ก็จะอยู่กับเราไม่หายไปไหน ไม่ว่าสื่อจะรวดเร็วกว้างไกลแค่ไหนก็ตาม สิ่งเหล่านี้มันยังต้องอยู่ แม้แต่ตัวต่ายเองก็ยังต้องทำ ยังต้องปฏิบัติ ถึงจะสร้างตัวตนของเราให้แข็งแรงในยุคนี้ได้เช่นกัน


 

เราไม่ค่อยเห็นคุณไปเป็นคณะกรรมการในรายการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง เหมือนนักร้องลูกทุ่งคนอื่นๆ ตรงนี้มีเหตุผลอะไรไหม เพราะคุณก็เป็นมืออาชีพในวงการนี้เหมือนกัน
ต่าย อรทัย: เคยมีคนทาบทามบ้างเหมือนกันค่ะ แต่ครูสลาบอกกับต่ายว่ายังไม่ถึงเวลา ตอนนี้เลยขอเป็นบุคคลเบื้องหน้าที่คอยให้กำลังใจผู้เข้าแข่งขันไปเรื่อยๆ ก่อน ส่วนตัวคิดว่าการที่จะไปอยู่ตรงนั้นได้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องใช้ความรู้ความสามารถอย่างเจนจัด เพราะมันเป็นการตัดสินชีวิตคน มันจะตามมาด้วยฟี้ดแบ็ก 2 มุมทั้งบวกและลบ ซึ่งไม่แน่ใจว่าถ้าวันหนึ่งเราไปนั่งอยู่ตรงนั้น จะมีภูมิต้านทานพอหรือเปล่า จะรับแรงเสียดทานได้ไหม แล้วเราจะมีศักยภาพในการไปนั่งคอมเมนท์คนที่เข้าประกวดได้มากแค่ไหน เลยขออยู่ส่งกำลังใจต่อไปก่อนดีกว่า
 
การมีนักร้องดาวรุ่งเกิดขึ้น อาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าเวลาที่จะอำลาเวทีของรุ่นเก่าก่อนใกล้เข้ามาทุกที เคยคิดไหมว่า ถ้าวันหนึ่งความนิยมในตัว ต่าย อรทัย ลดน้อยถอยลงไป คุณจะทำอย่างไร
ต่าย อรทัย: มันไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าวันหนึ่งจะมีศิลปินดาวรุ่งเกิดขึ้น เราได้เห็นสัจธรรมนี้อยู่เป็นประจำกับบุคคลรอบข้าง ศิลปินรุ่นพี่ ครูบาอาจารย์หลายๆ ท่านก็อำลาวงการ มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้น วันนี้เราเกิดขึ้นในวงการ วันหนึ่งเราจะไม่ได้อยู่ตรงนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะมองแบบนี้ เลยไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร ยินดีด้วยซ้ำที่วันนี้มีน้องๆ ดาวรุ่งหลายๆ คนเกิดขึ้น เพราะต่อให้ไม่มีเรา วงการลูกทุ่งยังคงต้องอยู่แล้วเดินต่อไป ถ้ามีแต่เราแล้ววงการลูกทุ่งจะพัฒนาได้อย่างไร หากไร้คนที่จะมาสานต่อ 
 
คิดว่า ต่าย อรทัย จะมีวันที่อิ่มตัวกับวงการลูกทุ่งไหม
ต่าย อรทัย: ตอนนี้ไม่รู้ว่าคำว่าอิ่มตัวอยู่ตรงไหน เอาเป็นว่าปัจจุบันคืออยู่แล้วมีความสุขกับการทำงาน ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำให้ดีที่สุด จนไม่มีแรงทำงานดีกว่า มีแรงทำถึงไหน ก็ถึงตรงนั้น

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก 247freemag

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook