อภิสิทธิ์ ยอมรับวิกฤตศก.หนัก คลังวางกรอบกู้เงินกระตุ้นรอบ2

อภิสิทธิ์ ยอมรับวิกฤตศก.หนัก คลังวางกรอบกู้เงินกระตุ้นรอบ2

อภิสิทธิ์ ยอมรับวิกฤตศก.หนัก คลังวางกรอบกู้เงินกระตุ้นรอบ2
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อภิสิทธิ์ รับ ต้องกู้เงินมากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม สั่งคลังทำกรอบเจรจากู้เงิน ก่อนเสนอครม.อีก 2 อาทิตย์ ยอมรับปัญหาวิกฤตศก.หนักมาก แต่พยายามทำให้ไตรมาส 4 เป็นบวก

(26ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการให้กระทรวงการคลังไปจัดทำแผน กรอบการกู้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสอง ว่า ได้มอบหมายกระทรวงการคลังเร่งทำกรอบในเรื่องนี้และให้เสนอมาพิจารณาในครม. ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพราะขณะนี้เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าภาคการค้าโลกหดตัวไปประมาณ ร้อยละ 30-40 ความจำเป็นที่เราต้องกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจึงมีอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จึงต้องมีการกู้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบ 2 หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องใช้ เพราะขณะนี้เราเห็นตัวเลขชัดเจนแล้ว ซึ่งตัวเลขของเราเบากว่าหลายๆประเทศ แต่ก็จะมีผลกระทบฃตามมาอีก อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลังจะเป็นผู้เสนอกรอบตัวเลขเงินกู้มาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเราต้องดูความเป็นจริง และดูโครงการที่จะนำมาใช้ด้วยเพราะถ้าเราไปกู้เงินมามากๆ แต่ไม่มีโครงการที่ดีรองรับก็ไม่ควรทำเพราะจะเป็นการสิ้นเปลือง ก่อหนี้ ดังนั้นเราต้องดูกรอบวงเงินที่เหมาะสม โดยมีโครงการที่ดีรองรับ

เมื่อ ถามว่าจะกู้เงินมาลงทุนในพื้นฐานระยะสั้นและระยะยาวด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีโครงการที่หลากหลาย แต่ส่วนหนึ่งจะมาเสริมในเรื่องของสถาบันการเงินของรัฐ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการเรียกรองนายกฯด้านเศรษฐกิจ รมว.คลัง ปลัดคลัง ผอ.สำนักงบฯ ธปท.และสภาพัฒนฯ เข้าหารือที่บ้านพิษณุโลกเมื่อช่วงเช้าว่า มาไล่ดูตัวเลขให้ละเอียดมากขึ้นว่าตัวเลขไตรมาส 4 เป็นอย่างไร ตัวเลขที่เราพอมองเห็นตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.พ.เป็นอย่างไร รวมถึงมาตรการของรัฐบาลที่จะส่งผลได้นั้นกรอบการใช้เงินต้องเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า ประเมินว่าการแก้ปัญหายังเดินหน้าตามเป้าที่รัฐบาลวางไว้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวยอมรับว่าสถานการณ์หนักขึ้น เพราะตัวเลขเดือนม.ค.-ก.พ.ของหลายประเทศหนักมาก ซึ่งในส่วนของเราเป้าหมายในเชิงกรอบเวลาก็เหมือนเดิม คือต้องพยายามหยุดยั้งให้ปัญหาเบาลงในไตรมาสที่ 2 หยุดยั้งให้ได้ในไตรมาสที่ 3 และให้เริ่มเป็นบวกอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 4

ผู้สื่อข่าวถามว่า วิกฤตเศรษฐกิจที่หนักขึ้นจะส่งผลอย่างไรต่อมาตรการที่รัฐบาลออกมา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีผลอะไร ยืนยันว่านโยบายรัฐบาลที่มุ่งให้มีการจ่ายเงินในระบบเศรษฐกิจโดยเร็วที่สุด น่าจะถูกต้องแล้ว เพราะหากรอไปนานกว่านี้และทรุดลงจะแก้ได้ยาก

เมื่อถามถึงกรณีที่กนง.ลดดอกเบี้ยลง 0.5% จะช่วยพยุงเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นสัญญาณและเป็นทิศทางที่สอดรับกับการบริหารเศรษฐกิจ แต่ปัญหาใหญ่ของระบบการเงินวันนี้อยู่ที่การปล่อยสินเชื่อมากกว่ามาตรการของ รัฐบาลในเรื่องของการให้บสย.ไปค้ำประกันสินเชื่อ ทั้งนี้คาดว่าสัปดาห์หน้าบสย.จะทำความตกลงกับธนาคารพาณิชย์ต่างๆได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าดอกเยี้ยที่ลดลงจะทำให้ธนาคารปล่อยกู้ลดลงหรือ ไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าปัญหาของธนาคารน่าจะอยู่ที่เรื่องประเมินความเสี่ยง ซึ่งโครงการค้ำประกันสินเชื่อจะเป็นตัวหลักมากกว่า เมื่อถามว่ามีการวิจารณ์ว่าการที่ลดดอกเบี้ยนี้ธนาคารพ่ณิชย์จะได้ประโยชน์ แต่คนฝากประจำจะเสีโอกาส นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราก็ดูว่ามีการลดดอกเบี้ยทั้งสองขา ขณะเดียวกันธนาคารต่างๆก็จะมีมาตรการเสริม เพื่อให้มีการปล่อยสินเชื่อให้ได้ และธปท.กลัวเงินเฟ้อจะติดลบซึ่งพยายามไม่ให้เป็นอย่างนั้น ส่วนเรื่องการคาดการณ์ของตัวเลขจีดีพี เรื่องการพยากรณ์หรือคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจให้หน่วยงานเขาทำการปกติ ซึ่งสภาพัฒน์ได้ปรับตัวเลขเขาไปแล้ว แต่ธปท.จะปรับอีกครั้งในเดือนเม.ย.นี้

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook