YLG คาดราคาทองเดือน มี.ค. ยังแกว่งตัว แนะเก็งกำไรระยะสั้น
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า แนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงต้นเดือน มี.ค.จะยังคงมีทิศทางใกล้เคียงกับช่วงปลายเดือน ก.พ. แม้ว่าจะได้รับแรงหนุนหลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้มีถ้อยแถลงที่บ่งชี้ว่าเฟดจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจต่อไป เพราะเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ซึ่งถือเป็นปัจจัยสนันสนุนทองคำ อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ยังอยู่ในระดับไม่น่าเป็นห่วง เฟดจึงยังไม่เร่งรีบในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ราคาทองคำเริ่มดีดตัวกลับมา
อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาทองคำในช่วงนี้คือการกระจายวัคซีนที่มีความคืบหน้า จึงทำให้เฟดมีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจมากขึ้น ประเด็นนี้จึงสะกัดการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ นอกจากนี้ในส่วนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่เริ่มกลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร ที่ได้รับแรงกดดันจากการกระจายวัคซีนในสหภาพยุโรปที่กระจายได้น้อยกว่าภูมิภาคอื่นจึงส่งผลกระทบต่อค่าเงินยูโร อีกทั้งกองทุนทองคำเช่น SPDR ก็ยังคงขายทองคำต่อเนื่อง
นอกจากนี้ พบว่า ตามสัญญาณทางเทคนิคของทางคำในระยะกลางยังคงเป็น sideway down โดยเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ปรับลดลงไปอยู่จุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ที่ 1,760 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากนั้นได้มีการฟื้นตัวมาที่ 1,816 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากนั้นก็เคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบแคบ
ดังนั้น สำหรับคำแนะนำนักลงทุนที่มีทองคำในมือหากราคาทองคำในช่วงนี้ไม่ผ่าน 1,816 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ต้องระมัดระวังทองคำอาจจะปรับฐานครั้งใหม่ นักลงทุนจึงควรแบ่งขายทำกำไรออกมา แต่หากราคาทองคำสามารถผ่าน 1,816 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ไปได้มีโอกาสไปต่อที่ 1,827-1,841 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนนักลงทุนที่ต้องการเข้าซื้อยังต้องเน้นเข้าซื้อในระยะสั้นเมื่อราคาอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,779-1,760 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เท่านั้น และไม่ควรซื้อทองคำมากเกินกว่าความเสี่ยงที่รับได้พร้อมตั้งตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์