ไทยช็อปกระจายติดที่ 6 ของโลก เซ็นทรัลอ้อนหั่นภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย จูงใจเลิกหิ้วจากนอก/ดูดนักเที่ยวตปท

เผยผลสำรวจยุโรป คนไทยช็อปกระจายติดอันดับ 6 โลก เซ็นทรัลอ้อนรัฐลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย ได้ 2 เด้ง นักช็อปไทยเลิกหิ้วแบรนด์เนมจากต่างประเทศ

นักท่องเที่ยวนอกพุ่ง ทุ่มหมื่นล้านปั้นดีไซเนอร์คนไทย ใช้ชื่อ ′ศิวิไลซ์′ ปลายปีนี้เปิดตัว จับมือ ททท.โรดโชว์ เยอรมนี ญี่ปุ่น ชูจุดขายศูนย์การค้าลักชัวรี่แบรนด์โลก

นายชาติ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นทรัลเอ็มบาสซีโฮเต็ล จำกัด ผู้บริหารโครงการเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ เปิดเผยว่า อยากให้ภาครัฐพิจารณาปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยประเภทเสื้อผ้าและเครื่องหนัง

เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวดึงดูดกลุ่มที่นิยมซื้อสินค้าลักชัวรี่แบรนด์ในกลุ่มคนจีนและกลุ่มประเทศเอเชียอื่นๆ ซึ่งปีก่อนหน้ายอดขายสินค้ากลุ่มนี้ในไทยเติบโตได้ดีสุดในเอเชียแปซิฟิก โดยแบรนด์หลักที่ได้รับความนิยมสูง ได้แก่ หลุยส์วิตตอง, แอเมส, โรเล็กซ์, ชาแนล, กุชชี่ เป็นต้น รวมถึงจะจูงใจให้คนไทยที่นิยมซื้อสินค้าแบรนด์เนมมาจากต่างประเทศหันมาซื้อสินค้าแบรนด์เนมที่จำหน่ายในไทยมากขึ้น

นายชาติกล่าวว่า ปัจจุบันไทยคิดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยในอัตรา 30-40% ถือว่าสูงสุดในภูมิภาค จึงเสียเปรียบฮ่องกงและสิงคโปร์ ที่จัดเก็บเท่ากับ 0% และ 3% ตามลำดับ ขณะที่มาเลเซียได้ทยอยปรับลดภาษีลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 7-8 ปีที่่ผ่านมา สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาซื้อสินค้าในมาเลเซียได้เป็นอย่างดี

นายชาติกล่าวว่า ผลการสำรวจกลุ่มประเทศยุโรปเรื่องตัวเลขการขอคืนภาษีสินค้า พบว่านักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปช็อปปิ้งติดอันดับ 6 ของโลกและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จากยอดใช้จ่ายในต่างประเทศปี 2555 อยู่ที่ 6,160 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 20% จากปี 2554 และคาดว่าจะขยายถึง 8,000 ล้านบาทในปีนี้

หากภาครัฐลดภาษีนำเข้าจะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมให้หันมาจับจ่ายในประเทศได้อย่างน้อย 50% จากยอดรวม หรือสามารถดึงรายได้คืนสู่ประเทศกว่า 4,000 ล้านต่อปี

นายชาติกล่าวถึงโครงการเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ว่า วางคอนเซ็ปต์เป็นศูนย์การค้าจำหน่ายลักชัวรี่แบรนด์รับนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูง เน้นจำหน่ายแบรนด์เนมที่ยังไม่เคยเปิดตัวในเมืองไทย 30% ของสินค้าวางจำหน่าย และเปิดคอนเซ็ปต์ "ศิวิไลซ์" แบรนด์ไทยดีไซน์เฉพาะ ที่จะเปิดตัวปลายปีนี้ ใช้เงินลงทุน 10,000 ล้านบาท

วางเป้าหมายกลุ่มลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย 50% เท่ากัน นอกจากนี้ ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปโรดโชว์ชูจุดขายเรื่องความเป็นศูนย์การค้าที่เน้นลักชัวรี่แบรนด์ระดับโลก ในประเทศหลักอย่าง เยอรมนี ญี่ปุ่น เป็นต้น เพื่อสร้างการรับรู้ เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวในทวีปเอเชียที่กำลังซื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่องและเป็นกลุ่มที่นิยมซื้อสินค้าในกลุ่มลักชัวรี่แบรนด์ในเมืองไทย