วิทวัส อัญสุสินธ์ เพราะความรักในงานที่ทำ ทำให้ประสบความสำเร็จกับงานที่รัก

ถึงแม้จะเป็นหนุ่มหน้าใหม่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ประสบการณ์การทำงานในสายงานการตลาดถือว่ามีชั่วโมงบินสูงเลยทีเดียว

วิทวัส อัญสุสินธ์ บุตรชายของนักหนังสือพิมพ์ วีระ อัญสุสินธ์ และ ทวีผล อัญสุสินธ์ ผู้บริหารในเครือสปริงฟิลด์ ปัจจุบันวิทวัสเป็นเรี่ยวแรงสำคัญให้กับโปรเจคยักษ์ใหญ่ของเครือธนิยะ ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าธัญญะช็อปปิ้ง ศรีนครินทร์ แหล่งช็อปปิ้งแห่งสไตล์โมเดิร์น อีโค ที่เน้นใส่ใจธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งแรกของเมืองไทย แม้หน้าที่ความรับผิดชอบดูจะโตเกินอายุ แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับหนุ่มวัยสามสิบต้นๆคนนี้


วิทวัส อัญสุสินธ์ จบปริญญาตรีและโท สาขานิเทศศาสตร์ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และเริ่มต้นชีวิตการทำงานในบริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดไปพร้อม ๆ กับการเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีสุดท้าย

เมื่อเรียนจบปริญญาโทแล้วจึงเดินตามเส้นทางอาชีพที่เรียนมาโดยได้ร่วมงานกูรูด้านการตลาดอย่าง วรัตดา ภัทโรดม เพื่อเสริมอาวุธและพัฒนาทักษะด้านการตลาดอยู่กว่า 3 ปี

จากนั้นจึงเดินตามความฝันโดยการสร้างธุรกิจร่วมกับเพื่อนเปิดโปรดักซ์ชั่นเฮ้าส์ในชื่อ Flashing Stu จำกัด อยู่ประมาณ 4 ปี พร้อมทั้งทำงานที่ปรึกษาด้านการตลาดควบคู่กันไป

จากนั้นจึงถูกทาบทามให้มาร่วมทีมการตลาดกับเครือธนิยะกรุ๊ปในฐานะผู้จัดการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าธัญญะช็อปปิ้ง และด้วยความตั้งใจทำงานวิทวัสก้าวขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของศูนย์การค้าภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี วิทวิสทุ่มเทกับโครงการนี้โดยหวังให้ธัญญะช็อปปิ้งพาร์คเป็นทางเลือกของคนกรุงเทพฝั่งตะวันออกให้ได้มีแหล่ง ช็อปปิ้งแนวใหม่ที่ดึงเอาธรรมชาติเข้ามาใกล้ชิดกับคนเมืองและชุมชน


วิทวัส เล่าถึงความประทับใจในการทำงานว่า "ผมมีความรักในงานที่ทำถือเป็นความโชคดีที่ได้มาดูแลโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับความชอบส่วนตัวในเรื่องของธรรมชาติ ผมเข้ามาดูแลตั้งแต่ที่ยังไม่เริ่มโครงการ เป็นพื้นที่ว่างเปล่าจนทุกวันนี้เสร็จสมบูรณ์เป็นรูปเป็นร่างชัดเจน ผมจึงรู้สึกภูมิใจกับงานครั้งนี้มาก คล้ายกับการปลูกต้นไม้ ผมได้หย่อนเมล็ดพันธุ์ลงในดินและตอนนี้จากเมล็ดพันธุ์เล็ก ๆ กำลังเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาและให้ความสุขในไลฟ์สไตล์ที่เป็นมิตรกับชุมชนและคนจำนวนมาก"

วิทวัส อัญสุสินธ์ เปิดเผยทัศนคติในการทำงานว่า

การทำงานของผมเน้นหลัก "4 ร" คือ
"เร็ว" ต้องทำงานรวดเร็ว ฉับไว ทันต่อสถานการณ์
"รอบคอบ" ไม่ประมาท มีสติ
"รอบรู้" ขวนขวายหาความรู้ใหม่ๆ และต้องรู้ให้รอบด้าน
"รู้ทัน" รู้ทันตลาดคู่แข่ง ทันโลก รวมถึงทันคน

คนรุ่นใหม่กับบทบาทผู้บริหารระดับสูง

"ผมรู้สึกดีที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ที่ได้มารับหน้าที่ผู้อำนวยฝ่ายการตลาด การศูนย์การค้าธัญญะช็อปปิ้งพาร์ค แต่ในขณะเดียวกันก็บอกตัวเองเสมอว่าต้องไม่ประมาทเพราะตำแหน่งยิ่งสูงความรับผิดชอบยิ่งมาก

ฉะนั้นเราต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลาและพยายามเรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์อยู่เสมอเพื่อเพิ่มประสบการณ์การทำงานและลดทอนเวลาในการเรียนรู้"

เทคนิคการบริหารคน

"ผมเองไม่อาจจะทำงานใหญ่ให้สำเร็จได้ด้วยกำลังของผมคนเดียวทีมงานทุกคนถือเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ประตูห้องทำงานของผมจะเปิดอยู่ตลอดเวลาเพื่อเปิดโอกาสและรับฟังความคิดเห็นของทีมงาน

ไม่ปิดกั้นความคิดเห็น และใส่ใจในรายละเอียดแม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น ต้องใส่ใจและดูแลลูกน้อง เพราะถ้าเค้ามีปัญหา แม้จะเป็นปัญหาส่วนตัวแต่ก็อาจจะส่งผลกระทบถึงงานได้ ดังนั้นเราต้องใส่ใจและทำให้เค้ารู้สึกว่าเราไม่ได้เป็นแค่เจ้านาย แต่เราเป็นทั้งเพื่อน พี่และน้องในเวลาเดียวกัน"

พร้อมทิ้งท้ายข้อคิดสำหรับการทำงานว่า "ก่อนอื่นต้องมีความสุขกับการทำงานและรักในงานที่ทำ ผลลัพธ์ย่อมออกมาดี แม้ในการทำงานเราต้องเจอกับอุปสรรค

แต่เมื่อเรารักในสิ่งที่เราทำย่อมจะทำให้มีความอดทนต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้นจนเราสามารถฟันฝ่าสิ่งต่างๆจนก้าวสู่ความสำเร็จได้" พร้อมทิ้งท้ายเทคนิคการบริหารงานแบบคนรุ่นใหม่ว่า

"ผมใช้หลักการกระจายความเสี่ยงในการบริหารงาน เช่น ถ้าเราซื้อไข่ไก่ 100 ฟอง แทนที่เราจะเอาไข่ไก่ทั้งหมดใส่ตะกร้าเพียงใบเดียว

แต่เราสามารถกระจายความเสี่ยงที่ไข่ไก่จะแตกทั้งหมดโดยการแบ่งไข่ไก่ใส่ตะกร้าหลายๆ ใบ เพื่อให้เกิดผลเสียน้อยที่สุด"