อลงกรณ์ ลุยต่อ จ่อยื่นบัญชีดำ จนท.เอี่ยวละเมิดลิขสิทธิ์

อลงกรณ์ ลุยต่อ จ่อยื่นบัญชีดำ จนท.เอี่ยวละเมิดลิขสิทธิ์

อลงกรณ์ ลุยต่อ จ่อยื่นบัญชีดำ จนท.เอี่ยวละเมิดลิขสิทธิ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์​ อลงกรณ์ พลบุตร เผย เตรียมจะยื่นรายชื่อผู้ที่อยู่ในบัญชีดำชุดที่สองในเร็วๆ นี้ พร้อมยืนยันให้ความเป็นธรรมผู้ค้าที่ขายสินค้าถูกกฎหมายและได้รับผลกระทบจากการจับกุมเต็มที่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (12 พ.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณากรอบข้อตกลงต่างๆ จำนวน 6 ฉบับ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ขอหารือที่ประชุมถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เข้าจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่ย่านพัฒน์พงษ์ เขตบางรัก กทม.ว่า เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ไม่แยกแยะระหว่างพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าถูกกฎหมายกับพ่อค้าที่ค้าของผิดกฎหมายจนทำให้เกิดการปะทะกัน

ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ชี้แจงพร้อมชูแผ่นซีดีในมือว่า รมว.พาณิชย์มีอำนาจออกประกาศแต่งตั้งเจ้าพนักงานจับกุมผู้ค้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ให้ทราบก่อน ซึ่งเจ้าพนักงานจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมีอำนาจจับกุมได้โดยตรง ส่วนกรณีที่เป็นข่าวเมื่อไม่กี่วันมานี้จะมีการกระทำใดๆที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ ตนได้ตรวจสอบพบว่ามีภาพบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวตั้งแต่ต้นอยู่ในซีดีแล้ว จะบ่งชี้ว่าการจับกุมในช่วงแรกเป็นไปด้วยความละมุนละม่อม เจ้าหน้าที่ได้แสดงตนและชูบัตรที่ได้รับการแต่งตั้งให้พ่อค้าแม่ค้าได้รับทราบ ซึ่งเจ้าของร้านบางรายก็ให้ความร่วมมือด้วยดีและช่วยเก็บของกลางให้เข้าหน้าที่ แต่ระหว่างที่จะเคลื่อนย้ายของกลางไปยังโรงแรมมณเฑียร ได้ปิดไฟในซอยและปิดล้อมเจ้าหน้าที่ ซึ่งภาพที่เป็นข่าวออกตามสาธารณะนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนช่วงปลายเท่านั้น

นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ในพื้นที่ดังกล่าวมีการขายของเถื่อนของละเมิดลิขสิทธิ์มาเป็นเวลานานพอสมควร พื้นที่ดังกล่าวมีกลุ่มมาเฟียทั้งมีสีและไม่มีสีเข้าไปเกี่ยวข้อง มีการแย่งชิงผู้ต้องหาและของกลางต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ จนมีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น ซึ่งตนจะให้ความเป็นธรรมกับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าถูกกฎหมายและได้รับผลกระทบจากการจับกุมครั้งนี้อย่างเต็มที่ หากเจ้าหน้าที่รายใดกระทำการเกินกว่าเหตุจะต้องถูกลงโทษ รวมทั้งสิ่งที่จะทำต่อไปคือการทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ไม่ให้เรียกรับผลประโยชน์ ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมารัฐบาลได้ชูเรื่องการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้เป็นวาระแห่งชาติ แหล่งไหนที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปแตะต้อง ตนก็ได้ไปจับกุมแล้ว ในฐานะที่ตนดูแลเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาได้เคยแจ้งรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆจำนวน 41คนต่อคณะรัฐมนตรี และต่อจเรตำรวจไปแล้วนั้น ทราบว่าขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการคืบหน้าไปกว่า80-90%แล้ว และตนเตรียมจะยื่นรายชื่อผู้ที่อยู่ในบัญชีดำชุดที่สองในเร็วๆนี้ด้วย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook