พีทีจี ชู Multi-Service กู้รถประสบเหตุฉุกเฉินผ่าน "Max Service" พร้อมอัดสิทธิพิเศษเพียบ!

พีทีจี ชู Multi-Service กู้รถประสบเหตุฉุกเฉินผ่าน "Max Service" พร้อมอัดสิทธิพิเศษเพียบ!

พีทีจี ชู Multi-Service กู้รถประสบเหตุฉุกเฉินผ่าน "Max Service" พร้อมอัดสิทธิพิเศษเพียบ!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายพร้อมศักดิ์ จรัญญากรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า PT Max Service เป็นรูปแบบบริการที่จะช่วยเหลือผู้ประสบเหตุฉุกเฉินจากการใช้รถบนท้องถนน เช่น แบตหมด น้ำมันหมดระหว่างการเดินทาง โดยใช้สถานีบริการน้ำมัน PTG ที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 2,000 แห่ง กระจายอยู่ทั้งสายหลักและสายรอง คอยให้บริการ ตอบ Pain Point ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี สามารถเรียกใช้บริการได้ผ่าน Call Center 1614 กด 2 จากนั้นผู้ใช้รถก็แจ้งปัญหารถยนต์ที่เกิดขึ้นได้ทันที 

988672

โดยบริการดังกล่าวได้เริ่มคิกออฟไปเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา พบว่าปัจจุบันมียอดผู้ใช้บริการ Max Service แล้วกว่า 400 ราย ส่วนใหญ่เลือกใช้บริการจัดส่งน้ำมัน Delivery ซึ่งเป็นการออกให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มีสัดส่วนสูงถึง 80%  

maxservice(2)

สำหรับรูปแบบบริการจะมี 2 แบบ ได้แก่ 1. บริการจัดส่งน้ำมันฉุกเฉิน รัศมีบริการไม่เกิน 10 กิโลเมตรจากสถานีบริการน้ำมันพีทีที่อยู่ใกล้ที่สุด ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล และต่างจังหวัด สามารถส่งน้ำมันให้ได้ครั้งละ 4 ลิตร ค่าบริการจัดส่งครั้งละ 100 บาท หรือใช้แต้มสะสม PT Max Card 100 แต้ม และคิดค่าน้ำมันตามจริง และ 2. บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทั่วไปบนท้องถนน 24 ชั่วโมง เช่น บริการยก-ลากรถฉุกเฉิน บริการด้านแบตเตอรี่ ซ่อมรถในกรณีที่สามารถซ่อมได้ทันที บริการช่วยเหลือเกี่ยวกับกุญแจหรือยางรถยนต์ บริการช่วยเหลือกรณีเกิดอุบัติเหตุ บริการประสานงานจัดการนำรถเข้าศูนย์ซ่อมรถยนต์ ฯลฯ โดยจะคิดอัตราค่าบริการตามจริง

นายพร้อมศักดิ์ มองว่า ไตรมาสที่ 4 คาดว่า Max Service จะเป็น Top of Mind ของคนไทยหันมาเลือกใช้บริการมากที่สุด และยังคาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 จะมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์และบริการรูปแบบใหม่สำหรับผู้ถือบัตร Max Card ที่มีอยู่กว่า 14 ล้านคนทั่วประเทศ ได้นำบัตรไปใช้แลกส่วนลดต่างๆ ได้ทั้งร้านกาแฟพันธุ์ไทย รวมถึงร้านค้าพันธมิตรที่มีอยู่กว่า 400 รายทั่วประเทศ เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น พร้อมทั้งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดผู้ใช้บัตร Max Card อยู่ที่ 15 ล้านคน เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 2.5 ล้านคน

“เราพยายามนำเสนอสิทธิประโยชน์เอ็กซ์คลูซีฟยิ่งขึ้นตลอดเวลา โดยในปี 2563 เพียงปีเดียวเราจับมือกับพันธมิตรร้านค้าเพิ่มเติมกว่า 200 ราย ซึ่งในไตรมาสที่ 4 นี้ เราได้พันธมิตรที่สำคัญอย่าง DTAC  ฟู้ดแพชชั่น เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล ที่จะมาร่วมสร้างประสบการณ์และดีลดีๆ อีกมากมายแก่สมาชิกผู้ถือบัตร Max Card อีกด้วย” นายพร้อมศักดิ์ กล่าว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook