10 ศิลปินระดับโลกที่แจ้งเกิดจากเวที The X Factor
ใครที่เป็นคอเพลงฝั่งอังกฤษน่าจะต้องรู้จักรายการแข่งขันร้องเพลงรายการนี้ดี The X Factor ที่นอกจากจะปั้นศิลปินคุณภาพระดับโลกจากในประเทศอังกฤษมานับไม่ถ้วนแล้ว (อ่านสุดยอดศิลปินจาก The X Factor UK ที่นี่) แต่นอกจากประเทศอังกฤษแล้ว ยังมี The X Factor ต่างประเทศอีกเพียบ ที่ปั้นศิลปินคุณภาพเน้นๆ ดีงามทั้งคนทั้งเพลงมาโดยตลอด จะมีใคร จากประเทศไหนบ้าง มาตามดูกันได้เลยค่ะ
The X Factor UK
1. Leona Lewis
ดีว่าสาวสวยผิวสีน้ำผึ้ง ดีกรี winner ซีซั่น 3 คนนี้ แจ้งเกิดจากเวที The X Factor UK ด้วยเพลง “A Moment Like This” ที่ทำเอาแฟนเพลงตะลึงงันกับพลังเสียงใส และกังวานของเธอตั้งแต่โน้ตแรก แถมยังสานต่อความสำเร็จกับเพลงที่คนทั่วโลกร้องตามได้อย่าง “Bleeding Love” ใครที่ตาม The X Factor มาต้องจำสาวเสียงมหัศจรรย์คนนี้ได้อย่างแน่นอน
2. Olly Murs
รองชนะเลิศอันดับ 1 ของซีซั่นที่ 6 คือหนุ่มหน้าเป็นเสียงใสคนนี้นี่แหละ นอกจากร้องเพลงสนุกสนาน สดใสร่าเริงได้ดีแล้ว ยังเป็นหนึ่งในพิธีกร และนักแสดงมากความสามารถอีกด้วย รับรองว่าไม่มีใครไม่รู้จัก “Troublemaker” “Wrapped Up” “Please Don’t Let Me Go” และ “Dance With Me Tonight” ด้วยเสียงใสมีพลัง และสกิลเอนเตอร์เทนเป็นเลิศ แฟนๆ เลยเทใจให้ทั้งประเทศกันง่ายๆ เลยทีเดียว
ที่น่าสนใจสำหรับรายการแข่งขันประกวดร้องเพลงหลายๆ รายการ รวมทั้ง The X Factor คือ ผู้ชนะเลิศอันดับ 1 บางครั้งก็ไม่ใช่ศิลปินที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เพราะสำหรับ (อดีต) 5 หนุ่ม One Direction ถึงแม้ว่าจะได้แค่อันดับที่ 3 ในซีซั่น 7 แต่ก็ดังเปรี้ยงไปทั่วโลก จะด้วยเพลงป็อบสูตรสำเร็จ หน้าหล่อเหลา และพลังวัยรุ่น หรืออะไรก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นศิลปินอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จเกินหน้าเกินตาศิลปิน The X Factor อื่นๆ ไปเยอะเหมือนกัน
คลิกเพื่อฟังเพลง One Direction
4. Cher Lloyd
ซีซั่น 7 ของ The X Factor UK ไม่ได้ปั้นบอยแบนด์ระดับโลกได้ดีอย่างเดียว ยังมีศิลปินเดี่ยวสาวสวยพลังเสียงเป็นเอกลักษณ์อย่าง Cher Lloyd ด้วย ถึงแม้จะได้ที่ 4 แต่ก็มีชื่อเสียง และโด่งดังเป็นพลุแตกกับซิงเกิล “Want U Back” และ “With Ur Love” feat. Mike Posner (เจ้าของเพลงฮิต “I Took A Pill In Ibiza” ที่ฮอตฮิตไปทั่วผับตอนนี้นี่แหละ)
5. Little Mix
ในที่สุดพลังของเกิร์ลกรุ๊ปก็สำเร็จจนได้ เมื่อผู้ชนะซีซั่นที่ 8 เป็นศิลปินกลุ่มครั้งแรก ด้วยการผสานเสียงอันทรงพลัง แต่บุคลิกของสาวๆ ยังน่ารักสดใสสมวัยอยู่ จึงทำให้แฟนๆ ตกหลุมรัก และเทใจโหวตให้กันทั้งประเทศ และแน่นอนว่าพวกเธอเป็นผู้ชนะ The X Factor UK ที่ทำลายอาถรรพ์ “รองชนะเลิศดังกว่า” ได้อย่างชัดเจน เพราะนอกจากยอดขายอัลบั้มแรก DNA ของพวกเธอจะคว้าอันดับ 2 ใน UK Album Chart แล้ว อัลบั้มเดียวกันนี้ยังครองอันดับที่ 4 ใน US Billboard 200 Chart ในเวลาเดียวกันอีกด้วย ทำให้ Little Mix เป็นศิลปินหญิงกลุ่มที่ 2 ต่อจากเกิร์ลกรุ๊ปในตำนานอย่าง The Pussycat Dolls ที่อัลบั้มแรกติด Top 5 ในชาร์ต US Billboard ไงล่ะ Girls’ Power มีจริงเห็นไหม
รายชื่อศิลปินเด็ดๆ จาก The X Factor UK : Shayne Ward, JLS, James Arthur, Matt Cardle, Union J etc.
The X Factor USA
6. Fifth Harmony
เวทีประกวดร้องเพลงในอเมริกาผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด การแข่งขันจึงค่อนข้างสูง (มาก) แต่สำหรับ 5 สาวเสียงทรงพลัง ที่มาพร้อมกับรูปร่างหน้าตาดีตามพิมพ์นิยมคนอเมริกาแบบนี้ มีหรือ Simon Cowell จะปล่อยไว้เฉยๆ ถึงแม้จะได้แค่อันดับ 3 ในซีซั่น 2 แต่ถ้าพูดถึงเพลง และชื่อเสียงที่ได้มา ต้องบอกเลยว่าเกินหน้าเกินตาอันดับ 1, 2 มากมายหลายขุม โดยเฉพาะเพลง “Worth It” และ “Work From Home” ที่สาวจริงหญิงไม่แท้ร้องเต้นตามกันสะบัด ขึ้นแท่นเป็นเพลงฮิตแห่งปี 2015 ไปโดยปริยาย
7. Emblem3
ใครที่คิดว่า The X Factor เลือกปั้นแต่บอยแบนด์ หรือดีว่าสาวสวย ไม่จริงหรอก เพราะวงป็อบร็อคอย่าง Emblem3 ก็เจ๋งเหมือนกัน นอกจากอัลบั้ม “Nothing To Lose” จะได้รับการตอบรับอย่างดีแล้ว ยังได้เป็นศิลปินเปิด หรือ Opening Act ให้กับศิลปินสุดฮอตอย่าง Selena Gomez อีกด้วย ถึงแม้ตอนนี้สมาชิกในวงจะเหลือแค่ 2 คนเท่านั้น แต่รับรองว่าในอนาคตอันใกล้เราจะได้เห็นผลงานของพวกเขาอีกแน่นอน
The X Factor Australia
8. Reece Mastin
ผู้ชนะ ซีซั่น 3 เอาชนะผู้เข้าแข่งขันนับพันทั่วออสเตรเลียด้วยอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น! หลังจากจบการแข่งขัน หนุ่ม Reece โด่งดังไปทั่วออสเตรเลียด้วยซิงเกิล “Good Night” ที่พร้อมใจกันขึ้นอันดับ 1 ทั้งชาร์ตในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เพื่อนบ้าน ออกอัลบั้มเต็มชื่อเดียวกับตัวเอง ขึ้นอันดับ 2 ของชาร์ตบ้านเกิด จนได้รับการการันตียอดขายระดับ Double Platinum มาแล้ว
9. Dami Im
สาวเกาหลีที่ย้ายมาอยู่ออสเตรเลียตั้งแต่อายุ 9 ขวบคนนี้ คือครูสอนดนตรีที่เน้นเปียโน และการร้อง โชว์ความสามารถอันล้นเหลือจนกลายเป็นผู้ชนะของ The X Factor Australia ในซีซั่น 5 เป็นผลสำเร็จ เธอเป็นหนึ่งในศิลปินที่ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคทานด้านภาษาที่ไม่ใช่ภาษาบ้านเกิดของตัวเองด้วยดนตรีอย่างแท้จริง เพราะเธอการันตีว่า “music makes friends” ได้เป็นอย่างดี จนในที่สุดความรักในดนตรีของเธอก็ทำให้เธอประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้
10. Jai Waetford
ปิดท้ายด้วยหนุ่มวัย 14 (ในตอนนั้น) ที่โชว์ความมหัศจรรย์ให้คนทั้งโลกได้เห็น จนทำให้ผู้คนหลั่งไหลกันโหวตให้เขาคว้าอันดับ 3 ในการแข่งขัน The X Factor Australia ซีซั่น 5 ไปได้ในที่สุด แต่ความดังของเขาไม่หยุดอยู่แค่นี้ เพราะ Jai Waetford ขยันร้องเพลง แต่งเพลง เล่น social media กับแฟนๆ จน Justin Bieber เอ่ยปากโพสข้อความถึงหนุ่ม Jai ด้วยตัวเองว่า “ทำดนตรีในแบบที่ตัวเองต้องการนะ Jai Waetford” แล้วหนุ่ม Jai ก็ทำตามนั้นจริงๆ เสียด้วย
แฟนๆ The X Factor คงจะทราบกันดีถึงเสน่ห์ของรายการประกวดร้องเพลง เราได้เห็น ได้ประทับใจกับเสียงร้องของคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง เห็นวิวัฒนาการของเขาหรือเธอตั้งแต่ก้าวแรก จนกระทั่งพวกเขาประสบความสำเร็จ กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ชื่อดังระดับโลก ถึงแม้หลายๆ คนจะเปลี่ยนไปจากวันแรกที่เห็น แต่สิ่งที่จะไม่มีวันเปลี่ยน คือนามสกุล The X Factor ที่จะติดตัวพวกเขาไปตลอดกาล และนั่นคือเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงความกล้าแสดงออก และความพยายามในการเป็นศิลปินของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ถ้าเมืองไทยจะเพิ่มรายการดีๆ อย่าง The X Factor เข้ามาอีกสักรายการก็คงจะดีเหมือนกันเนอะ
____________________
Story : Jurairat N.