“#อยากเป็นคนเกาหลี” Korea Boom ระลอกใหม่ในญี่ปุ่นที่แตกต่างไปไม่เหมือนเดิม

กระแสดาราไอดอลเกาหลีไม่ได้แค่ฮอตฮิตอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น ที่ประเทศญี่ปุ่นเขาก็มีกระแสเกาหลีบูมด้วยเหมือนกัน ถึงแม้ตอนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นกระแสดารา ไอดอล ซีรีส์เกาหลีจะไม่ได้รับความนิยมเท่าเมื่อหลายปีก่อน แต่ตอนนี้ในอินสตาแกรมกลับมีแฮชแท็ก「＃韓国人になりたい」(#อยากเป็นคนเกาหลี) กว่า 7,000 แฮชแท็ก แถมยังมี「＃韓国好きな人と繋がりたい」 (#อยากสานสัมพันธ์กับคนที่ชอบเกาหลี) อยู่บนไอจีกว่า 360,000 แฮชแท็ก

โดยกระแสความนิยมเกาหลีที่ประเทศญี่ปุ่นเริ่มขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้วจากความนิยมในซีรีส์เรื่อง Winter Sonata ในอดีตความนิยมกระแสเกาหลีจะอยู่ในกลุ่มผู้หญิงวัยกลางคน หรือในกลุ่มแม่บ้านเป็นส่วนใหญ่ แต่ในครั้งนี้กลุ่มที่เป็นหัวใจในการสนับสนุนกระแสดังกล่าวกลับเป็นเหล่านักเรียนหญิงชั้นมัธยมต้น มัธยมปลาย เริ่มอยากรู้แล้วสิว่าทำไมสาวๆ เขาถึง “อยากเป็นคนเกาหลี” กันนะ

ครั้งแรกในรอบ 6 ปีที่วงเกาหลีจะขึ้น Kouhaku

หากจะถามว่ากระแส “อยากเป็นคนเกาหลี” ในหมู่สาวๆ ญี่ปุ่นเกิดขึ้นได้อย่างไร กุญแจสำคัญน่าจะมาจากวงเกิร์ลกรุ๊ป “Twice” ความสำเร็จของ Twice ในประเทศญี่ปุ่นเกิดขึ้นตั้งแต่วงยังไม่ได้เข้ามาเดบิวต์ในดินแดนอาทิตย์อุทัยกันเลยทีเดียว Twice เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ป 9 คนที่สมาชิกมีอายุอยู่ในช่วง 18-22 ปี เดบิวต์ในปี 2015 และในขณะที่ยังไม่ได้เข้ามาเดบิวต์ที่ญี่ปุ่น เพลงของสาวๆ Twice ก็สามารถเข้ามาอยู่ในอันดับ 10 ของ Oricon Weekly Album Ranking ในปี 2016 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ และหลังจากเดบิวต์อย่างเป็นทางการที่ญี่ปุ่นในปี 2017 ก็สามารถสร้างกระแสความฮิตโดยครองอันดับ 1 Best Album, Debut Single จาก Oricon ได้อย่างสง่างาม และในงานมหกรรมขาวแดง (Kouhaku Utagassen) ปีนี้ Twice ก็ได้รับเลือกให้เข้าร่วมด้วยเช่นกัน ถือเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลีที่ได้เข้าร่วมในงานสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีของชาวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จของ Twice ในญี่ปุ่นก็มาจากการสนับสนุนของเหล่าสาวๆ มัธยมต้นและมัธยมปลายนั่นเอง

Twice ในงานแถลงข่าวมหกรรมขาวแดง

กระแสความนิยมเกาหลีในครั้งใหม่ที่แพร่หลายในกลุ่มสาวๆ ญี่ปุ่นมาในรูปแบบของ “Olchang Fashion” ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมมาตั้งแต่หลายปีก่อน แฟชั่นดังกล่าวเป็นเทรนด์ที่ฮิตมากๆ ในหมู่วัยรุ่นสาวๆ เกาหลี และได้ลามมาสู่ประเทศญี่ปุ่นด้วย ความหมายของ Olchang Fashion เป็นภาษาเกาหลีที่เกิดจากการรวมคำว่า “ใบหน้า” กับ “สุดยอด” ซึ่งว่ากันว่าสามารถสื่อความหมายว่า “คนทั่วไปที่น่ารัก” ได้ด้วยเช่นกัน มีจุดเด่นอยู่ที่การแต่งหน้าที่มีดวงตาคมชัด, คิ้วหนาเป็นแนวตรง, ปัดแก้มบางๆ ในส่วนของเสื้อผ้าก็จะมีจุดเด่นอยู่ที่ เสื้อที่ใส่จะหลวมๆ ใส่สบาย, ชุดไหมพรมถักตาห่างๆ, ส่วนใครเป็นสายเซ็กซี่ก็จะใส่ชุดที่เน้นให้เห็น body line เป็นต้น ในปัจจุบันแม้แต่ที่ฮาราจูกุ Olchang Fashion ก็กำลังได้รับความนิยมอย่างเห็นได้ชัด และในย่าน Shinokubo ที่เป็นเหมือน Korea Town ของโตเกียวนั้น จากเมื่อก่อนจะมีแต่สาวๆ วัยผู้ใหญ่เสียส่วนใหญ่ แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นสาวๆ วัยรุ่นเป็นส่วนมาก

เมื่อลองดูผลสำรวจว่าแฟชั่นเกาหลีกำลังได้รับความนิยมมากแค่ไหน ผลสำรวจจากเว็บไซต์ Trend Margeting อย่าง FRIL lad ที่สำรวจเกี่ยวกับ “แฟชั่นจากประเทศไหนที่คุณนำมาใช้อ้างอิง” ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2017 จาก user ผู้หญิง 1,700 คนพบว่า สาวๆ ช่วงอายุ 10 ปี 47.9％, ช่วงอายุ 20 ปี 27.5％ เลือกประเทศเกาหลีเป็นคำตอบสูงสุด และรูปในอินสตาแกรมส่วนใหญ่ที่ติดแฮชแท็ก #อยากเป็นคนเกาหลี ก็จะเป็นรูปเซลฟี่นั่นเอง

สไตล์การแต่งตัวของ Olchang Fashion

ไม่ได้อยากจะแต่งงานกับคนเกาหลีสักหน่อย

กระแสความนิยมในแอปพลิเคชั่นถ่ายรูปจากเกาหลีอย่าง “SNOW” ก็กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น นอกจากจะมีลูกเล่นน่ารักๆ อย่างเปลี่ยนหน้าเป็นรูปสัตว์ ยังมีลูกเล่นการแต่งหน้าแบบ Olchang Make Up ที่ช่วยทำให้ภาพออกมาดูเหมือนสาวเกาหลีได้ เมื่อตามดู #อยากเป็นคนเกาหลี ในไอจีก็จะพบว่า รูปส่วนใหญ่เป็นรูปที่ถ่ายผ่านแอปฯ ให้ออกมาดูเป็น Olchang Make Up นั่นเอง น่าจะสามารถพูดได้ว่าสาวๆ ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ได้อยากจะแต่งงานกับหนุ่มเกาหลีเพื่อให้กลายเป็นคนเกาหลีอะไรแบบนั้น แต่แค่หลงใหลในแฟชั่นและวัฒนธรรมความน่ารักแบบเกาหลี และมีต้นแบบในการแต่งตัวเป็นสไตล์แบบ Olchang Fashion เสียมากกว่า

สำหรับคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ เมื่อพูดถึงประเทศเกาหลี อาจจะนึกถึงปัญหาทางการเมืองและการทหาร อะไรประเภทนั้น แต่สำหรับสาวๆ วัยรุ่นญี่ปุ่นพวกเธออาจให้ความสนใจกับเรื่องดังกล่าวค่อนข้างน้อย พวกเธอเพียงแค่ค้นหาแฟชั่นในแบบที่ตัวเองชอบผ่านโลกโซเชี่ยลที่ได้กลายเป็นสาวหนึ่งในชีวิตของวัยรุ่นไปเสียแล้ว และนี่ก็คือกระแส Korea Boom ระลอกใหม่ในญี่ปุ่นที่ต้องคอยจับตาดูต่อไปว่าจะได้ใจวัยรุ่นญี่ปุ่นไปอีกนานแค่ไหน