แฟรนไชส์ กาแฟชาวดอย Chao Doi ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ เช็กเลยกี่บาท

แฟรนไชส์ กาแฟชาวดอย Chao Doi ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ เช็กเลยกี่บาท

แฟรนไชส์ กาแฟชาวดอย Chao Doi ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ เช็กเลยกี่บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อยากเปิดแฟรนไชส์ กาแฟชาวดอย Chao Doi ต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ และต้องเตรียมอะไรบ้าง เช็กเงื่อนไขได้ที่นี่

ธุรกิจร้านกาแฟ เป็นประเภทธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมสูงมาก เนื่องจากผู้บริโภคในกลุ่มคนดื่มกาแฟ ชอบไปคาเฟ่มากขึ้น ที่สำคัญธุรกิจร้านกาแฟเป็นกิจการติดตลาดที่สามารถทำทุนได้อย่างยั่งยืนในทุกวันนี้

แต่ถึงกระนั้น ธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟก็มีนับไม่ถ้วนในปัจจุบัน เรียกว่ามีการแข่งขันสูงจนเลือกลงทุนไม่ถูก ในเมื่อทุกธุรกิจก็ต่างมีสินค้าและบริการดีๆ ที่น่าลงทุน แต่แฟรนไชส์ร้านกาแฟเจ้าไหนที่นอกจากจะดีแล้ว ยังสามารถเลือกลงทุนน้อยพร้อมความเสี่ยงต่ำได้ ข้อนี้สิที่หาไม่ง่ายเลย แฟรนไชส์กาแฟชาวดอย Chao Doi ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟ ที่แม้ว่าจะลงทุนน้อย แถมความเสี่ยงต่ำ

ทำไมแฟรนไชส์กาแฟชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ?

ข้อมูลจาก Chao Doi ระบุว่า “แฟรนไชส์กาแฟชาวดอย” เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่อยู่ภายใต้แบรนด์อโรม่ากรุ๊ป เจาะกลุ่มกิจการร้านกาแฟสดคุณภาพดีที่ได้จากผลิตผลกาแฟดอยไทยแท้ ๆ กาแฟชาวดอย ให้กลิ่นอายกาแฟไทยเกรดพรีเมียมที่คัดสรรมาอย่างพิเศษสู่คอกาแฟสดมานานกว่า 60 ปีแล้ว

แรกเริ่มเดิมที ผู้ก่อตั้งกาแฟชาวดอย ตั้งใจสร้างแบรนด์มาด้วยเหตุผลที่อยากให้คนไทยได้ดื่มกาแฟสดคุณภาพในราคาและทำเลที่เข้าถึงได้ เจาะใจคอกาแฟทุกกลุ่มทุกวัย กาแฟสดชาวดอย จึงขยับขยายมาเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่พบเจอได้ทั้งตามแหล่งคนทำงาน แหล่งชุ่มชน ตลอดจนร้านกาแฟขึ้นห้าง

ในแง่ธุรกิจและการลงทุนในแฟรนไชส์กาแฟชาวดอย มีความยืดหยุ่นสูงทั้งเงินลงทุน การสต๊อกสินค้า ค่าใช้จ่ายก่อนและหลังเปิดร้าน รวมถึงมีแรงสนับสนุนผู้ซื้อแฟรนไชส์อยู่เสมอ จึงทำให้แฟรนไชส์กาแฟชาวดอย เป็นแฟรนไชส์ร้านกาแฟที่มีการลงทุนน้อยและความเสี่ยงต่ำ

ราคาแฟรนไชส์กาแฟชาวดอย

ชุดธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟชาวดอยมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่

  • ชุดชาวดอยคอฟฟี (Set A)
    • เป็นชุดธุรกิจแฟรนไชส์เริ่มต้น ที่จะครอบคลุมการทำร้านที่มีเมนูเบสเป็นกาแฟทั้งหมด ชุด A จะมีราคา 433,000 บาท
  • ชุดชาวดอยคอฟฟี แอนด์ บับเบิ้ลที (Set B)
    • เป็นชุดธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟชาวดอยที่ครอบคลุมทั้งกาแฟและเมนูชา มีราคาอยู่ที่ 450,000 บาท
  • ชุดชาวดอยดริป บาร์ (Set C)
    • เป็นชุดธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟชาวดอยในรูปแบบกาแฟดริป ตอบโจทย์คอกาแฟสมัยใหม่ เป็นเซ็ตเพิ่มเติมจากธุรกิจเซ็ต A และ B ราคา 50,000 บาท

chaodoi2

ค่าก่อสร้าง/ค่าตกแต่ง

  • ขนาดเล็ก (Mini) : จะมีค่าโครงสร้างเริ่มต้น 290,000 บาทและค่าตกแต่งเริ่มต้น 300,000 บาท
  • ขนาดมาตรฐาน (Standard) : จะมีค่าโครงสร้างเริ่มต้น 450,000 บาทและค่าตกแต่งเริ่มต้น 500,000 บาท
  • ขนาดใหญ่ (Value) : จะมีค่าโครงสร้างเริ่มต้น 800,000 บาทและค่าตกแต่งเริ่มต้น 700,000 บาท
  • ขนาดเต็มรูปแบบ (Full Flavoured) : จะมีค่าโครงสร้างเริ่มต้น 1.2 ล้านบาทและค่าตกแต่งเริ่มต้น 1 ล้านบาท

สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากแฟรนไชส์กาแฟชาวดอย

  1. เครื่องหมายการค้า 5 ปี (3+2) : เป็นปกติที่ธุรกิจแฟรนไชส์จะให้สิทธิ์แก่แฟรนไชส์ซีหรือผู้ซื้อกิจการสามารถใช้เครื่องหมายการค้าได้ แฟรนไชส์กาแฟชาวดอยจะให้สิทธิผู้ซื้อแฟรนไชส์ในการใช้เครื่องหมายการค้า ไม่ว่าจะตราสินค้า ชื่อหรือโลโก้ร้าน เป็นระยะเวลาสูงถึง 5 ปี หรือ 3 ปี + เพิ่มอีก 2 ปี ในการลงทุนเพียงแค่ครั้งเดียว
  2. สิทธิ์การใช้วัตถุดิบ / บรรจุภัณฑ์ : แฟรนไชส์กาแฟชาวดอยจะให้สิทธิแฟรนไชส์ซีในการใช้วัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ของแบรนด์ชาวดอย ซึ่งเป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพสูง จึงหมดกังวลที่แฟรนไชส์ซีต้องหาซื้อวัตถุดิบหรือบรรจุภัณฑ์ด้วยตัวเอง
  3. หลักสูตรการอบรมพื้นฐาน : แฟรนไชส์กาแฟชาวดอย ยังใส่ใจทำหลักสูตรอบรมพื้นฐาน ไม่ว่าแฟรนไชส์ซีจะมีความรู้เรื่องกาแฟมาบ้างหรือไม่มีเลย ด้วยหลักสูตรปูพื้นฐานของชาวดอยพร้อมเจ้าหน้าที่ Set Up support ก็จะสามารถช่วยเหล่าแฟรนไชส์ซีให้สามารถเริ่มต้นทำธุรกิจกาแฟได้เป็นอย่างดี
  4. สนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมการตลาด : เมื่อการเปิดร้านเริ่มต้นมาดีแล้ว การทำการตลาดระหว่างดำเนินกิจการก็ต้องทำควบคู่กันไปด้วย แฟรนไชส์กาแฟชาวดอย ยังมอบสิทธิประโยชน์ร่วมสนับสนุนและผลักดันกิจกรรมทางการตลาด โปรโมชั่น การประชาสัมพันธ์ทั้งในโซเชียลมีเดีย ออนไลน์แพล็ตฟอร์มและหน้าร้าน เพื่อช่วยส่งเสริมให้กิจการของแฟรนไชส์ซี มีช่องทางทำเงินและต่อยอดธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ
  5. การช่วยเหลือตลอดการดำเนินธุรกิจ : อีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ที่ดีมาก ๆ ของแฟรนไชส์กาแฟชาวดอย คือการอยู่ช่วยเหลือตลอด ไม่ละทิ้งแฟรนไชส์ซี เพราะชาวดอยมีทีมงานและผู้เชี่ยวชาญที่คอยสแตนด์บายให้ความช่วยเหลือหรือปรึกษาการทำธุรกิจตลอดที่ถือสัญญา รวมถึงมีทีมตรวจสอบคุณภาพเพื่อให้ร้านคงคุณภาพได้มาตรฐานอยู่เสมอ

chaodoi1

ขั้นตอนสำหรับเปิดแฟรนไชส์กาแฟชาวดอย

1. วิเคราะห์พื้นที่

  • สิ่งแรกที่เหล่าแฟรนไชส์ซีหรือผู้ที่ต้องการจะเปิดแฟรนไชส์กาแฟชาวดอยต้องทำคือหาทำเลและวิเคราะห์พื้นที่ เพราะถ้าหากทำเลดี พื้นที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าง่าย ไม่ว่าร้านจะเล็กหรือใหญ่ก็สามารถส่งผลต่อธุรกิจในทางที่ดี ทั้งนี้แฟรนไชส์กาแฟชาวดอย ยังมีทีมที่คอยให้คำปรึกษาและประเมินความเป็นไปได้ก่อนเปิดร้านจริง

2. พัฒนากลยุทธ์

  • ชาวดอยจะมีการพูดคุยกับแฟรนไชส์ซีเพื่อวางแผนกลยุทธิ์และแนวทางในการเปิดร้านเพื่อลดการเกิดความเสี่ยงที่อาจเกิดและทำให้การเปิดร้านเป็นไปอย่างราบรื่น

3. ก่อสร้าง / ตกแต่ง

  • แฟรนไชส์ชาวดอยจะมีทีมช่างหรือผู้รับเหมาส่วนกลางคอยสนับสนุนเรื่องการก่อสร้างร้านทั้งภายนอกและภายใน

4. การเข้ารับการอบรม

  • แฟรนไชส์กาแฟชาวดอยมีหลักสูตรอบรมให้แก่แฟรนไชส์ซี ทั้งแนวทางปฏิบัติแง่มุมธุรกิจให้เป็นไปตามมาตรฐานของร้านและการฝึกฝนเทคนิคการชงกาแฟให้เหมือนบาริสต้า หมดกังวลทั้งงานขายและงานบริหาร

5. การช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

  • แฟรนไชส์ชาวดอยมีทีมงานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญคอยทำให้คำปรึกษาทั้งด้านธุรกิจและการตลาด คอยตามซัพพอร์ตเสมอตลอดอายุสัญญา

6. เปิดร้าน

  • เมื่อแฟรนไชส์ซีได้วางแผนและวางกลยุทธิ์กับทีมผู้เชี่ยวชาญของชาวดอยมาเป็นอย่างดีแล้ว ในขั้นตอนการเปิดร้านจริงก็จะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้แบบไร้อุปสรรค

7. โปรแกรมสนับสนุนต่างๆ

  • นอกเหนือจากการวิเคราะห์แนวทางและวางแผนจนกระทั่งเปิดร้านแล้ว แฟรนไชส์กาแฟชาวดอยยังมีโปรแกรมสนับสนุนระหว่างดำเนินธุรกิจอีกมากมายหลังเปิดร้าน เพื่อมอบความรู้ให้แก่แฟรนไชส์ซีเพิ่มขึ้นและยังเป็นการช่วยผลักดันลู่ทางสู่ความสำเร็จได้

รวมแบรนด์แฟรนไชส์น่าลงทุน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล