"Rubber Killer" กระเป๋าเรียบ-เท่ จากยางรถยนต์

"Rubber Killer" กระเป๋าเรียบ-เท่ จากยางรถยนต์

"Rubber Killer" กระเป๋าเรียบ-เท่ จากยางรถยนต์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ได้ยินมานานมากแล้วถึงคุณสรรพของ "Rubber Killer" กระเป๋าอีโคที่ชื่อติดหูเราจนมาถึงทุกวันนี้

กระทั่งวันที่มีโอกาสได้นั่งคุยกับเจ้าของแบรนด์ Rubber Killer ก็มีอายุก้าวเข้าปีที่ 4 แล้ว ปีแห่งความเปลี่ยนแปลง

เจ้าของแบรนด์หนุ่ม "เสริงรงค์ วงษ์สวรรค์" ลูกชายคนเล็กของอาว์"รงค์ วงษ์สวรรค์ ของเรา (ใช่ ! ของเราเองล่ะ) เล่าให้เราฟังว่า ถึงเวลาที่ Rubber Killer ต้องมองถึงทิศทางการขยายสเกลธุรกิจ เพิ่มกำลังการผลิต และมีโปรดักต์ใหม่ ๆ ที่หลากหลาย ซึ่งไม่จำเป็นต้องอีโคเสมอไป ในชื่อแบรนด์ "Rubber Killer & FRIENDS"

"เราไม่อยากเริ่มทำเล่น ๆ แล้ว อยากเอาจริง เริ่มคำนึงถึงคนที่ทำงานด้วยกันมากขึ้น จะเป็นนักออกแบบอย่างเดียวไม่ได้แล้ว จำนวนออร์เดอร์ที่เข้ามาก็ต้องทำให้คิดถึงการขยายธุรกิจ เรื่องการออกแบบก็เล่นกับวัสดุใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่อีโค อย่างใบสีขาวที่ออกมาล่าสุดก็ทำจากผ้า ซึ่งใช้เป็นสายพานเครื่องจักรในโรงงาน วัสดุแข็งแรง ทนทาน เข้ากับซัมเมอร์" เสริงรงค์บอกเล่า

Rubber Killer & FRIENDS จึงแตกไลน์ออก รองรับกระเป๋ารุ่นที่ใช้วัสดุใหม่ๆ และกำลังได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมากก่อนที่ Rubber Killer กำลังจะก้าวไปข้างหน้า ที่ผ่านมาเป็นที่รู้กันว่า Rubber Killer คือกระเป๋าเรียบ เท่ มีถิ่นกำเนิดในเชียงใหม่ และที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวมาก เพราะ "วัสดุ" ทำจากยางในรถยนต์ แต่ละใบมีลวดลายหรือกราฟิกไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อยาง ตั้งแต่โอตานิ, บริดจสโตน หรือไฟร์สโตนยิ่งใช้นาน ตัววัสดุยิ่งขึ้นเงา ทำความสะอาดง่าย ทนทาน และบอกตรง ๆ ว่า กระเป๋าของเขาประณีตทุกชิ้น

ความประณีตในงานดีไซน์ของ Rubber Killer เป็นสิ่งที่เราเห็นได้ชัดจากโปรดักต์ทุก ๆ ชิ้น เสริงรงค์ย้ำเองว่า นิสัยของเขา ลงรายละเอียดกับทุกสิ่งอย่าง ขอเรียกคุณสมบัติข้อนั้นว่า เขาเป็นคน "ยิบ"

เรียกว่าเก็บในทุกรายละเอียด กระทั่งลายซิป ตีนตุ๊กแก การตัดเย็บ การเลือกใช้ส่วนโค้งของสันยางให้เข้ากับกระเป๋ารุ่นนั้น ๆ ป้ายแบรนด์ของแต่ละใบ กระเป๋ารุ่นแรก ๆ ของเขาที่ทำจากผ้าใบ เป็นถุงทะเลทหาร ซึ่งเป็นวัสดุหายากมาก เขาจะทำซีเรียลนัมเบอร์ให้ แน่นอนว่าเขายังใช้ใบที่มีเบอร์ 01 แม้รุ่นนี้จะมีไปจนถึงใบที่ 60 แล้วก็ตาม

แรกที่ทำกระเป๋าใหม่ ก็ถ่ายรูปเก็บทุกใบ เขา "ยิบ" ถึงขนาดนั้น

"ผมเป็นคนที่เก็บทุกรายละเอียดจริง ๆ ซิปกระเป๋าที่คุณภาพดี มันแพงกว่าไม่เท่าไหร่เองนะ บางทีก็ไม่เข้าใจคนที่ลดต้นทุนทุกสิ่งอย่าง อีกนิดเดียว ใช้ของดี ของทนไปเลย"

ด้วยความ "ยิบ" ของเขานี่ล่ะ Rubber Killer จึงออกมาดูแล้วพอดิบพอดี

ช่องทางการขาย Rubber Killer นอกจากมีหน้าร้านอยู่ที่ ถ.นิมมานเหมินท์ จ.เชียงใหม่ (ต้องโทร.นัดก่อน) ก็ยังฝากขายที่ร้าน Propaganda สยามดิสคัฟเวอรี่,ร้าน ECO SHOP ชั้น 1 Digital Gateway เซ็นเตอร์พอยท์, ร้าน Happening Shop ที่หอศิลป์ กรุงเทพฯ ยังมีช่องทางเฟซบุ๊กที่สะดวก และเริ่มดึงลูกค้าจากต่างชาติเข้ามามากขึ้น

เขาบอกว่า "ช่องทางการตลาดที่ดีสุดของแบรนด์คือเฟซบุ๊ก ตอนนี้มีชาวต่างประเทศมาติดต่อซื้อจากหลาย ๆ ประเทศ เพราะเห็นลิงก์เกี่ยวกับแบรนด์เราและอีเมล์มาหา ตั้งแต่แอลเบเนีย เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย และญี่ปุ่น ซึ่งแบรนด์เราส่งไปขายในร้านเล็ก ๆ ที่ญี่ปุ่นแล้ว ตอนนี้กำลังพูดคุยกับลูกค้าเยอรมัน มีแนวโน้มว่า Rubber Killer จะไปขายที่เบอร์ลิน"

กระเป๋ารุ่นที่ลูกค้า Rubber Killer ชอบและถามหามากสุดคือรุ่น Tote Bag ที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ จากนั้นเสริงรงค์ก็เริ่มปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เอาวัสดุที่ไม่ใช่อีโคเข้ามาปน เขาหยิบข้อดีตรงที่ก้นกระเป๋าเป็นยาง ทน ทำความสะอาดง่าย เปียกน้ำได้ แล้วก็เปลี่ยนวัสดุด้านบนให้มีน้ำหนักเบาขึ้น โดยใช้ผ้านำเข้าจากญี่ปุ่น หรือ Wool บ้าง

งานของ Rubber Killer น่าสนใจทุกชิ้น และยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สิ่งที่น่าครอบครองที่สุด (100 Most Desirable Things) จากนิตยสารอิมเมจ ฉบับเดือนมกราคม 2556
เสริงรงค์บอกว่า ที่จริงเป็นคน "ขี้เบื่อ" แต่พอผันจากสายงานสถาปนิก มาออกแบบกระเป๋า พร้อมกับทำธุรกิจ ตอนนี้ยัง "สนุก" กับงานชิ้นนี้อยู่

"ตอนนี้มีความสุขมาก แต่ก็เหนื่อยมากเหมือนกัน ความสุขคือการได้เห็นงานออกแบบของเรา มีคนเอาไปใช้ มีคนชอบ ภูมิใจกับมัน"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook