ค่าเงินบาทวันนี้ 1 มี.ค. 67 เปิดเช้าที่ระดับ 35.86 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

ค่าเงินบาทวันนี้ 1 มี.ค. 67 เปิดเช้าที่ระดับ 35.86 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

ค่าเงินบาทวันนี้ 1 มี.ค. 67 เปิดเช้าที่ระดับ 35.86 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ค่าเงินบาทวันนี้ 1 มี.ค. 67 เปิดเช้าที่ระดับ 35.86 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 35.88 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.75-36.00 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย ระบุค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.86 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 35.88 บาทต่อดอลลาร์ โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ sideways (แกว่งตัวในช่วง 35.78-35.95 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะผันผวนอ่อนค่าลงเข้าใกล้โซน 36 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก่อนที่เงินบาทจะทยอยแข็งค่าขึ้น ทดสอบโซนแนวรับ 35.80 บาทต่อดอลลาร์ ตามที่เราประเมินไว้ หลังอัตราเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ ในเดือนมกราคม ชะลอลงสู่ระดับ 2.4% (อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core PCE ชะลอลงสู่ระดับ 2.8%) ตามที่ตลาดประเมินไว้ ขณะเดียวกัน ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ก็ออกมาแย่กว่าคาด ส่งผลให้ ทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลง ซึ่งหนุนให้ราคาทองคำรีบาวด์ขึ้นเกือบ +20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่ยังคงย้ำจุดยืนว่าเฟดยังไม่รีบลดดอกเบี้ย จนกว่าจะมั่นใจในข้อมูลเศรษฐกิจ ก็มีส่วนหนุนให้เงินดอลลาร์รีบาวด์ขึ้นมาบ้าง กดดันให้เงินบาทกลับมาแกว่งตัวแถวโซน 35.90 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรายังคงประเมินว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มแกว่งตัวลักษณะ sideways down หลังปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าได้ลดลงไปบ้าง แต่ขณะเดียวกัน เงินบาทก็ยังขาดปัจจัยหนุนการแข็งค่าขึ้นที่ชัดเจน โดยอย่างน้อย เงินดอลลาร์ก็อาจแกว่งตัว sideways ตราบใดที่ผู้เล่นในตลาดยังคงเชื่อว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยได้ราว 3 ครั้งในปีนี้ ส่วนบรรยากาศในตลาดการเงินก็ยังอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้บ้าง ตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่อาจเกิดขึ้น หลังเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ได้พลิกกลับมาอ่อนค่าลงพอสมควร เมื่อเทียบกับเงินบาท นอกจากนี้ เราเริ่มเห็นแรงขายสินทรัพย์ไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของตลาดหุ้น และบอนด์ระยะสั้น (ซึ่งอาจสะท้อนถึงการทยอยขายทำกำไรสถานะ Long THB ของผู้เล่นในตลาดบางส่วนได้ จากการที่เงินบาทได้ทยอยแข็งค่าขึ้นบ้างในช่วงที่ผ่านมา) ทำให้ เรายังคงมองเหมือนเดิมว่า เงินบาทอาจยังไม่สามารถแข็งค่าหลุดโซนแนวรับ 35.70-35.80 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้ง่ายนัก จนกว่าจะมีปัจจัยหนุนการแข็งค่าที่ชัดเจน เช่น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ควรออกมาแย่กว่าคาดชัดเจน ซึ่งอาจต้องรอลุ้น รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซน และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ในคืนนี้ ซึ่งอาจจะเห็นการแกว่งตัวของค่าเงินเหมือนกับช่วงคืนที่ผ่านมา ในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด

เราขอเน้นย้ำว่า ในช่วงนี้ ความผันผวนของเงินบาทนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา (มองจากกรอบเงินบาทรายสัปดาห์) อย่างเห็นได้ชัด ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.75-36.00 บาทต่อดอลลาร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook