นายกฯ ดึงเชื่อมั่นเอกชนไทยอังกฤษ ชูการเมืองศก.แกร่ง

นายกฯ ดึงเชื่อมั่นเอกชนไทยอังกฤษ ชูการเมืองศก.แกร่ง

นายกฯ ดึงเชื่อมั่นเอกชนไทยอังกฤษ ชูการเมืองศก.แกร่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “ 2013: The Year of Opportunity in Thailand” ในระหว่างร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนักธุรกิจสหราชอาณาจักร และนักธุรกิจไทยที่ร่วมคณะวันนี้ (13 พ.ย. 55) เวลา 12.30 น. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพประเทศไทย ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และศูนย์กลางการเชื่อมต่อในภูมิภาค นโยบายการส่งเสริมการลงทุน และแผนการลงทุนของรัฐบาลโดย นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะสร้างความมั่นคงทางการเมือง และพื้นฐานประชาธิปไตยที่เข้มแข็งต่อไป ความมั่นคงทางการเมืองเป็นฐานที่แข็งแกร่ง สำหรับการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน ภายใต้การนำของ นายกรัฐมนตรี รัฐบาลจะเดินหน้าส่งเสริมการปรองดองบนพื้นฐานนิติรัฐ และการเจรจาระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ข้อขัดแย้งทางการเมืองจะต้องแก้ปัญหาในรัฐสภา ไม่ใช่การประท้วงบนถนนและความรุนแรงทั้งนี้ จากการหารือกับ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะร่วมกันสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ใหม่ เสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ โดยการส่งเสริมการเติบโตและการจ้างงานร่วมกัน ความร่วมมือจะครอบคลุมทุกด้านทั้งเศรษฐกิจ การศึกษา การท่องเที่ยว และความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและสังคม ส่วน มูลค่าทางการค้าระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรที่สูงถึง 3.6 พันล้านปอนด์ ในปีที่ผ่านมา และอังกฤษถือเป็นผู้ลงทุนอันดับ 1 จากสหภาพยุโรปในไทย ในขณะที่การลงทุนของไทยในอังกฤษก็เติบโตสูงขึ้น การจัดทำ FTA Thai - Europe จะเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มและขยายการค้าและการลงทุน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเจรจาในต้นปีหน้า และภายใต้กรอบดำเนินการความร่วมมือยุทธศาสตร์ ไทยและสหราชอาณาจักรจะเป็นหุ้นส่วนการเติบและความมั่งคั่งระหว่างกัน นายกโชว์แผนพัฒนาปท.56ลุยสาธารณูปโภคนางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสุนทรพจน์ ระหว่างร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนักธุรกิจสหราชอาณาจักรและนักธุรกิจไทย โดยได้กล่าวเน้นถึงความสำคัญเร่งด่วนของประเทศไทยในปี 2556 โดยรัฐบาลไทย เตรียมลงทุนระบบสาธารณูปโภคและโครงการบริหารจัดการน้ำ ในปี 2556 ช่วยให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่ง และโลจิสติกส์ในภูมิภาคและสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคงในภูมิภาค ก่อนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทั้งนี้ การพัฒนาสาธารณูปโภค จำนวน 42 พันล้านปอนด์ กำหนดไว้ ในโครงการต่างๆ ตั้งแต่ ปี 2556 - 2559 รวมทั้ง รถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง ที่จะเชื่อมไทย จีน มาเลเซีย สิงคโปร์และเวียดนาม   นอกจากนี้ มีการขยายท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย และถนนที่เชื่อมต่อระหว่าง 2 ท่าเรือนี้ ออกสู่มหาสมุทรอินเดียได้นายกฯกล่าวด้วยว่า รัฐบาลเตรียมลงทุน 7.3 พันล้านปอนด์ สร้างระบบบริหารจัดการน้ำใหม่ภายใต้ระบบ Single Command ที่กำลังอยู่กระบวนการประมูลที่โปร่งใส คาดว่าเริ่มดำเนินการได้ระหว่าง ปี 2556 - 2559 พร้อมวางแผนส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารของโลกและช่วยบรรเทาในยามเกิดภัยภิบัติ ดังนั้น ปี 2556 จึงเป็นปีที่สำคัญของไทยที่จะนำวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติ สร้างความมั่นคงทางการเมืองและประชาธิปไตย การดำเนินการโครงการสาธารณูปโภค และเสริมสร้างศักยภาพการบริหารจัดการข้าว ซึ่งถือเป็นปีแห่งโอกาสของนักลงทุนสหราชอาณาจักร เพื่อสร้างความมั่งคั่งและการเติบโตร่วมกันด้วย ผู้แทนท่องเที่ยวอังกฤษเข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำผู้แทนท่องเที่ยว (Travel agent) แห่งสหราชอาณาจักร เข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทย และสหราชอาณาจักร โดย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความขอบคุณผู้แทนท่องเที่ยวแห่งสหราชอาณาจักร ที่คอยสนับสนุนและส่งเสริมนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักร ให้เดินทางมาท่องเที่ยวในไทย โดยรัฐบาลจะเร่งดำเนินการพัฒนสาธารณูปโภค และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกมากขึ้นในโอกาสนี้ ผู้แทนท่องเที่ยวฯ ได้ย้ำถึงศักยภาพการท่องเที่ยวของไทย ว่า ยังเป็นที่ดึงดูดของนักท่องเที่ยวอย่างกว้างขวาง จนมีการเดินทางในลักษณะเครื่องบินเหมาลำ หรือ Charter Flight ไปท่องเที่ยวไทยมากขึ้น พร้อมขอบคุณรัฐบาล และ นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสนใจและรับปากในการพัฒนาในเรื่องดังกล่าว นายกฯเยี่ยมชมระบบรถไฟความเร็วสูงอังกฤษนางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมระบบรถไฟความเร็วสูง ที่ สถานี St.Pancras เพื่อศึกษาดูงานการบริหารระบบรถไฟความเร็วสูงแบบบูรณาการ ร่วมกับระบบขนส่งมวลชนอื่น ที่เชื่อมโยงเส้นทางในประเทศ และเมืองสำคัญในภูมิภาคยุโรป เพื่อนำข้อมูลไปส่งเสริมการสร้างระบบขนส่งมวลชนในประเทศไทย และเชื่อมโยงโครงข่ายเส้นทางคมนาคมทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน ภายใต้แนวคิด Connectivityโดย นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังบรรยายสรุปประวัติการรถไฟสหราชอาณาจักร และการบริหารงานระบบขนส่งมวลชน พร้อมได้ทดลองนั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูง และเยี่ยมชมสนามกีฬา Olympic Stadium สถานที่ใช้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก London Games 2012 อีกด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook