ค่าไฟจ่อขึ้นอีกรอบเดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 ขยับ 40 สตางค์ต่อหน่วย

ค่าไฟจ่อขึ้นอีกรอบเดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 ขยับ 40 สตางค์ต่อหน่วย

ค่าไฟจ่อขึ้นอีกรอบเดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 ขยับ 40 สตางค์ต่อหน่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เว็บไซต์ thebangkokinsight รายงานว่า นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาฑิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ระบุ แนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า FT) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 ยังไม่มีการพิจารณาเพราะต้องรอปิดรอบการคำนวณก่อน เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มคำนวณกลางเดือน มิ.ย. นี้ โดยจะประกาศช่วงกลางเดือน ก.ค. 65

เบื้องต้น ต้นทุนที่ได้ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องจากที่สำนักงาน กกพ. คาดการณ์หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คาดว่าค่าไฟรอบใหม่ หรือรอบปลายปีจะปรับขึ้น 40 สตางค์ต่อหน่วย เป็นตัวเลขที่ไม่ส่งต่อให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับภาระ

"เดิมค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ส่งผลให้ประมาณการค่าเอฟที ช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. 65 สูงขึ้นเป็น 129.91 สตางค์ต่อหน่วย แต่ กกพ. พิจารณาภายใต้หลักแบบขั้นบันได 3 งวด เฉลี่ยงวดละ 47.3 สตางค์ต่อหน่วย และ กฟผ. ช่วยรับภาระจึงลดลงอยู่ที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย ส่วน งวดใหม่เบื้องต้นตัวเลขคำนวณยังไม่เปลี่ยนแปลง คาดจะขึ้น 40 สตางค์ต่อหน่วย" นายคมกฤช กล่าว

ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมัน รายงานจากทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุ สถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ล่าสุดเพิ่มขึ้น โดยได้แรงหนุนจากสหภาพยุโรป (EU) เดินหน้าพิจารณามาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียในการประชุมสุดยอด (Summit) ในวันที่ 30-31 พ.ค. 65 กระทรวงการคลังสหรัฐ ประกาศคว่ำบาตรเครือข่ายการลักลอบขนน้ำมัน และฟอกเงิน ซึ่งอิหร่านและรัสเซีย สนับสนุน อาทิ บริษัท RPP LLC ในรัสเซีย, Zamanoil DMCC ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, Haokun Energy Group Co. Ltd. ในจีน, และ China Haokun Energy Ltd. เป็นบริษัทลูกที่อยู่ในฮ่องกง เป็นต้น

นักวิเคราะห์ของธนาคาร UBS ของสวิตเซอร์แลนด์ คาดว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังคงอยู่ในระดับสูง จากความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐ ขณะที่อุปทานน้ำมันมีแนวโน้มลดลง ขณะเดียวกันสถานการณ์ราคาน้ำมัน ที่จะเพิ่มขึ้นยังประกอบกับสหรัฐ เข้าสู่ฤดูขับขี่ท่องเที่ยว โดยสมาคมรถยนต์แห่งอเมริกา (AAA) คาดการณ์จำนวนประชาชนที่เดินทาง (ระยะทาง 50 ไมล์ขึ้นไป) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5% อยู่ที่ราว 34.9 ล้านคน

นักวิเคราะห์ของธนาคาร UBS นาย Giovanni Staunovo คาดว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังคงอยู่ในระดับสูง จากความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐ ขณะที่อุปทานน้ำมันมีแนวโน้มลดลง

กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (G7: แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐ) ที่ประชุมช่วง 25- 27 พ.ค. 65 เรียกร้องให้กลุ่ม OPEC จะประชุมในวันที่ 2 มิ.ย. 65 ช่วยบรรเทาภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดโลกที่มีแนวโน้มตึงตัวจากการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย เพื่อความมั่นคงทางพลังงานโลก

ทั้งนี้ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ บันทึกการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งละ 0.50% ในการประชุมเดือน มิ.ย. และ ก.ค. 65

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook