จับตา...พัทยาคอนโดฯล้น ? ที่ดินชายทะเลราคาพุ่ง หัวหินไร่ละ 100 ล้าน

จับตา...พัทยาคอนโดฯล้น ? ที่ดินชายทะเลราคาพุ่ง หัวหินไร่ละ 100 ล้าน

จับตา...พัทยาคอนโดฯล้น ? ที่ดินชายทะเลราคาพุ่ง หัวหินไร่ละ 100 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชั่วโมงนี้ ราคาที่ดินเมืองชายทะเลทั้งในจังหวัดชลบุรี ระยอง และพื้นที่ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี หรือหัวหิน ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขยับขึ้นอย่างร้อนแรง ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวต่อเนื่องตามไปด้วย

"ชนะ นันทจันทูล" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นจูรี่ 21 เรียลตี้ แอฟฟิลิเอทส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ราคาที่ดินเมืองชายทะเลโดยเฉพาะบริเวณริมทะเลจังหวัดชลบุรี ขยับขึ้นมากถึง 30-40% โดยมีราคาประกาศขายเฉลี่ยสูงถึง 50 ล้านบาทต่อไร่ ส่วนที่ดินในอำเภอเมืองและศรีราชาก็ขยับขึ้นเช่นกัน ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10-20 ล้านบาทต่อไร่

ขณะที่ที่ดินบริเวณหัวหิน ชะอำ ปราณบุรี มีความหลากหลายในด้านราคา ทั้งนี้ที่ดินริมทะเลหัวหินยังคงมีราคาแพงสุด มีการประกาศขายอยู่ที่ 100 ล้านบาทต่อไร่ ส่วนชะอำอยู่ที่ 30 ล้านบาทต่อไร่ ส่วนจังหวัดระยอง ราคาที่ดินติดริมทะเล เช่น หาดแม่รำพึง ซื้อขายอยู่ที่ 25 ล้านบาทต่อไร่

อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตว่า โครงการอสังหาฯในชลบุรีเกิดขึ้นแทบทุกวัน โดยเฉพาะพัทยาในช่วง 5 ปีมานี้กระแสบูมมากจนน่าตกใจ และเริ่มติดขัดเรื่องการขายออก

ขณะที่ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดระยองกลับไม่คึกคักมากนัก แม้ราคาที่ดินจะมีการขยับขึ้น เนื่องจากเมืองระยองมีการพัฒนาสาธารณูปโภคจากภาครัฐน้อยมากเมื่อเทียบกับพัทยา

"สัมมา คีตสิน" ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดชายทะเล พื้นที่ชลบุรี ระยอง และหัวหิน-ชะอำ-ปราณบุรี

ว่าปัจจุบันชลบุรีเป็นตลาดที่มีการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมมีมากกว่า 200 โครงการ คิดมูลค่าราว 170,000 ล้านบาท ถือว่ามีโครงการเปิดตัวมากเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ชลบุรีมีหน่วยที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ปีที่ผ่านมาประมาณ 96,600 หน่วย แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 39,800 หน่วย ขายได้ 69% คอนโดมิเนียม 56,400 หน่วย ขายได้ 66% ส่วนระยอง มีประมาณ 12,600 หน่วย แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 10,400 หน่วย ขายได้ 66% คอนโดมิเนียม 21,000 หน่วย ขายได้ 70%

ขณะที่หัวหิน ชะอำ ปราณบุรี มีหน่วยเปิดขายปีที่แล้วประมาณ 19,650 หน่วย แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 4,750 หน่วย ขายได้ 54% และคอนโดมิเนียม 14,900 หน่วย ขายได้ 54%

"มีศักดิ์ ชุณหรักษ์โชติ" กรรมการผู้จัดการบริษัทไลฟ์ แอนด์ ลิฟวิ่ง กล่าวว่า แม้จะมีหน่วยเปิดขายสูงและมียอดขายที่ดี แต่การก่อสร้างจริงกลับมีความล่าช้า ส่งมอบลูกค้าไม่ได้ คล้ายกับเหตุการณ์ปี 2540 เนื่องจากเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรง

ด้าน "เครย์ตัน เวดย์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์มเมอร์โฮมส์ เรียล เอสเตท กล่าวว่า ปัจจุบันพบว่ามีการซื้ออสังหาฯที่พัทยาลอตใหญ่ 50-100 หน่วย ในราคาส่วนลด 20-30% จากลูกค้าองค์กรและนายหน้าเพื่อนำมาขายต่อ และเริ่มส่งสัญญาณว่าห้องชุดที่ซื้อเพื่อขายต่อเริ่มขายยาก เสี่ยงต่อการหั่นราคากันเอง ล่าสุดคอนโดมิเนียมมือสองเริ่มหั่นราคาลงสูงถึง 20%

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook