ถ้าจะเปลี่ยนสร้อยทองครึ่งสลึงเป็น 1 สลึง ต้องเพิ่มเงินเท่าไหร่ คิดอย่างไร

ถ้าจะเปลี่ยนสร้อยทองครึ่งสลึงเป็น 1 สลึง ต้องเพิ่มเงินเท่าไหร่ คิดอย่างไร

ถ้าจะเปลี่ยนสร้อยทองครึ่งสลึงเป็น 1 สลึง ต้องเพิ่มเงินเท่าไหร่ คิดอย่างไร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วิธีคิดค่าส่วนต่างที่ต้องจ่ายเพิ่ม หลังต้องการเปลี่ยนสร้อยทองครึ่งสลึงเป็น 1 สลึง

เชื่อว่าใครที่เคยซื้อทองคำไปแล้ว อยากเปลี่ยนน้ำหนักทองใหม่อาจมีข้อสงสัยว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหรือไม่ และจะมีวิธีคิดค่าเปลี่ยนทองคำอย่างไร Sanook Money มีข้อมูลดีๆ จาก Ausiris มาฝากกัน

เว็บไซต์ ausiris รายงานว่า การเปลี่ยนทองคำนั้นจะต้องทำความเข้าใจเรื่อง น้ำหนักทอง กันก่อน โดยมาตรฐานแล้ว ทอง 1 บาท จะมี 4 สลึง แปลงน้ำหนักเป็น กรัม จะได้ ทองรูปพรรณ หนัก 15.16 กรัม ทอง 1 สลึง หนัก 3.79 กรัม ทองครึ่งสลึง หนัก 1.89 กรัม เรื่องน้ำหนักทองจะมีผลต่อราคารับซื้อคืน เพราะร้านทองจะให้ราคาตามน้ำหนักที่ชั่งได้

การเปลี่ยนทองครึ่งสลึง เป็นทอง 1 สลึง คือการ เพิ่มน้ำหนักทอง วิธีเปลี่ยนนั้นจะเป็นการ ขายทองเก่า แล้วซื้อทองใหม่ ร้านทองจะคิดราคารับซื้อทองเก่าก่อน แล้วหักลบราคาทองใหม่ให้อีกที เช่น

ราคารับซื้อคืนทองคำแท่ง 20,000 บาท ดังนั้น ราคารับซื้อคืนทองรูปพรรณตามเกณฑ์ สคบ. จะอยู่ที่ 20,000 – 5% = 19,000 บาท

ขายสร้อยทองครึ่งสลึง (ทองเก่า) ราคา = 2,735 บาท ( 19,000 / 8 )

ส่วนการซื้อทองใหม่นั้น จะคิดราคาขายออกทองรูปพรรณโดยตรง เช่น สมมุติ ราคาขายทองรูปพรรณ 20,500 บาท

ซื้อสร้อยทอง 1 สลึง (ทองใหม่) ราคา = 5,125 บาท ( 20,500 / 4 )

ดังนั้น เมื่อร้านทองหักลบราคาทองเก่า,ใหม่แล้ว จะต้องจ่ายส่วนต่าง 2,390 บาท

ทั้งนี้ การขายทองเก่า จะได้ราคารับซื้อตามเกณฑ์ สคบ และจะไม่ได้ค่ากำเหน็จค่าแรงคืน ส่วน การซื้อทองใหม่ จะได้ราคาขายออกทองรูปพรรณ (ไม่ใช่ราคาขายออกทองแท่ง) และจะต้องจ่ายค่ากำเหน็จใหม่ ไม่มีการหักลบค่าแรงจากทองเก่าแต่อย่างใด

สรุป ต้องเพิ่มเงินในส่วน ราคาขายทองเก่า – ราคาซื้อทองใหม่ + ค่ากำเหน็จ

ทั้งนี้ ทองรูปพรรณ เป็นเครื่องประดับทองคำที่ใส่ในชีวิตประจำ มีโอกาสที่ทองจะชำรุด สร้อยขาด แหวนบุบ ตะขอหัก ฯลฯ ทำให้น้ำหนักทองขาดได้ มีผลต่อราคารับซื้อคืน แตกต่างจากทองคำแท่งที่จะมีบรรจุภัณฑ์ห่อหุ้มอย่างดี เวลาขายคืนก็มักจะค่อยโดนหักและได้ราคาดีกว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook