ใจเย็นก่อน! ระเบิดกรุงไม่ใช่เหตุหลักของหุ้นร่วงของเช้าวันนี้

ใจเย็นก่อน! ระเบิดกรุงไม่ใช่เหตุหลักของหุ้นร่วงของเช้าวันนี้

ใจเย็นก่อน! ระเบิดกรุงไม่ใช่เหตุหลักของหุ้นร่วงของเช้าวันนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ ระบุว่า เหตุระเบิดป่วนเมืองไม่ใช่ตัวการที่ทำให้หุ้นร่วง พร้อมเผยสาเหตุที่หุ้นไทยตกเกิดจาก สหรัฐฯ เล็งประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในวันที่ 1 ก.ย.นี้

ข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก ธนาคารทิสโก้ (Tisco Mastey) รายงานถึงกรณีที่มีข่าววางระเบิดหลายจุดในกรุงเทพฯ จนหลายฝ่ายเกิดความวิตกกังวลถึงภาคการลงทุนและตลาดหุ้นของไทยในวันนี้นั้น

ในมุมมองนายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) บอกว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเพียง 1 ปัจจัย ที่เข้ามากระทบต่อการลงทุนชั่วคราวเท่านั้น หากมองภาพรวมของการลงทุนวันนี้จะเห็นว่า ตลาดหุ้นในเอเชียหลายแห่งปรับตัวลดลงมากว่าตลาดหุ้นไทย เช่น ตลาดหุ้นจีนลดลง 2.6% เซี่ยงไฮ้ลดลง 1.7% ไต้หวันลดลงเกือบ 2% ขณะที่ตลาดหุ้นไทย ลดลงกว่า 1% (ข้อมูล ณ เวลา 10.37น.)

ส่วนประเด็นที่มีผลต่อการลงทุนอย่างมากในตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ก็คือ สหรัฐฯประกาศว่าเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่าราว 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ 10% ในวันที่ 1 ก.ย. นี้ ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจที่สำคัญ เพราะสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าบริโภค ทำให้ตลาดหุ้นตอบรับในเชิงลบ

“เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เกิดขึ้น เราอาจจะต้องติดตามต่อไปว่า เหตุการณ์นี้นำไปสู่การเรื่องความมั่นคงหรือเปล่า แต่ส่วนตัวมองว่า หลักๆแล้วน้ำหนักเรื่องของสงครามการค้า ที่นำไปสู่การขึ้นภาษีเป็นเรื่องที่กระทบมากกว่า และกระทบในตลาดหุ้นหลายแห่งด้วย” นายคมศรกล่าว

ทั้งนี้ นายคมศร แนะนำให้นักลงทุนอย่าตื่นตระหนกต่อประเด็นในประเทศที่เกิดขึ้น แต่ควรบริหารพอร์ตให้สอดคล้องกับความไม่แน่นอนต่อปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยแนะนำ ให้การกระจายความเสี่ยง ดังนี้

  1. ตลาดหุ้น ยังแนะนำให้เน้นลงทุนใน Sector Health Care เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีลักษณะ Defensive กำไรมีความผันผวนตามวัฏจักรเศรษฐกิจน้อย และมีศักยภาพการเติบโตของกำไรสูงในระยะยาว
  2. กลุ่ม REITs ทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งให้ผลตอบแทนดีในช่วงดอกเบี้ยขาลง Dividend Yield ยังสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างเยอะ และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ
  3. ตราสารหนี้ แนะนำเฉพาะตราสารหนี้คุณภาพดี Investment Grade เท่านั้น หลีกเลี่ยงตราสารหนี้ความเสี่ยงสูงจำพวก Junk Bond หรือ High Yield Bond
  4. ทองคำ จะให้ผลตอบแทนดีเวลาความไม่แน่นอนสูง ควรมีติดพอร์ตไว้เพื่อกระจายความเสี่ยง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook