Daily View - บล.กสิกรไทย

Daily View - บล.กสิกรไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แรงส่งของ SET เร่งเร้าการ Exit ของ Trigger Fund           แนวโน้มตลาด: ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปยังคงเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ ทั้ง S&P500 และ DAX จากโมเมนตัมเชิงบวกของตัวเลขจ้างงานฯสหรัฐ (อัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 7.5% ต่ำสุดในรอบ 4 ปี) ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่ไร้ปัจจัยกดดัดันเนื่องจากฝั่งสหรัฐไม่ได้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สํสำคัญ ขณะเดียวกันยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมี.ค.56 (+2.2% ตลาดคาด -0.5 %) ได้หนุนโมเมนตัมเชิงบวกต่อสถานการณ์ในยุโรปให้ดีขึ้น  พร้อมกักันนั้น การลดดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของออสเตรเลียยังเป็นอีกปัจจัยบวกที่สนับสนุนการปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์เสีสี่ยงและเป็นสัญญาณนำ (Leading sign) ต่อการดำเนินนโยบายการเงินของภูมิภาคเอเซียในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ตาม เรายังคงมีความกังวลต่อแรงขายของนักลงทุนสถาบัน เนื่องจาก Trigger Fund หลายกองมีอัตราผลตอบแทนเข้าใกล้ระดับเป้าหมาย และพร้อมที่จะ Exit กอง ราว 1 หมื่นล้านบาท เราจึจึงยังคงกลยุทธ์ซื้อในเชิงตั้งรับต่อไป // ปัจจัยเก็งกำไรหุ้นรายตัว / กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ - เคาะประมูลทีวีดิจิตอล140-1,51 0ล. / TTA   - จะกลับมามีกำไรเป็นบวกใน 2 ไตรมาส (ค่าระวางเรือ + 3 วันติดต่อกัน)           กลยุทธ์การลงทุน: คาด SET Ind ex สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1580-1620 โดยวานนี้SET ลงมาทดสอบ 15 70-1580 และสามารถดีดกลับขึ้นไปปิดที่ระดับ 1600 และมีโมเมนตัมที่จะปรับตัวขึ้ขึ้นต่อ อย่างงไรก็ตาม เราอยากให้นักลงทุนระมัดระวังการปรับขึ้นของ SET เนื่องจาก Trig ger Fund หลายกองเข้าสู่สระดับเป้าหมายที่พร้อม Ex it ดังนั้น ใในเชิงกลยุทธ์เรายังคงเน้นเลือกหุ้นราคาถูถูกที่มีประเด็นเก็ก็งกำไร และมีมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการ หุ้นแนะนำ AAV TRUE BECL           สำหรับนักลงทุนระยะกลาง:(เมื่อ 20 มี.ค.) ขอเสี่ยงลดน้ำหนักการลงทุนเป็นครั้งทีที่สองในรอบ 11 เดือนลง 10% เหลือ 60% (ครั้งแรกเมื่อ 22 ก.พ.) ซึ่งในส่วนของการซื้อต่อยอดสะสมระยะกลาง ขอเน้นเลือกซื้อใน AD VANC AP MK T TA MAJOR S TANLY PM TK PTT CPF TICON ROJN A หุ้นแนะนำวันนี้           AAV (ปิด 7.20 เป้าระยะสั้น 7.5 0-7.90 ขายเมื่อหลุด 6.7 5) คาดกำไร 1Q56 แข็งแกร่งจากปริมาณการเดินทางที่เพิ่ม (cabi n factor 8 7% vs. 86 % in 1Q55 ทั้งที่จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น 1 5-20%) ขณะที่ต้นทุนเชื้อเพลิงลดลง + ได้รับสิทธิ์ในเส้นทางการบินใหม่ซึ่งช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้ + การกลับมาใช้สนามบินดอนเมืองอย่างเต็มรูปแบบของ AOT + ตลาดมีแนวโน้มปรับประมาณการและคำแนะนำขึ้น          TRUE (ปิด 8.60 เป้ปาระยะสั้น 9.00-9.70 ขายเมื่อหลุด 8.00 ) การย้ายลูกค้าไปยัง True MoveH ต่อเนื่องน่าจะเริ่มส่งผลดีดีต่องบ 1Q56 ให้ขาดทุนลดลงต่อเนื่อง + เก็งกำไรบริษัทมีมีโอกาสปรับปรุงปัจจัยพื้นฐานจากแผน rec apitalization ซึ่งคาดว่าน่าจะรวมถึงการออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้ทั้งหนี้และต้นทุนค่าเสื่อมราคาลดลง           BECL (ปิด 41.25 เป้าระยะสั้น 43.00-47.00 ขายเมื่อหลุด 3 8.50) ปริมาณจราจรมี.ค.เพิ่ม 3.4% Y oY + การขึ้นค่าทางด่วน 1 ก.ย.56 คาดได้รับการปรัรับขึ้นอย่างน้อย 5บาท แต่ในกรณีดีสุดอาจขึ้นถึง 15 บาท + ราคาคิดเป็น 15.3 และ 12.9เท่า PER 56-57 และให้ปันผล 3.9% และ 4.1% ตามลำดับ Valu e stocks: PM TK OISHI KK / Turnarou nd: TTA THA I TRUE ROJN A และอาจเสี่ยงซื้อ TUF ปัจจัยที่ต้องติดตาม          - 08 พ.ค. China: Trade Balance          - 09 พ.ค. China: Consumer Price Index          - 09 พ.ค. US: Jobless Claims          - 10-15 พ.ค. EU(Event): European Commission Releases Economic Growth Forecasts          - 13-17 พ.ค.Thailand: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์          - 13 พ.ค. China: Industrial Production          - 13 พ.ค. China: Retail Sales          - 13 พ.ค. EU(Event): Euro-Area Finance Ministers Meet in Brussels          - 13 พ.ค. US: Retail Sales          - 14 พ.ค. EU(Event): EU-27 Finance Ministers Meet in Brussels          - 14 พ.ค. EU: Euro-Zone Industrial Production          - 14 พ.ค. EU: ZEW Survey (Econ. Sentiment)          - 15 พ.ค. EU: Euro-Zone GDP          - 15 พ.ค. US: Producer Price Index          - 15 พ.ค. US: Empire State Mfg          - 15 พ.ค. US: Industrial Production          - 16 พ.ค. EU: Euro-Zone CPI          - 16 พ.ค. US: Consumer Price Index          - 16 พ.ค. US: Housing Starts                    - 16 พ.ค. US: Jobless Claims          - 16 พ.ค. US: Philadelphia Fed Survey          - 17 พ.ค. US: Consumer Sentiment          - 19 พ.ค. Thailand: กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นัดรวมตัวสี่แยกราชประสงค์ เนื่องในวันครบรอบ 3 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมฯ          - 20-24 พ.ค.Thailand: กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออกของไทย          - 20 พ.ค. Thailand: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไตรมาสที่ 1/56          - 22 พ.ค. EU(Event): EU Leaders Hold Summit in Brussels          - 27-31 พ.ค.Thailand: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง          - 27-31 พ.ค.Thailand: กระทรวงพาณิชย์เรียกประชุมทูตพาณิชย์เตรียมทบทวนเป้าหมายส่งออกปี 2556          - 28 พ.ค. Thailand: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรมประจำเดือน          - 29-30 พ.ค.Thailand: รัฐบาลขอเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ ...เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 29 พ.ค. Thailand: ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ครั้งที่ 4/2556 29 พ.ค. EU(Event): EU Makes Annual Economic Policy Recommendations            - 31 พ.ค. Thailand: ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือน บทวิเคราะห์วันนี้           DELTA (ขาย ปิด 37.75 พื้นฐาน 31.00 -17.88%) DELTA รายงานกำไรสุทธิ 1.22 พันล้านบาทใน 1Q56 (เพิ่มขึ้น 70% YoY)  โดย DELTA มีรายได้จากการขายเป็นสกุลเงินบาทเติบโต 9.4% YoY ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 7% ของผลิตภัณฑ์ power supply สำหรับติดตั้งใน server, networking และ storage (SNT) และ ยอดขาย power supply สำหรับระบบโทรคมนาคมเพิ่มขึ้นถึง 39% ในขณะเดียวกัน DELTA มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 27.0% ใน 1Q56 (เทียบกับ 25.7% ใน 1Q55) จากการจัดการสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้บริษัทมีการตั้งสำรองค่าเผื่อสินค้าล้าสมัยลดลง นอกจากนี้ DELTA ยังรายงานค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ที่ลดลง 20% YoY และ 11% QoQ อย่างไรก็ตามแม้ว่าผลประกอบการ 1Q56 ของ DELTA จะดีกว่าที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้มาก แต่การเติบโตของผลกำไรในไตรมาสนี้เป็นผลมาจากการลดค่าใช้จ่ายเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในปัจจุบันสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีอยู่แล้ว 2% เราจึงคงคำแนะนำ ขาย ที่ราคาเป้าหมาย 36 บาท           BCP (ขาย ปิด 36.25 พื้นฐาน 27.00 -25.52%) BCP รายงานกำไรสุทธิ 2.2 พันล้านบาทใน 1Q56 สูงกว่าประมาณการของเราที่ 1.2 พันล้านบาท โดย BCP ได้มีการบันทึกรายการพิเศษเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามา 842 ล้านบาทใน 1Q56 นอกจากนี้ BCP รายงานต้นทุนจากการดำเนินงานต่ำกว่าที่เราคาด 135 ล้านบาท อย่างไรก็ตามปริมาณการกลั่นใน 1Q56 ไม่ถึงระดับ 100,000 บาร์เรลต่อวัน ต่ำกว่าที่เราคาด ซึ่งมีสาเหตุมาจากการปิดที่ไม่ได้วางแผนมาก่อนของโรงกลั่นที่ได้เปิดเผยไปก่อนหน้านี้ ขณะที่โรงงานโซลาร์ เฟส 2 ได้เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ มีค ที่ผ่านมา และเมื่อรวมกับโรงงานโซลาร์ เฟส 1 ได้เพิ่ม EBITDA เป็นจำนวน 218 ล้านบาท ใน 1Q56 สุดท้ายนี้ถึงแม้ว่า BCP จะรายงานกำไรที่เหนือประมาณการของเรา แต่กำไรจากการดำเนินงานนั้นยังน่าผิดหวัง เราจึงยังคงเห็นว่า BCP ได้เกินมูลค่าไปแล้ว และ ยังคงแนะนำ ขาย          AOT (ขาย ปิด 152.00 พื้นฐาน 113.00 -25.66%) จากการที่ AOT พิจารณาจะเปลี่ยนสนามบินดอนเมืองเป็นสนามบินครบวงจร เราเชื่อว่าถ้า AOT สามารถย้ายสายการบินจากสนามบินสุวรรณภูมิไปสนามบินดอนเมืองได้ จะเป็นการช่วยปลด capacity ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และจะช่วยเลื่อนแผนการขยายเฟส 3-4 ออกไป อีก 1 ปี ทำให้ valuation เพิ่มขึ้น 7 บาทต่อหุ้น ในทางตรงกันข้ามเราเชื่อว่าเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น เพราะสายการบินต้องการการเชื่อมต่อไปสนามบินอื่น ดังนั้นถ้า AOT ลงทุน 1 หมื่นล้านบาทแล้วไม่สามารถดึงดูดผู้โดยสารได้ จะส่งผลเป็น downside to valuation ที่ 5 บาทต่อหุ้น และแม้เราได้ปรับประมาณการกำไร 2556 ของ AOT ขึ้นเป็น 9.3 พันล้านบาท (เพิ่ม 10% YoY) เพื่อสะท้อนอัตราการเติบโตของผู้โดยสารที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งใน 1Q56 (เพิ่ม 17.5% YoY) และเพิ่มราคาพื้นฐานเป็น 113 บาท เราเชื่อว่าราคาของ AOT นั้นได้เกินมูลค่าไปแล้ว เราจึงคงคำแนะนำ ขาย            PS (ซื้อ ปิด 29.75 พื้นฐาน 35.00 +17.65%) เราประเมินว่า PS จะประกาศกำไร 1Q56 ที่ 776 ลบ.เพิ่มขึ้น 23%YoY แต่ลดลง 38%QoQ การเพิ่มขึ้น YoY เกิดจากฐานการเติบโตที่ต่ำในปีก่อนที่เป็นผลต่อเนื่องมาจากน้ำท่วม ขณะที่การลดลง QoQ เกิดจากรายได้ที่สูงผิดปกติใน 4Q55 อย่างไรก็ตามผลประกอบการดังกล่าวหากเป็นไปตามคาดจะเป็นการยืนยันถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังน้ำท่วม เนื่องจากคาดว่ารายได้ส่วนใหญ่มาจากบ้านในแนวราบ ทั้งนี้แม้ว่าคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงจาก 1Q55 ที่ 35.5% เป็น 34.3% ใน 1Q56 เนื่องจากค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นแต่ถือว่ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 32.3% ใน 4Q55 กอรปกับยอดขายใน 4M56 ที่เติบโตถึง 105%YoY เป็น 14.7 พันลบ.โดยแบ่งเป็บทาวน์เฮ้าส์ 5.9 พันลบ. บ้านเดี่ยว 3.4 พันลบ. คอนโดมิเนียม 5.2 พันลบ.และโครงการในต่างประเทศ 98 ลบ.ทำให้เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อพัฒนาการของ PS โดย PS ซื้อขายในระดับ PER ปี 2556 ที่ 11.8x เทียบกับกลุ่มที่ 14.8x และราคาปิดล่าสุดยังมี upside ต่อมูลค่าพื้นฐานของเราที่ 35.0 บาทอีก 17.6% เราจึงยังคงคำแนะนำ \"ซื้อ\"           JAS (ซื้อ ปิด 8.30 พื้นฐาน 10.00 +20.5%) JAS ประกาศกำไร 1Q56 ที่ 776 ลบ. (+82% YoY และd 25% QoQ) ซึ่งดีกว่าที่เราคาดมาก แม้รายได้จะใกล้เคียงกับประมาณการเรา แต่อัตรากำไรที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยน และ อัตราภาษีที่ลดลง ทำให้กำไรเติบโตสูง โดยในไตรมาสนี้ไม่มีรายการค่าใช้จ่ายพิเศษเหมือน 4Q55 จากกำไรที่สูงในไตรมาสแรกทำให้เราปรับประมาณการกำไรทั้งปีของ JAS เพิ่มอีก 10% ในปี 56 และ 8-9% ในปี 57-58 เนื่องจากเราเชื่อว่าอัตรากำไรของบริษัทจะดีขึ้นจากการประหยัดต่อขนาดที่เพิ่มขึ้นและความสามารถในการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการตลาด ประกอบกับปรับลดอัตราภาษีจากผลประโยชน์การประหยัดภาษีจาก BOI ของบริษัทลูก จากการปรับกำไรเพิ่มทำให้ราคาเหมาะสมวิธี DCF ของเราเพิ่มเป็น 10.00 บาท จาก 8.10 บาท โดยปัจจุบันราคาหุ้นที่ซื้อขายที่ระดับ PER 19.2 เท่ายังน่าสนใจเมื่อเทียบกับการเติบโตกำไรที่ 30% ต่อปีในสามปีข้างหน้า ประกอบกับบริษัทมี P/CF ที่ระดับไม่แพงแม้จะเทียบกับบริษัทอย่าง ADVANC ดังนั้นเราจึงคงคำแนะนำ \"ซื้อ\"           ADVANC (ซื้อ ปิด 270.0 พื้นฐาน 270.0 +0.0%) ADVANC ประกาศงบ 1Q56 ที่ 9.9 พันลบ. เพิ่ม 11.8% YoY ดีกว่าที่เราคาดจากยอดผู้ใช้บริการใหม่สุทธิในระบบรายเดือนที่เพิ่มขึ้น 29% YoY โดยแม้รายได้จากบริการเสียงจะทรงตัว YoY แต่รายได้ด้านข้อมูลเติบโตสูง ประกอบกับอัตรากำไร EBITDA margin ที่ 43.5% สูงกว่าที่เราคาดและที่บริษัทเคยให้แนวทางไว้ นอกจากนั้นรายได้ค่าเชื่อมโยงโครงข่าย (IC) ใน 1Q56 ยังสูงกว่าที่เราคาดมาก เพิ่ม 77% YoY เชื่อว่ามาจากการที่ทุกค่ายเน้นแพคเกจสำหรับโทรทุกเครือข่าย นอกจากนั้น ADVANC ยังสนใจเข้าใช้งานโครงข่ายของ TOT หลังหมดอายุสัมปทานอีกด้วย ซึ่งเรามองเป็นข่าวดีเนื่องจากงบลงทุนจะลดลง และเราเชื่อว่าการใช้อัตรา IC rate ใหม่จะทำให้ EBITDA margin เพิ่มขึ้นในอนาคต จากการให้บริการสามจีใหม่แล้วใน 20 จังหวัด เราเชื่อว่า ADVANC ยังคงเป็นบริษัทที่ได้รับประโยชน์สูงสุดในทั้งสามราย คงคำแนะนำ \"ซื้อ\"          CENTEL (ซื้อ ปิด 37.75 พื้นฐาน 36.0 -5.3%) เราคาดว่า CENTEL จะรายงานกำไร 1Q56 ที่  700ลบ. (+24% YoY แต่ -6% QoQ) โดยคาดรายได้จากธุรกิจโรงแรมจะเติบโตดีกว่าคาดถึง 29% YoY สำหรับรายได้ด้านอาหารแม้คาดจะเติบโต 14.5% YoY แต่คาด SSS growth จะอ่อนตัว โดยผู้บริหารมีการปรับเป้ารายได้โรงแรมเป็นโต 27% จากเดิม 25% แต่ปรับเป้ารายได้อาหารลงจาก 16-17% เป็น 15-16% สำหรับการขายโรงแรมมัลดีฟส์แห่งแรกเข้ากองทุน REIT ยังอยู่ระหว่างศึกษาคาดว่าจะจบในปีนี้ แต่เรายังไม่ได้รวมในประมาณการ โดยเรามีการปรับประมาณการกำไรเพิ่ม 3-7% ใน 3 ปีข้างหน้าเพื่อสะท้อนตัวเลขนักท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง และปรับ EV/EBITDA multiple ทำให้ราคาเหมาะสมเพิ่มเป็น 36 บาท จากเดิม 31 บาท อย่างไรก็ตามเรามองว่าราคาหุ้นขณะนี้ไม่น่าสนใจ คงคำแนะนำ \"ถือ\"            CK (ซื้อ ปิด 25.50 พื้นฐาน 30.75 +20.59%) นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร CK เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ โตคิว คอร์ปอเรชั่น จากประเทศญี่ปุ่น ในการเข้าประมูลการพัฒนาที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ บนพื้นที่ 88 ไร่ริมถนนพระราม 4 (สวนลุมไนท์เดิม) โดยทางกลุ่มได้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นแล้ว และจะยื่นข้อเสนอตามกำหนดภายใน 30 สิงหาคม 2556 นี้ โดยคาดว่าทางกลุ่มจะยื่นประมูลการพัฒนาบนพื้นที่ทั้งโครงการ ซึ่งแบ่งเป็น 6 โซน ได้แก่ โรงแรม, คอนโดมิเนียม, ศูนย์การค้า, สำนักงาน, ศูนย์วัฒนธรรมและศูนย์การศึกษา ทั้งนี้ CPN เคยประเมินว่าการลงทุนบนที่ดินดังกล่าวคาดต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท แม้การเข้าร่วมประมูลดังกล่าวจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ CK ที่พร้อมสำหรับการลงทุนรอบใหม่ หลังการลงทุนที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างดีและสามารถทำกำไรได้ตามแผน ได้แก่ BECL, TTW และ BMCL อย่างไรก็ตามเราประเมินว่ายังเร็วเกินไปที่จะรวมโครงการดังกล่าวเข้าไปในประมาณการ เนื่องจากกลุ่ม CK ยังต้องประมูลแข่งกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อื่นที่มีความชำนาญเช่นกัน เช่น CPN, MBK, LH, ทีซีซี แลนด์ และ ซิตี้เรียลตี้ อย่างไรก็ตามเรายังชอบ CK จากพื้นฐานที่แข็งแกร่งและปัจจัยบวกในระยะสั้น ได้แก่ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งใน 1Q56 และการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ CK Power นอกจากนี้ราคาปิดล่าสุดยังต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานกว่า 20.6% เราจึงยังคงคำแนะนำ \"ซื้อ\" สรุปภาวะตลาด           DJIA ปิด 15,056.20 จุด +87.31 จุด (+0.58%) S&P500 ปิด 1,625.96 จุด +8.46 จุด (+0.52%) Nasdaq ปิด 3,396.63 จุด +3.66 จุด (+0.11%) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น โดยดัชนี DJIA ปิดเหนือระดับ 15,000 ได้เป็นครั้งแรก ขณะที่ดัชนี S&P 500 ยังคงทำจุดสูงสุดใหม่ เพราะได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป อันเนื่องมาจากข้อมูลที่ระบุว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเยอรมนีปรับตัวสูงขึ้นและจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าจะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกด้วย           NYMEX ส่งมอบ มิ.ย. อยู่ที่ USD95.62/bbl -0.54(-0.56%) สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบ มิ.ย. อยู่ที่ USD1,448.8/ounce -19.2(-1.31%) สัญญาราคาน้ำมันปรับตัวลง หลังจาก สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ปริมาณการใช้น้ำมันประจำปี 2556 และ 2557 โดยเป็นผลจากปริมาณการใช้ที่ลดลงในยุโรปและญี่ปุ่น ขณะที่สัญญราคาทองคำปรับตัวลงแรง จากการลดการถือครองทองคำโดยกองทุน ETF โดยยอดการถือครองล่าสุดลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.52 สรุปข่าวประจำวัน ต่างประเทศ           ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีพุ่งขึ้นสวนทางคาดการณ์ในเดือนมี.ค. โดยยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนมี.ค.56 สูงกว่าที่นักวิเคราะฆืคาดว่าจะหดตัวลง 0.5% นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการกลับมาขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีอีกครั้ง ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเพื่อการส่งออกนั้น เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนมี.ค. ส่วนยอดขายภายในประเทศเพิ่มขึ้น 1.8% ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคร่วงลง 0.7%(อินโฟเควสท์ และ Bloomberg)          ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.75% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและแนวโน้มที่มีความผันผวนมากขึ้นของเศรษฐกิจโลก (อินโฟเควสท์)          นายมาริโอ ดรากิ ประธาน ECB กล่าวว่า ECB พร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น เพื่อสกัดภาวะถดถอยของเศรษฐกิจยุโรป หลังจากที่ ECB ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในการประชุมครั้งล่าสุด (ถ้อยแถลงหลังการประชุมเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา) (อินโฟเควสท์)   ข่าวบริษัท            ADVANC กำไรพุ่งรับ3จี ADVANC โชว์กำไร Q1 พุ่ง 9,923 ล้านบาท เหตุอีบิทด้าเพิ่ม-ค่าตัดขายโครงข่ายลด-ภาษีนิติบุคคลเหลือ 20% พร้อมเปิดบริการ 3G บนคลื่น 2.1GHz อย่างเป็นทางการ 20 จังหวัด ตั้งสถานีฐานแล้ว 5 พันแห่ง สิ้นปีนี้ครอบ 1.1 หมื่นแห่ง (ข่าวหุ้น)          BCP ตั้งเป้าQ2\"โซลาร์ฟาร์ม\"ผลิตครบ70MW \"บางจาก\" กำไรไตรมาสแรก 2,198 ล้านบาท บุ๊คสต๊อกเกนทะลุ 1,100 ล้านบาท \"วิเชียร\" ลั่นมองไตรมาส 2 ค่าการกลั่น 6-7 เหรียญสหรัฐ พร้อมเดินเครื่องโซลาร์ฟาร์มครบ 70 เมกะวัตต์ หลังโครงการบางปะหันเริ่ม COD ต้นเม.ย.ที่ผ่านมา (ข่าวหุ้น)            JAS กำไรพุ่ง775ล้าน รายได้เติบโตกว่า12% \"จัสมินฯ\" งบไตรมาส 1/56 ดีเกินคาด โชว์กำไรสุทธิทะลุ 775 ล้านบาท เติบโต 82.2% บันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 49 ล้านบาท และเปลี่ยนมาตรฐานบัญชีใหม่เพิ่มกำไรสะสม ส่วนรายได้รวม 2,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.9% (ข่าวหุ้น)           DELTA กำไรปีนี้ทำนิวไฮ นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการ บริษัท เดลต้า อิเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจกำไรของบริษัทในปีนี้จะสามารถทุบสถิติทำกำไรปี 2555 ซึ่งมีอัตรากำไรอยู่ที่ 4,347 ล้านบาท และถือเป็นระดับกำไรสูงสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 1 ปี นี้สามารถทำกำไรได้ถึง 1,215 ล้านบาทมาก กว่างวดเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ระดับ 713 ล้านบาท นอกจากนี้ จะพยายามรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นทั้งปีให้ได้ที่ระดับเดียวกับในไตรมาสแรกที่ระดับ 27% และมากกว่าปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นระดับ 26.5% จะส่งผลให้บริษัทมีกำไรในปีนี้สามารถทุบสถิติอย่างแน่นอน (ข่าวหุ้น)           ECF ส่งซิกงบไตรมาส1สวย!ออเดอร์ไหลเข้าทะลัก ย้ำรายได้โตตามเป้า 15% ECF แย้มงบ Q1 สวย มั่นใจรายได้ปีนี้มากกว่า 1,250 ล้านบาท หรือโต 15% จากปีก่อน หลังญี่ปุ่นเพิ่มออเดอร์ไปถึงปีหน้า-รับรู้รายได้ลูกค้าดูไบ 120 ล้านบาท คุยลูกค้าอเมริกา-ฟิลิปปินส์-เกาหลีใต้ เล็งปันผลระหว่างกาลไม่ต่ำกว่า 40% (ข่าวหุ้น)           WHA ขยายกองทุนเพิ่ม4พันล้าน WHA เล็งขยายกองทุน WHAPF เพิ่มอีก 3,000-4,000 ล้านบาทในไตรมาส 3/56 พร้อมเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้โต 50% จากเดิมตั้งไว้ 30% ส่งซิกงบไตรมาส 1/56 ดีเกินคาด ลุยซื้อที่ดินเพิ่ม 700 ไร่ ขยายคลังสินค้า-ศูนย์กระจายสินค้า (ข่าวหุ้น)           BEC งบQ1กำไรทุบสถิติ WORKลุยธุรกิจทีวีดิจิตอล Nielsen เผยเม็ดเงินโฆษณาไตรมาส 1/2556 โต 4% ส่อง BEC โตถึง 11% หนุนกำไรไตรมาส 1/2556 ทุบสถิติ 1,298 ล้านบาท ด้าน WORK ตั้งเป้ารายได้ปี 2556 โต 30% จากการขยายตัวของธุรกิจทีวี เล็งประมูล \"ทีวีดิจิตอล\" ในเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ แถมปรับค่าโฆษณา 10-15% (ทันหุ้น)           MATCH เคาะราคาหุ้นเพิ่มทุน3.50บ. ดึงเงินสยายปีกสร้างสตูดิโอครบวงจร บอร์ด MATCH เคาะราคาหุ้นเพิ่มทุน PO จำนวน 210 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท เปิดจองซื้อหุ้น 8-10 พฤษภาคมนี้ ด้าน \"สมบุณ ชีวสุทธานนท์\" เชื่อขายหุ้นได้หมดงานนี้ตุนเงินเข้ากระเป๋า 735 ล้านบาท สยายปีกสร้างสตูดิโอครบวงจร (ทันหุ้น)           SNC ปั๊มกำไรQ1โต159ล. โชว์ทุกกลุ่มธุรกิจยอดฉลุย SNC โชว์งบไตรมาส 1/2556 โกยกำไรสุทธิ 159 ล้านบาท รับอานิสงส์ทุกกลุ่มธุรกิจยอดขายเพิ่มขึ้น ด้านผู้บริหาร \"สามิตต์ ผลิตกรรม\" ตอกย้ำเป้ารายได้-กำไร ปี 2556 เติบโตราว 20% มั่นใจอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นยังเติบโตต่อเนื่อง (ทันหุ้น)          TRT ตะลุยเก็บงาน5พันล้าน ส่องงบเทิร์นอะราวนด์ TRT เร่งเครื่องประมูลงานใหม่ 4-5 พันล้านบาท หวังคว้าชัยราว 20-25% เสริมรายรับอนาคต พร้อมมั่นใจปี 2556 รายได้ตามนัดพุ่ง 40% จากปีก่อน อานิสงส์ Backlog จ่อบุ๊กอื้อ (ทันหุ้น)            UNIQ งานในมือทะลุ4หมื่นล้าน UNIQ ส่งซิกโชว์ฐานกำไรก้าวกระโดด ด้าน \"นที พานิชชีวะ\" ลั่นทยอยรับรู้งานในมือที่ทะลุ 4 หมื่นล้านบาท แถมภาครัฐเตรียมป้อนตามพ.ร.บ. 2.2 ล้านล้านบาท พ่วงบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทเรียงคิว แย้มกระแสเงินสดหนาถกบอร์ดแจกปันผล 40% ของกำไรจากเดิมเคยจ่ายแค่ 25% (ทันหุ้น)           MACO เล็งทุ่มงบ100ล้านผุดป้ายโฆษณาโกยเงินเพิ่ม MACO เดินหน้าอัดฉีด 100 ล้านบาท ขยายจุดโฆษณาเพิ่มรับทรัพย์เข้ากระเป๋า พร้อมย้ำชัดปี 2556 รายได้ทะยาน 15-20% จากปีก่อนที่ 753.20 ล้านบาท ขานรับเศรษฐกิจโต แย้มอยู่ระหว่างดีลงานใหม่ราว 30-40 ล้านบาท หวังพอร์ตอีเวนต์ปีนี้พุ่งเท่าตัว (ทันหุ้น)           SEAFCO ซิวงานพม่า100ล. บิ๊ก SEAFCO \"ณรงค์ ทัศนนิพันธ์\" ใส่เกียร์ซิวงานใหม่ที่พม่ากว่า 100 ล้านบาท ขณะที่บอร์ดเร่งประชุมสรุปผลคัดเลือกพาร์ตเนอร์ร่วมลงทุน (ทันหุ้น)          CHO ดี๊ด๊าขายไอพีโอเกลี้ยง จ่อเข้าเทรดเอ็มเอไอ13พ.ค.นี้ หุ้นไอพีโอ CHO ปิดฉากยอดจอง 200 ล้านหุ้นขายหมดเกลี้ยง มั่นใจปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง อันเดอร์ไรต์ ประสานเสียงที่ปรึกษาทางการเงินมั่นใจเป็นสัญญาณบวก นักลงทุนแห่จองซื้อเพียบ เชื่อเข้าเทรดในตลาด หลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 13 พฤษภาคมนี้ สร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ ขณะที่ผู้บริหารหนุ่มหล่อไฟแรง \"สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย\" ตั้งเป้าเป็นหุ้นขวัญใจนักลงทุนรายต่อไป (ทันหุ้น)ข่าวเศรษฐกิจ / อุตสาหกรรม           งัด4มาตรการสกัดบาทแข็ง โต้งจี้ธปท.แก้ปัญหาขาดทุน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม. ว่า กระทรวงการคลังรายงานให้ ครม. ทราบถึงสถานการณ์ค่าเงินบาท มาตรการควบคุมเงินทุนไหลเข้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นำเสนอมาให้ทราบ 4 แนวทาง ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะที่ข้อกังวลเรื่องการขาดทุนของ ธปท. ในปี 55 กว่า 530,000 ล้านบาทนั้น หากไม่มีแนวทางแก้ไขอาจทำให้ยอดหนี้เพิ่มสูงขึ้น เพราะต้นทุนดอกเบี้ยยังสูงอยู่ ส่วนแนวทางลดดอกเบี้ยนโยบายที่ ธปท. แจ้งว่าไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหาเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่านั้น เห็นว่าคำตอบของ ธปท. ไม่สมเหตุสมผล ซึ่ง ธปท. ต้องทบทวนเพื่อไม่ให้มีปัญหาต่อสถานะทางการเงิน (เดลินิวส์)             เคาะประมูลทีวีดิจิตอล140-1,510ล. พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ดกสท.) เมื่อวันที่ 7 พ.ค. มีมติสรุปราคาเริ่มต้นประมูลทีวีดิจิตอล ช่องบริการธุรกิจ 24 ช่อง แบ่งเป็น ช่องรายการคมชัดสูง (ไฮเดฟิเนชั่นหรือเอชดี) 7 ช่อง เริ่มต้นที่ 1,510 ล้านบาท ช่องรายการทั่วไป (สแตนดาร์ด) 7 ช่อง เริ่มต้นที่ 380 ล้านบาท รายการข่าว 7 ช่อง เริ่มต้นที่ 220 ล้านบาท และรายการเด็กเยาวชนและครอบครัว 3 ช่อง เริ่มต้นที่ 140 ล้านบาท (ไทยโพสต์)          กฎเหล็กคุมเทกโอเวอร์ชงครม.เกิน2พันล.ติดล็อก-บิ๊กดีลระทึก พาณิชย์ชง ครม.อนุมัติ \"เกณฑ์ควบรวมกิจการ\" ตั้งเงื่อนไขธุรกิจที่มีมาร์เก็ตแชร์ 30% ยอดขาย 2,000 ล้านบาทขึ้นไป ซื้อหุ้นกว่า 25% ต้องขออนุญาตคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เอกชนชี้คุมเข้มเกินเหตุ สกัดกั้นการขยายธุรกิจ-ควบรวมกิจการ ด้านบริษัทที่ปรึกษากฎหมายขอความชัดเจนในการพิจารณาเกณฑ์ จับตากฎใหม่กระทบดีลซีพี ออลล์ ซื้อแม็คโคร (ประชาชาติธุรกิจ) การเมือง: รับม็อบบุกศาลรธน.ใช้18กองร้อย จะไปสภาถอดถอน5ตลก. \"เหลิม\"ชี้1แสนคนไม่ง่าย ไม่ถึงขั้นใช้พ.ร.บ.มั่นคง (ไทยรัฐ)           กิจพล ไพรไพศาลกิจ Kitpon.p@kasikornsecurities.com +662 696-0057          ปณิธิ จิตรีโภชน์ Paniti.j@kasikornsecurities.com, +662 696-0053          โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 8 พ.ค. 2556

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook