ก๊อท จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ เจ้าชายลูกทุ่ง มีธุรกิจส่วนตัวปั้นเม็ดเงินแสนสุดยอด

เปิดรายได้ธุรกิจ ก๊อท จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ เจ้าของฉายา "เจ้าชายลูกทุ่ง" ที่คร่ำหวอดในวงการเพลงมานานกว่า 30 ปี

ก๊อท จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ เป็นศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง ที่ได้รับฉายาว่า "เจ้าชายลูกทุ่ง" ซึ่งเขาคร่ำหวอดในวงการเพลงมามากกว่า 30 ปี มีผลงานเพลงติดหูใครหลายๆ คน เช่น รักคุณยิ่งกว่าใคร, อย่าปล่อยให้เธอลอยนวล และ เจริญ เจริญ เป็นต้น

ซึ่งกว่าจะเป็น ก๊อท จักรพันธ์ ศิลปินลูกทุ่งชื่อดังได้ทุกวันนี้ การเดินทางของเขาก็ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะเมื่อวัยเด็ก ก๊อท จักรพันธ์ เป็นคนที่สู้ชีวิตทำให้เขาได้รับโอกาสจากคนรู้จัก ขอรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมทำให้เขาได้เรียนหนังสือ และได้สัมผัสกับเสียงเพลงมากขึ้น ก๊อท จักรพันธ์ ชื่นชอบการฟังเพลง และร้องเพลงแต่ไม่กล้าประกวดจึงทำได้เพียงร้องเพลงในขณะทำงานไป กระทั่งสุดท้ายตัดสินใจเริ่มประกวดร้องเพลง และมีโอกาสได้ร่วมทำงานโดยใช้การร้องเพลงของเขาเป็นจุดขายในการขายเครื่องเสียง นั่นทำให้เขามีความสนุก และเริ่มตะลอนทัวร์ประมาณ 2 ปี ก่อนจะทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านคาเฟ่ จนได้พบกับ ว่าว อนุวัฒน์ ชักชวนให้เขาทดสอบเสียง แต่เขานั้นยังไม่สามารถคว้าโอกาสการเป็นศิลปินได้สำเร็จ ต่อมา เต๋อ เรวัติ ผู้ก่อตั้งและร่วมโปรดิวเซอร์ของ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้มาชวนออกอัลบั้ม แต่เขานั้นต้องฝึกทักษะ และปรับบุคลิกภาพเพิ่มเติม จนได้มีผลงานเพลงในอัลบั้มชุดแรกและมีผลงานตามมาอีกมากมาย

นอกจากนี้ ก๊อท จักรพันธ์ ได้ผันตัวมาเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง Project ใหม่ New Country เรียกว่าเปิดประตูลูกทุ่งยุคใหม่ได้กระแสตอบรับอย่างล้นหลามโดยใช้เวลา 3 ปี ก่อนที่เจ้าตัวจะประกาศลาค่ายเก่า

• "ก๊อท จักรพันธ์" ตั้งใจปั้นโปรเจ็กต์นิวคันทรี่ เจอเรื่องหัวเสีย? ประกาศลาขาดแกรมมี่

อันที่จริง "ก๊อท จักรพันธ์" ไม่ได้เป็นแค่นักร้องลูกทุ่งเพียงอย่างเดียว แต่เขายังมีธุรกิจส่วนตัวซึ่งเป็นธุรกิจในกลุ่มบันเทิงด้วย Sanook Money ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ก๊อท จักรพันธ์ เข้าไปนั่งเป็นกรรมการบริษัท ก๊อท คันทรี่ จำกัด โดยมีรายละเอียดดังนี้

บริษัท ก๊อท คันทรี่ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2539 โดยมีรายชื่อนายจักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจ รับจ้างร้องเพลง ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยมีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้

• ปี 2560 รายได้ 3,390,986.55 บาท กำไร 32,087.34 บาท
• ปี 2561 รายได้ 3,238,451.89 บาท ขาดทุน 1,400,865.12 บาท
• ปี 2562 รายได้ 3,638,959.04 บาท กำไร 90,332.95 บาท
• ปี 2563 รายได้ 2,119,388.91 บาท ขาดทุน 659,959.21 บาท
• ปี 2564 รายได้ 3,002,505.83 บาท กำไร 777,348.51 บาท