อยากขายทองทำกำไรต้องรู้ ลักษณะทองแบบไหนที่ร้านทองจะรับซื้อเต็มราคาบ้าง

อยากขายทองทำกำไรต้องรู้ ลักษณะทองแบบไหนที่ร้านทองจะรับซื้อเต็มราคาบ้าง

อยากขายทองทำกำไรต้องรู้ ลักษณะทองแบบไหนที่ร้านทองจะรับซื้อเต็มราคาบ้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วงที่ราคาทองปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ถือเป็นโอกาสสร้างกำไรจากการขายทองสำหรับใครบางคน แต่การนำทองไปขายที่ร้านทองนั้น อาจทำให้เราขายได้ไม่เต็มราคาเท่าไหร่นัก เพราะร้านทองจะมีเกณฑ์ในการรับซื้อด้วยเช่นกัน อยากรู้มั้ย ทองแบบไหนที่ร้านทองจะรับซื้อเต็มราคา Sanook Money มีข้อมูลดีๆ มาฝากกัน

เว็บไซต์ Ausiris ระบุถึงลักษณะทองคำที่ร้านทองจะรับซื้อเต็มราคา จะต้องดูที่ ทองที่มีเปอร์เซ็นต์เต็ม, ทองที่มีน้ำหนักครบ, ทองที่มีโลโก้ หรือตราสัญลักษณ์ และทองคำแท่ง

1. ทองที่มีเปอร์เซ็นต์เต็ม มี 2 แบบ ได้แก่

  • ทอง 99.9% คือ ทองแท้เกือบ 100% ค่อนข้างมีความอ่อนตัว ไม่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับทองเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เป็นทองคำแท่ง หรือทองสั่งทำพิเศษ มักซื้อขายกันเป็นกิโลกรัม
  • ทอง 96.5% คือ ทองมาตรฐานในไทย ที่ได้รับความนิยมมากกว่า ซึ่งทองที่เห็นตามร้านทองส่วนใหญ่จะเป็นทองแบบนี้ เนื่องจากมีความแข็งแรง นิยมผลิตเป็นทองคำแท่ง และทองรูปพรรณ เช่น สร้อยทอง, สร้อยข้อมือ, แหวนทอง, จี้ทอง เป็นต้น โดยราคาทอง 99.9% จะแพงกว่าราคาทอง 96.5%

ดังนั้น ร้านทองจะตรวจสอบก่อนว่าทองที่นำมาขายนั้นเป็นทองเปอร์เซ็นต์อะไร จะได้ตีราคาให้ถูกต้อง หากเป็นทองเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่านั้น บ้างร้านอาจไม่รับซื้อ แต่มีวิธีสังเกตุง่ายๆ เช่นกัน ถ้าเป็นทองคำแท่งจะมีการปั๊มบอกเปอร์เซ็นต์ทองบนหน้าทอง ส่วนทองรูปพรรณจะสังเกตุได้ตามตะขอ และเนื้อแหวนด้านใน

2. ทองที่มีน้ำหนักครบ

  • น้ำหนักทองถือเป็นหัวใจสำคัญทั้งตอนซื้อและขายทอง เช่น 1 สลึก, 2 สลึง และ 1 บาท เป็นต้น โดยร้านทองจะชั่งน้ำหนักให้ดูทุกครั้งว่าครบเต็มจำนวนหรือไม่ โดยหน่วยน้ำหนักทองในตราชั่งมีหน่วยเป็นกรัม (ทองคำแท่ง 1 บาท หนัก 15.244 กรัม, ทองรูปพรรณ 1 บาท หนัก 15.16 กรัม ส่วนน้ำหนักอื่นๆ ก็ต่างกันเช่นกัน)

หากน้ำหนักทองหาย ไม่ขาด จะได้ราคารับซื้อเต็มจำนวน ส่วนใหญ่ทองรูปพรรณมีโอกาสน้ำหนักทองหายมากกว่าทองคำแท่ง เพราะการใส่เป็นเครื่องประดับ ยิ่งใส่เป็นประจำไม่ถอดก็มีโอกาสสร้อยคอจะหลุด แหวนบุบ ตะขอหัก ทำให้น้ำหนักทองหาย

3. ทองที่มีโลโก้หรือตราสัญลักษณ์

  • ตราสัญลักษณ์ หรือโลโก้ ใช้บอกที่มาของแหล่งผลิต ซึ่งร้านทองรายย่อยจะซื้อทองจากร้านทองรายใหญ่มาขาย ช่วยการันตี สร้างความน่าเชื่อถือได้ดีกว่า มีผลให้ขายทองได้มากกว่าทองที่ไม่มีโลโก้ โดยทองคำแท่งจะเห็นโลโก้ง่ายกว่า ถ้าเป็นทองรูปพรรณ อาจต้องใช้แว่นขยายเพื่อตรวจสอบเพราะเนื้อทองน้อย ส่วนใหญ่อยู่ที่ใต้ทองแหวน ตะขอสร้อย เป็นต้น

4. ทองคำแท่ง

  • ทองคำแท่ง เป็นสินทรัพย์ที่ซื้อเพื่อการลงทุน เก็งกำไร เก็บเป็นสมบัติ อีกทั้งโอกาสชำรุดและน้ำหนักทองหายมีน้อยกว่าทองรูปพรรณ ปัจจุบันทองคำแท่งถูกห่อหุ้มด้วยบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรง ทำให้เก็บรักษาได้ดีกว่าทองรูปพรรณ

สำหรับเกณฑ์การรับซื้อทองรูปพรรณ ตามที่ สคบ. ประกาศไว้ หากซื้อแล้วขายคืนร้านเดียวกัน ให้หักลบราคาจากราคารับซื้อทองคำแท่งไม่เกิน 5% หากขายทองคำต่างร้าน อาจหักราคามากกว่า 5% ดังนั้น การซื้อทองที่ไหนก็ควรไปขายที่นั่นทำให้โดนหักน้อยกว่าขายคืนต่างร้าน

สรุป การขายทองรูปพรรณ อาจได้ราคารับซื้อที่ต่ำกว่าราคาสมาคมประกาศ แม้คุณสมบัติจะครบก้ตาม เพราะสร้อยบางเส้นขึ้นรูปยาก ต้องใช้น้ำประสานทองเยอะช่วยให้ยึดติดได้ง่าย ไม่เหมือนทองคำแท่งที่ไม่มีส่วนยึดติดกัน ทำให้มีเนื้อทองล้วนๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook