ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.เคทีบี (ประเทศไทย)

ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.เคทีบี (ประเทศไทย)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

DAILY COMMENT   Stock of The Day (Trading Strategy) Top Pick    Target Price    Closing Price    % Upside PTTGC         87.48            69.5           25.9 CPALL           51             44.75           14 CPF           40.4            33.75          19.7   SET Index  1375.82 จุด  +2.44(+0.18%)   High 1375.82 +2.44(+0.18%)     Low  1369.02 -4.36(-0.32%)   มูลค่าการซื้อขาย          25,681 ล้านบาท Big Lot               323.85 ล้านบาท (1.26%) Foreign Board       1,157.26 ล้านบาท (4.51%)   Stock Market Indices ปิด             เปลี่ยนแปลง (%) DJIA                     13,139.08          -51.76(-0.39%) NASDAQ                    3,012.60          -8.41(-0.28%) FTSE                      5,954.18          +14.19(+0.24%) NIKKEI                    9,940.06          -99.27(-0.99%) HANG SENG                22,506.29          -153.49(-0.68%) SSE COMPOSITE            2,153.309          -15.044(-0.69%) KOSPI                     1,980.42          -19.08(-0.95%)   Eyeing Factors  : ภายในประเทศ (+) ติดตามการลงทุนของกองทุนในประเทศในสัปดาห์นี้-ต้นปีใหม่ โดยมีเม็ดเงินลงทุนจาก LTF และ RMF เป็นตัวหนุน (+) ติดตามตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน พ.ย.55 ...โพลล์รอยเตอร์พบว่า แนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบ y-o-y เนื่องจากผลกระทบของเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2554   ต่างประเทศ          (+/-) ยังให้ติดตามประเด็น fiscal cliff ของสหรัฐ โดยเฉพาะในช่วงปลายสัปดาห์นี้ (-) ดัชนีดาวโจนส์ลบ 51.76 จุดเมื่อวาน (24 ธ.ค.55) ...ยังกังวลประเด็น fiscal cliff (-) ราคาน้ำมันดิบ Nymex ลบ 5 เซนต์ ปิดที่ 88.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน Brent ลบ 17 เซนต์ ปิดที่ 108.80 ดอลลาร์/บาร์เรล (-) ราคาทองคำ COMEX ลบ 0.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,659.50 ดอลลาร์/ออนซ์ (-) ดัชนี BDI ลบ 1 จุด ปิดที่ 699 จุด   ตลาดหุ้นไทย เมื่อวาน : SET ผันผวนในกรอบที่คาดไว้ การเคลื่อนไหวของ SET Index เมื่อวาน (24 ธ.ค.55) มีลักษณะผันผวน (แกว่งตัวต่อเนื่อง) แต่ยังคงสอดคล้องกับกรอบที่เราคาดการณ์ไว้ โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวไม่กว้างนัก (เพียง 6-7 จุดเท่านั้น) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2555 ซึ่งยังต้องติดตามตัวแปรสำคัญจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นของ Fiscal Cliff ว่า จะได้ข้อสรุปในทางบวกหรือลบออกมาก่อนสิ้นปี 2555 จะส่งผลให้การปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยเป็นไปอย่างจำกัด รวมทั้งมีความเสี่ยงที่จะเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้นสลับออกมาด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การอ่อนตัวลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีแรงซื้อเป็นปัจจัยหนุนอยู่ด้วย ทั้งนี้ SET Index ปิดทำการที่ระดับสูงสุดของวันที่ระดับ 1,375.82 จุด (+0.18%) โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index อยู่ในช่วง 1,369.02-1,375.82 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบางลงเหลือเพียง 25,683 ล้านบาท โดยมีนักลงทุนรายย่อยเป็นผู้ขายสุทธิเพียงกลุ่มเดียวต่อเป็นวันที่สองเท่ากับ 720 ล้านบาท   วันนี้: คาด SET แกว่งตัวแบบ Sideways ...ติดตาม Fiscal Cliff ก่อนสิ้นปี เราเชื่อว่า ตลาดหุ้นทั่วโลก (รวมถึงตลาดหุ้นไทย) อยู่ในช่วงของการรอคอยความชัดเจนประเด็นการเจรจาเพื่อหาข้อสรุปการแก้ปัญหาหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ของสหรัฐ โดยเราคาดว่า ยังไม่มีข้อสรุปออกมาในวันนี้ เนื่องจากเป็นวันคริสต์มาส ซึ่งผู้มีบทบาทสำคัญในการเจรจาประเด็นดังกล่าวอยู่ในช่วงของการพักผ่อน ดังนั้น การคาดการณ์ของเราต่อความคืบหน้าในประเด็นดังกล่าวจะออกมาได้ในช่วงปลายสัปดาห์ (ก่อนสิ้นสุดปี 2555) ซึ่งถ้าไม่เกิดข้อสรุปที่เป็นบวก (เกี่ยวกับมาตรการปรับขึ้นภาษีและปรับลดงบรายจ่ายขนาด 6 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐ) จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐในทางลบในปี 2556 ซึ่งหมายความว่า โอกาสที่จะเห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐเป็นไปในระดับต่ำ (ในมุมมองของเรา)  อย่างไรก็ตาม แม้กรอบเวลาในการจะได้ข้อสรุปแคบลงตามลำดับ แต่เรายังคงให้น้ำหนักไปในทางบวกของผลการเจรจาขั้นสุดท้าย โดยยังมีความเชื่อมั่นว่า ผู้นำทางการเมืองของสหรัฐจะไม่นำเศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ความเสี่ยงอีกครั้ง ส่วนมุมมองต่อ SET Index วันนี้ เราคาดว่า ยังมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวนระยะสั้น โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวแคบ ส่วนการอ่อนตัวจะยังได้แรงหนุนทางบวกจากแรงซื้อของกองทุน LTF และ RMF ทั้งนี้เราให้กรอบการเคลื่อนไหวในช่วง 1,370-1,380 จุด (อาจ +/- จากกรอบที่เราให้ไว้เล็กน้อย)   กลยุทธ์การลงทุน: นักเก็งกำไร แนะนำ “ขึ้นขาย-ลงซื้อ” โดยยึดกรอบ SET Index รายวันที่ให้ไว้ (ไม่เล่น หาก SET หลุดกรอบล่าง) ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ยังคงให้ทยอยซื้อหุ้นปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เมื่อหุ้นเป้าหมายมีราคาอ่อนตัว ส่วนหุ้นพื้นฐานดี ต้นทุนต่ำ ยังแนะนำถือต่อไป   หุ้นเด่นวันนี้: แนะนำซื้อเก็งกำไร OFM เราเห็นว่า ราคาหุ้น OFM ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้น โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญจากข่าวบวกที่ว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับหุ้น OFM เข้าซื้อขายในกลุ่มพาณิชย์ (Commerce Sector) ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (26 ธ.ค.55) โดยย้ายจากตลาด MAI หลังการควบรวมกับออฟฟิศ ดีโป และ B2S ทำให้ Market Cap. อยู่ที่ระดับ 1 หมื่นล้านบาท เราให้ราคาเป้าหมายโดยอิงแนวต้านเดิมที่ระดับ 60 บาท (*ในบทวิเคราะห์ฉบับนี้ หมายถึง ตัวเลขอ้างอิงจาก SAA Consensus หรือบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ที่ปรากฏใน NEWSCenter หรือ Bloomberg)   ปริญทร์  กิจจาทรพิทักษ์: Parin Kitchatornpitak เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 017611 Tel: 02-6481120/Email: parin.k@ktbst.co.th   News Release   KMC เพิ่มทุนใหญ่ 9 หมื่นล้านลดทุนล้างขาดทุนหุ้นดิ่ง 20% รับระดมทุนบ่อย -/+          นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษดามหานครหรือ KMC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีการอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 5.2 หมื่นล้านบาท เป็นประมาณ 9 หมื่นล้านบาท และปรับโครงสร้างเงินทุน โดยการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทจากเดิมหุ้นละ 10 บาทเป็นหุ้นละ 20 บาท เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ ซื้อที่ดินมาเพื่อพัฒนาต่อ และซื้อโครงการที่สร้างเสร็จแล้วมาขาย เพื่อให้บริษัทมีรายได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่อไป (โพสต์ทูเดย์)   EARTH เพิ่มทุนแลกเหมืองถ่านหิน 40 ล้านตัน-3.6 พันล้านดึงจีนสร้างโรงไฟฟ้าในเหมือง +          นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม3,027.61 ล้านบาท เป็น 4,500 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่จำนวน 1,472.38 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม 1,472.38 ล้านบาท (โพสต์ทูเดย์)   VTE ทุ่ม 600 ล้าน. ซื้อ SMI อินโดฯ รุกตัวแทนขายถ่านหินเล็งธุรกิจพลังงาน +          วินเทจ วิศวกรรม ซื้อหุ้น PT Sunhub Mining International จากผู้ถือหุ้นเดิม ราคารวมทั้งสิ้น 599,965,860 บาท แบ่งชำระด้วยเงินสดที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 278,065,860 บาท และแลกหุ้น อัตราส่วน 7,851.63 หุ้นใหม่ของ VTE ต่อ 1 หุ้นของ SMI หรือราคาเสนอขายหุ้นหุ้นละ 5.55 บาท หวังรายได้เสริมจากการขายถ่านหินและขยายสู่ธุรกิจพลังงาน เตรียมขอผู้ถือหุ้น 8 มีนาคม 2556 (ASTVผู้จัดการรายวัน)   ไทยออยล์ส่งสัญญาณปีหน้าสดใส +          TOP ชี้อุตสาหกรรมน้ำมัน-ปิโตรเคมีปีหน้ายังขาขึ้น คาดราคาน้ำมันเกิน 100 เหรียญสหรัฐ มุ่งกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงควบคู่อัพเกรดสินค้ากลางน้ำ-ปลายน้ำ (ข่าวหุ้น)   \"วิชัย ทองแตง\" โดดซื้อหุ้นTH 60 ล.หลังจัดสรรเพิ่มทุนขายให้ PP 8 ราย +          บอร์ดตงฮั้วฯ เผยหุ้นขายหุ้นเพิ่มทุนให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง 8 รายรวม 250 ล้านหุ้น งานนี้ได้ \"วิชัย ทองแตง\" เข้ามาร่วมถือลงทุน 60 ล้านหุ้น ผู้บริหาร TH ชี้ได้รับความเชื่อมั่นและมองแนวโน้มอนาคตมีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก หลังปรับนโยบายการบริหารพร้อมสยายปีกลงทุนธุรกิจใหม่ๆ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทในเวลาอันสั้นและขยายตัวได้อย่างโดดเด่นด้วยพื้นฐานแข็งแกร่ง (ASTVผู้จัดการรายวัน-จันทร์)   CK กำไรพิเศษ 2.3 พันล. ขายหุ้น TTW บุ๊ค Q1 ปี56 +          “ช.การช่าง” จ่อบันทึกกำไรพิเศษ 2,300 ล้านบาทในงบไตรมาส 1/56 ดันกำไรสุทธิโตก้าวกระโดด จากการขายหุ้น TTW จำนวน 438.9 ล้านหุ้น ให้กับทางด่วนกรุงเทพ ในราคาหุ้นละ 7.55 บาท สูงกว่าราคาต้นทุนที่ 2.11 บาท/หุ้น (ข่าวหุ้น)   MODERN ลุ้น Q4 กำไร 130ล้าน ปรับมูลค่าหุ้นเป็น 8.20บาท หลังถือหุ้น IHL เพิ่ม +          \"MODERN\" ไตรมาส 4/55 มีแววผลประกอบดีที่สุดของปีนี้ คาดกำไร 131 ล้านบาท ตามการส่งมอบสินค้า พร้อมปรับเพิ่มมูลค่าหุ้นเป็น 8.20 บาท/หุ้น หลังซื้อ IHL เพิ่มอีก 7 ล้านหุ้น (ข่าวหุ้น)   BGH ลั่นปี 58 มีรพ.50 แห่ง หนุนมาร์เก็ตแชร์สูสี IHH +          BGH ตั้งเป้าขยายโรงพยาบาลครบ 50 แห่งภายในปี 2558 รองรับลูกค้าทะลักหลังเปิด AEC พร้อมผลักดันกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพมีขนาดใหญ่และมาร์เก็ตแชร์ใกล้เคียงเบอร์หนึ่งอย่างกลุ่ม IHH ในตลาดอาเซียน (ข่าวหุ้น)   AH บุกตลาดอินโด-อินเดีย ฟันรายได้ 50%-ปันผลงาม +          AH ปักธงปี 2556 ก้าวกระโดด บุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบ เน้นอินโดนีเซีย-อินเดีย หลังกำลังซื้อสูง แย้มแผนหารือพันธมิตรตั้งบริษัทร่วมทุน ด้านงบ Q4/2555 สูงปรี๊ด จากไตรมาสก่อนคว้ากำไร 168.20 ล้านบาท ชี้ออเดอร์ล้นมือ ดันรายได้รวมทั้งปี 2555 ทะลุ 50% จับตาแจกปันผลหรูหรา (ทันหุ้น)   พรรณนภา  เขมะสุรัตน์     Tel 02 – 6481124 / Email: patra.p@ktbst.co.th   โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 25 ธ.ค. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook