วิธีซื้อ,เติมเงิน,และขึ้นลงด้วยบัตรรถไฟญี่ปุ่น

วิธีซื้อ,เติมเงิน,และขึ้นลงด้วยบัตรรถไฟญี่ปุ่น

วิธีซื้อ,เติมเงิน,และขึ้นลงด้วยบัตรรถไฟญี่ปุ่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บัตรไฮโซที่น้อยคนจะซื้อเป็น แตะเข้าแตะออกได้ทันทีไม่ต้องซื้อตั๋ว รับรองว่าใช้บัตรนี้แล้วจะเที่ยวญี่ปุ่นสบายขึ้นหลายเท่า!

บัตร IC Card คืออะไรนะ?

001(2)

บัตร IC Card คือบัตรเดินทางแบบเติมเงินของญี่ปุ่น คล้ายๆบัตรแรบบิทของไทย ใช้ได้ทั้งรถไฟ รถเมล์ รถแท็กซี่ แถมยังสามารถใช้บัตรนี้แทนเงินสดเพื่อซื้อของในร้านสะดวกซื้อหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตบางเจ้า หรือร้านอาหารหลายๆแห่งก็ได้

ที่สำคัญค่าโดยสารทั้งรถไฟและรถประจำทางก็จะถูกลงมานิดนึงกว่าการซื้อบัตรเป็นเที่ยวๆด้วยเงินสด เช่นนั่งรถไฟใต้ดิน 1 สถานีในโตเกียวปกติ 170 เยน แต่ถ้าใช้บัตร IC Card ละก็จะเหลือ 165 เยนเท่านั้น เพราะว่าเครื่องขายตั๋วนั้นรับได้เล็กสุดแค่เหรียญ 10 เยน แต่รับเหรียญ 5และ1 เยนไม่ได้ ทำให้การ์ดแบบนี้สะดวกและคุ้มจริงๆ

มารู้จักวิธีใช้บัตร IC แบบเติมเงินเช่น SUICA, PASMO ของญี่ปุ่น พร้อมขั้นตอนการซื้อ การเติมเงินและการใช้กันเถอะ

บัตร IC Card แต่ละพื้นที่

แต่ละพื้นที่ของญี่ปุ่นก็จะมีบัตร IC card ที่แตกต่างกัน เช่นในโตเกียวจะใช้บัตรหลักๆสองอย่างคือ SUICA และ PASMO จริงๆแล้วบัตรทั้งสองแทบจะเหมือนกันเลย แต่คนละเจ้าของเท่านั้น โดยบัตร SUICA เป็นของรถไฟ JR ส่วน PASMO เป็นการรวมตัวกันของรถไฟเอกชนอื่นๆที่ไม่ใช่ JR เช่น Tokyo Metro เป็นต้น ส่วนวิธีการใช้ การเติมเงิน อะไรๆก็เหมือนกันไปหมด และใช้ร่วมกันได้ทุกสาย ทุกสถานี

ส่วนแถบโอซาก้า นาระ นิยมใช้บัตรชื่อ ICOCA ส่วนฮอกไกโดนิยมใช้บัตร KITACA โดยสมัยก่อนต้องซื้อบัตรตามแต่ละพื้นที่ แต่ปัจจุบันนี้แทบทั่วประเทศสามารถใช้ร่วมกันได้แล้ว ดังนั้นใครมาเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่ได้ไปเมืองลึกลับซับซ้อน เลือกไปเฉพาะเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ เช่นเที่ยวจากฮอกไกโดแล้วไปต่อโอซาก้าก็สามารถใช้บัตรเดียวได้เลย เพียงแค่สังเกตสัญลักษณ์ IC Card (ตามรูป) นี้ไว้ก็เป็นอันรู้กันว่าใช้ได้ทั้งบัตร PASMO/SUICA/ICOCA/KITACA และอื่นๆอีกหลายชนิด สะดวกสุดๆ

ขั้นตอนการซื้อตั๋ว IC Card ใหม่ (ฉบับตั๋ว PASMO)

001(3)

วิธีการซื้อบัตร IC Card นั้นง่ายมากๆ สามารถซื้อได้เองจากเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ สังเกตตู้อัตโนมัติสีชมพูจะเป็นตู้ที่เอาไว้ซื้อบัตรใหม่ได้ (ตู้ขายบัตรอัตโนมัติจะมีทั้งสีชมพูและสีฟ้า ถ้าต้องการซื้อบัตรใหม่จะเป็นสีชมพู ตอนป้ามาใหม่ๆป้าก็กดตู้ผิดเหมือนกัน ฮ่า) ปัจจุบันนี้มีภาษาต่างประเทศรองรับมากมาย ภาษาไทยก็มีนะสะดวกสุดๆ เลือกเปลี่ยนภาษาตรงปุ่มด้านขวาบนได้เลย

001(4)

เลือกภาษาไทย

001(5)

จากนั้นเลือก PASMO ปุ่มสีชมพูด้านซ้าย

001(6)

เลือก 'ซื้อบัตร PASMO ใหม่'

001(7)

เพียงแค่มาเที่ยวไม่ต้องพิมพ์ชื่อตัวเองบนบัตรก็ได้ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวป้าว่าเพื่อความง่ายและสะดวก เลือก 'ไม่ระบุชื่อ' ได้เลย

ที่มีให้ระบุชื่อ เพราะคนญี่ปุ่นมักลงทะเบียนไว้ตามหากรณีสูญหายโดยการระบุชื่อนั้นต้องลงทะเบียนและใส่หมายเลขโทรศัพท์พร้อมวันเดือนปีเกิด ถ้าไม่ได้อยู่ญี่ปุ่นถาวรก็ไม่ค่อยจำเป็นนัก

001(8)

เลือกจำนวนเงินที่ต้องการเติมในบัตร

001(9)

รายละเอียดเงินในบัตร อย่าลืมว่ามีค่ามัดจำบัตร 500 เยน ดังนั้นถ้าเติมครั้งแรกไป 1000 เยนจะมีจำนวนเงินในบัตร 500 เยนนั่นเอง~

วิธีการเติมเงิน

001(10)

ส่วนเวลาเติมเงิน สามารถเติมได้ที่ตู้อัตโนมัติทั้งสีชมพูและสีฟ้า หรือหาตู้ที่เขียนว่า Recharge IC Card นั่นเอง (ตู้เติมเงินของรถไฟใต้ดินในโตเกียวเติมเงินได้ทั้งบัตร SUICA และ PASMO ส่วนบัตรอื่นๆ แนะนำให้เติมที่ร้านสะดวกซื้อทั่วไป)

001(11)

เลือกเปลี่ยนภาษาได้เช่นกัน

001(12)

เลือกภาษาไทย

001(13)

เลือก 'เติมเงิน'

001(14)

เลือกจำนวนเงินที่ต้องการเติม

001(15)

ใส่บัตรและใส่เงิน หากใครไม่รู้ใส่ช่องไหนให้สังเกตลูกศรไฟกะพริบสีแดง เช่นในรูป พอหน้าจอบอกให้ใส่เงิน เครื่องก็จะมีไฟกะพริบตรงช่องใส่เงิน เป็นอันรู้กันว่าต่อไปต้องเอาเงินใส่ช่องนี้

001(16)

หน้าจอแสดงรายละเอียดการเติมเงิน เช่น ป้าใส่เงินไป 1,000 เยนจากเดิม 2,370 เยน ดังนั้นในบัตรก็จะมีเงินทั้งหมด 3,370 เยน

วิธีใช้บัตร

001(17)

เมื่อได้บัตรแล้วเวลาจะขึ้นรถไฟ ก็แค่แตะตรงสัญลักษณ์ IC Card ได้เลย จะมีอะไรง่ายกว่านี้อีกไหม~

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวิธีการใช้บัตร IC Card ของรถไฟญี่ปุ่น สะดวกและง่ายสุดๆไปเลย บัตรนี้แทบจะใช้ได้สารพัด ใช้เดินทาง ใช้ซื้อของในห้าง ในร้านอาหาร เวลาเติมเงินนอกจากเติมที่เครื่องอัตโนมัติแล้ว ก็ยังเติมได้ที่ร้านสะดวกซื้อทั่วไปโดยบอกพนักงานคิดเงินที่แคชเชียร์ได้เลย ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นป้าแนะนำมาถึงญี่ปุ่นปุ๊บก็ซื้อไว้เลย เพราะสะดวกจริงๆ!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook