ค่าเงินบาทวันนี้ 10 พ.ค. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.71 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมาก

ค่าเงินบาทวันนี้ 10 พ.ค. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.71 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมาก

ค่าเงินบาทวันนี้ 10 พ.ค. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.71 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมาก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ค่าเงินบาทวันนี้ 10 พ.ค. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.71 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมาก จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.93 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-36.90 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย ระบุค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.71 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมาก จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.93 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 36.70-36.94 บาทต่อดอลลาร์) ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ของสหรัฐฯ ล่าสุด ออกมาแย่กว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงคาดการณ์ว่า เฟดมีโอกาสราว 81% ที่จะลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้งในปีนี้ (จาก CME FedWatch Tool ล่าสุด) นอกจากนี้ ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ก็ยังไม่ได้สะท้อนว่า BOE จะมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายนได้อย่างแน่นอน ส่งผลให้ ค่าเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ทยอยรีบาวด์แข็งค่าขึ้นบ้าง และมีส่วนช่วยกดดันค่าเงินดอลลาร์ ขณะเดียวกัน การปรับตัวลดงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็มีส่วนหนุนให้ ราคาทองคำรีบาวด์ขึ้นต่อเนื่องเกิน +30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากโซนแนวรับระยะสั้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรทองคำออกมาบ้าง ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น

บรรดาผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทยอยกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ท่ามกลางความหวังว่า เฟดจะสามารถทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ จากรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานล่าสุดที่ออกมาแย่กว่าคาด ทั้งนี้ บรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ กลับไม่ได้ปรับตัวขึ้นไปมาก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ต่างก็รอลุ้นรายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า อีกทั้ง ราคาหุ้นเทคฯ ใหญ่ ต่างก็ได้ปรับตัวขึ้นพอสมควร หลังรับรู้ผลประกอบการในไตรมาสล่าสุด ทำให้โดยรวม S&P500 ปิดตลาด +0.51%

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมา อาจชะลอลงบ้าง หลังเงินบาทได้แข็งค่าใกล้โซนแนวรับระยะสั้น นอกจากนี้ ปัจจัยกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าก็ยังคงมีอยู่บ้าง หลังบรรดานักลงทุนต่างชาติยังคงทยอยขายหุ้นไทยต่อเนื่อง และเริ่มกลับมาขายบอนด์ไทยบ้าง ขณะเดียวกัน โฟลว์ธุรกรรมที่เกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติก็อาจยังมีอยู่ ทำให้เงินบาทจะยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องไปได้มากนัก จนกว่าตลาดจะมีการรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ พลิกกลับมาชะลอลง จนผู้เล่นในตลาดมั่นใจว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้ง และเริ่มคาดหวังการลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง เป็นต้น โดยเราประเมินโซนแนวรับเงินบาทในระยะสั้นแถว 36.60-36.70 บาทต่อดอลลาร์ (หากผ่านไปได้ จะมีโซน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวรับสำคัญที่อาจยังผ่านได้ยากอยู่ในช่วงนี้)

ทั้งนี้ โซนแนวต้านของเงินบาทก็อาจขยับลงมาบ้าง หลังการแข็งค่าในช่วงคืนที่ผ่านมา โดยเงินบาทก็อาจยังพอได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ รวมถึงทิศทางเงินดอลลาร์ที่อาจแกว่งตัว sideways ไปก่อน จนกว่าจะรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ โดยเรามองว่า โซน 36.90-37.00 บาทต่อดอลลาร์ อาจเป็นแนวต้านระยะสั้นในช่วงนี้ได้

อนึ่ง ควรระวังความผันผวนในช่วงผู้เล่นในตลาดทยอยรับรู้ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะ Michelle Bowman เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาคุณ Bowman มักจะมีการสื่อสารในโทร Hawkish ที่มากกว่าบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดท่านอื่นๆ ทำให้ต้องจับตาการปรับเปลี่ยนโทนการสื่อสาร ซึ่งอาจมีผลต่อทิศทางเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ได้บ้าง

เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวผันผวนสูง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-36.90 บาทต่อดอลลาร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook