ขยับภาษียาเส้นซองละ 2 บาท หลังสิงห์อมควันหันมาสูบแทนบุหรี่มวน

ขยับภาษียาเส้นซองละ 2 บาท หลังสิงห์อมควันหันมาสูบแทนบุหรี่มวน

ขยับภาษียาเส้นซองละ 2 บาท หลังสิงห์อมควันหันมาสูบแทนบุหรี่มวน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี กรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุม ครม.เห็นชอบปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตยาเส้น มีผลหลังเที่ยงคืน 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยปรับเพิ่มภาษีตามปริมาณเพิ่มเป็น 0.1 บาท/กรัม จากเดิมจัดเก็บ 5 สตางค์/กรัม เช่น ยาเส้นขายปลีกราคา 20-30 บาทต่อซอง ภาษีจาก 10 บาท เพิ่มเป็น 13 บาทสำหรับซองใหญ่ ส่วนซองเล็กเพิ่ม 5 บาทเพิ่มเป็น 7 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2 บาทต่อซอง และภาษียาเส้นไม่ได้ปรับเพิ่มมาเป็นเวลานานถึง 40 ปี ส่งผลกระทบต่อโรงงานยาสูบปรุงเส้นขนาดใหญ่ แต่สำหรับโรงงานหั่นยาเส้นของชาวบ้านเพื่อส่งให้กับการยาสูบ จะได้รับการยกเว้นภาษี คาดว่ามีรายได้เพิ่มจาการขยับเพิ่มภาษี 2,000 ล้านบาท จากยอดภาษีสรรพสามิตยาสูบทั้งระบบโดยรวมประมาณ 60,000 ล้านบาทต่อปี

หลังจาก ครม. ปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตยาสูบ เมื่อเดือนตุลาคม 2560 ส่งผลให้ราคาขายปลีกบุหรี่ซิกาแรตสูงขึ้น ทำให้สูบบุหรี่มวนลดลง โดยหันสูบยาเส้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้รายได้ภาษียาเส้นเพิ่มจาก 12 ล้านกิโลกรัม เพิ่มเป็น 26 ล้านกิโลกรัม หรือเพิ่ม 2 เท่าตัว ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบอุตสาหกรรม ทั้งผู้ผลิตในประเทศและผู้นำเข้า ตลอดจนเกษตรกร ผู้ปลูกใบยาสูบ อีกทั้งยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภคยาเส้นที่มีการบริโภคเพิ่มขึ้น เนื่องจากยาเส้นดังกล่าวนำไปทำเป็นบุหรี่มวนเองโดยไม่มีก้นกรอง ทำให้ผู้บริโภครับสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น

ที่ประชุม ครม. เมื่อ 7 พ.ค.ที่ผ่านมาจึงเห็นชอบขยายเวลาจัดเก็บภาษีตามมูลค่าร้อยละ 20 และร้อยละ 40 ออกไปอีก 1 ปี เพื่อการปรับตัวและการพัฒนาในด้านต่าง ๆ อาทิ การหาพืชทดแทน การหาช่องทางการตลาดที่เหมาะสมเพื่อการผลิตและส่งออก และยังลดช่องว่างของราคาขายปลีกบุหรี่ซิกาแรตและราคายาเส้นให้มีความใกล้เคียงกันมากขึ้น จากเดิมประมาณกว่า 300 เท่า เหลือประมาณ 17 เท่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook