แพร-อมตา จิตตะเสนีย์ ไอดอลเมคอัพบนออนไลน์

แพร-อมตา จิตตะเสนีย์ หรือแพรี่พาย ชื่อที่ใครๆ บนโลกออนไลน์เริ่มรู้จักเธอในฐานะสาวน้อยหน้าตาสดใสน่ารักคนหนึ่งที่มีใจรักด้านการแต่งหน้า

และมีการนำเสนอการแต่งหน้าในแบบที่แตกต่างจากเหล่า Influencer คนอื่นๆ จนทำให้กลายเป็นผู้นำเทรนด์การแต่งหน้าในสังคมไทยปัจจุบันไปแล้ว

ถึงแม้เธอจะเป็นลูกหลานในวงสังคมไฮโซก็ตาม แต่เธอไม่ได้มองว่านั้นเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอเท่าไร เธอบอกกับเราว่าเธอเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ชื่นชอบการแต่งหน้าและอยากแบ่งปันให้กับสาวๆ ที่ชอบการแต่งหน้าเหมือนเธอ

แพร เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากสาวๆ ชาวออนไลน์จากการที่ได้แบ่งปันไอเดียและเทคนิคการแต่งหน้าในสไตล์ต่างๆ บนเว็บไซต์ความงาม และมาต่อยอดด้วยการเปิดแฟนเพจเป็นของตัวเอง ซึ่งในฐานะกูรูเมคอัพแบบฉบับของแพรี่พายนั้น จะเน้นเรื่องการแชร์ความรู้และเทคนิคการแต่งหน้าที่เธอถนัดมากกว่า

ทำความรู้จักกับแพรี่พาย

แพร เล่าว่า ถูกส่งไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่อายุ 15 ปี และตอนนี้เรียนจบปริญญาโท จึงคิดกลับมาเริ่มทำงานที่ตัวเองชอบในเมืองไทย ระหว่างเรียนที่อังกฤษนั้นได้พบว่า

ตัวเองชอบเรื่องเกี่ยวกับความสวยความงามตอนอายุ 17 ปี จึงเริ่มที่จะหัดแต่งหน้าตัวเองและเริ่มหลงรักการแต่งหน้าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งถือว่าเริ่มช้ากว่าคนอื่น

เพราะเพื่อนต่างชาติเขาเริ่มแต่งหน้ากันตั้งแต่เข้าเรียนมัธยมแล้ว แต่ด้วยการที่ชอบเรียนด้านศิลปะ แพรจึงเลือกเรียนสาขาออกแบบการแสดงที่ University of Arts, London. Central Saint Martins

ซึ่งเรียนเกี่ยวกับการออกแบบการแสดง ออกแบบฉาก เสื้อผ้า และคาแร็กเตอร์ของตัวละคร

ส่วนชื่อ "แพรี่พาย" นั้น แพร เล่าว่า เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันในประเทศอังกฤษเป็นคนตั้งให้ เพราะมีเพื่อนชื่อแพรตอนนั้นหลายคน ซึ่งครั้งแรกที่ได้ฟังรู้สึกชอบทันที และกลายมาเป็นชื่อแบรนด์ของตัวเองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เริ่มต้นเป็นกูรูเมคอัพอาร์ติสต์

จากความชื่นชอบในเรื่องของการแต่งหน้า และเพื่อนที่เป็นช่างภาพและแฟชั่นดีไซเนอร์เห็นว่ามีความสามารถเรื่องแต่งหน้า จึงชวนเข้าร่วมทีม เพราะกำลังขาดช่างแต่งหน้า

จึงเป็นจุดเริ่มต้นงานด้านเมคอัพอาร์ติสต์อย่างจริงจัง ซึ่งการทำงานครั้งแรกในการแต่งหน้าให้กับเหล่านางแบบ รู้สึกว่าการแต่งหน้าก็เป็นการสร้างผลงานศิลปะรูปแบบหนึ่ง แต่ไม่ได้ลงบนกระดาษหรือแผ่นผ้า แต่ลงบนใบหน้าของคน มันมีมูฟเมนต์ทำให้รู้สึกสนุกสนานในการสร้างงานศิลปะมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ การทำงานร่วมกับผู้อื่นทำให้เปิดโลกกว้างและสนุกกับงานศิลปะไปด้วย เพราะเราสามารถเนรมิตรคนๆ หนึ่งให้บุคลิกเปลี่ยนไปตามแบบโจทย์ต่างๆ ซึ่งไม่ได้เน้นเฉพาะการแต่งหน้าแบบสวยงามเท่านั้น แต่การแต่งหน้ากลายเป็นการสร้างงานศิลปะบนใบหน้าในแบบที่เราต้องการสื่อให้คนได้เห็น

แพร เล่าต่อว่า จากการที่เรียนคณะออกแบบการแสดง จะมีคอร์สเรียนเรื่องการแต่งหน้าด้วย ทำให้มีโอกาสได้นำความรู้เรื่องการแต่งหน้าผสมผสานกับการแสดง เช่น แพร ได้รับโจทย์ในคอร์สออกแบบการแสดงคือ ผู้หญิงคนหนึ่งมี 2 ด้าน

แพร จึงแต่งหน้านักแสดงโดยใช้เทคนิคการแต่งหน้า คือเมื่อฉายไฟปกติสีหน้าจะปรากฏเป็นอีกภาพหนึ่ง แต่เมื่อปิดไฟอีกสีส่องไปที่ใบหน้าจะปรากฏสีหน้าอีกลักษณะหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งเรียกว่าเป็นการแต่งหน้าแบบ Expression

Idol ความงามบนโลกออนไลน์

ด้วยความชอบส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องของความสวยความงาม จึงมีความคิดว่าอยากแชร์ประสบการณ์ให้กับคนอื่นๆ ที่ชอบเหมือนเรา เผื่อจะสร้างแรงบันดาลใจให้เขาลุกขึ้นมากล้าที่จะลองแต่งหน้าในแบบใหม่ๆ ดูบ้าง

ดังนั้นจึงเริ่มคิดทำคลิปวิดีโอสอนแต่งหน้าขึ้น ซึ่งตนได้แรงบันดาลใจจากการที่ชื่นชอบดูคลิปวิดีโอสอนแต่งหน้าใน YouTube หรือช่วงงานแฟชั่นวีคจะชอบดูสไตล์การแต่งหน้าของรันเวย์ต่างๆ รวมถึงระหว่างเรียนที่ได้เรียนรู้

การแต่งหน้าหลายๆ แบบในการแสดง จึงได้นำการแต่งหน้าและเทคนิคต่างๆ มานำเสนอผ่านคลิปวิดีโอในแบบของแพรี่พาย

จุดเริ่มต้นของคลิปวิดีโอสอนแต่งหน้าในช่วงแรกเกิดจากระหว่างเรียนที่อังกฤษ ในช่วงวันว่างจึงลองแต่งหน้าเล่นในห้องและอัดคลิปวิดีโอโพสต์ลงใน YouTube ปรากฏว่ามีคนเข้ามาดูคลิปวิดีโอเกิดชอบและชมการแต่งหน้าของเรา

จึงรู้สึกดีและเห็นว่ามีคนสนใจในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ ซึ่งจากกระแสตอบรับจากเพื่อนๆ ออนไลน์ค่อนข้างดี ทำให้เกิดแรงผลักดันให้คิดต่อยอดในการสร้างคลิปวิดีโอสอนการแต่งหน้าแบบเป็นจริงเป็นจัง โดยเกิดเป็นโปรดักชั่นเฮ้าส์ในแบรนด์ของ Pearypie ขึ้น

 

นำเสนอการแต่งหน้าในแบบ Pearypie

แพร เล่าว่า คลิปวิดีโอสอนแต่งหน้าในแบบแพรี่พายนั้น จะไม่ใช่คลิปสอนแต่งหน้าที่ทุกคนคุ้นเคยกัน แต่จะเป็นการครีเอทคอนเทนต์ในรูปแบบของวิดีโอแฟชั่นเข้ามาผสมผสานด้วย

ซึ่งระหว่างการแต่งหน้าจะไม่มีการมาบอกถึงคุณสมบัติต่างๆ ของเครื่องสำอางแต่ละชนิด แต่จะสื่อสารออกมาด้วยภาพและมีซับไตเติ้ลประกอบเท่านั้น เพื่อบอกว่าเครื่องสำอางชิ้นนั้นคืออะไร แต่ต้องการให้คนที่เข้ามาดูรู้สึกสนุกและมั่นใจกับการแต่งหน้ามากขึ้น

รูปแบบคอนเทนต์ที่นำเสนอในคลิปวิดีโอของช่อง Pearypie นั้น แต่ละคลิปจะมีกิมมิคสอดแทรกตลอดเวลา บางคลิปมีทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังถึงขั้นตอนการแต่งหน้าหรือการทำงานเป็นเมคอัพอาร์ติสต์

รวมถึงการลงไปในน้ำกับหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอาง และการแต่งหน้าและออกไปเดินเล่นยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งการนำเสนอคลิปวิดีโอสอนแต่งหน้ารูปแบบนี้ จะเป็นการเปลี่ยนภาพของวงการบิวตี้เมืองไทย ที่ไม่ใช่แค่มานั่งตั้งกล้องและสอนแต่งหน้าให้ลุคส์หน้าคล้ายดาราหรือเหล่าเซเลบริตี้ รวมถึงการนั่งอธิบายตามลำดับขั้นตอนการแต่งหน้าแบบเดิมๆ

"เรามองกันว่าแฟชั่นวิดีโอเมืองไทยยังไม่เท่ห์เหมือนที่เมืองนอก เวลาคิดถึงการเสพคอนเทนต์ด้านแฟชั่น คนส่วนใหญ่จะคุ้นกับรูปแบบแมกกาซีนมากกว่าในรูปแบบวิดีโอ

ดังนั้นคนก็จะเข้าถึงยากหน่อย แต่คิดว่าถ้ามีออกมาเรื่อยๆ คนไทยจะเริ่มคุ้นและเข้าใจมากขึ้น นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่คิดว่าสร้างเป็นโปรดักชั่นเฮ้าส์นำเสนอผลงานวิดีโอแฟชั่นในรูปแบบของการแนะนำเรื่องการแต่งหน้า"

ความแตกต่างของสไตล์การแต่งหน้าของ แพร ที่นำมาเสนอหรือสร้างแรงบันดาลใจนั้น คือการหยิบเอาสิ่งของที่มีอยู่แล้วมาทำให้มันใช้ได้ เช่น ปากสีม่วง เป็นต้น

ที่คนทั่วไปมองว่ามันแรงไม่เหมาะกับการทาปากในชีวิตประจำวัน แต่ แพร จะบอกว่า เอามาทาได้นะ หรือนำกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ จากบนรันเวย์มาปรับให้เข้ากับชีวิตประจำวันของคนธรรมดาได้ ซึ่งจะใช้ตัวเราเป็นคนพรีเซ็นต์เทรนด์แต่งหน้าต่างๆ โดยการถ่ายภาพลงใน Instagram และ Facebook

 

Inspire ของใครหลายคน

แพร สร้างเพจหรือผลิตคลิปวิดีโอออกมา เพราะต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรู้สึกสนุกในชีวิตขึ้นบ้าง เพราะมองว่า หากสามารถสร้างแรงบันดาลใจในทุกเช้า

ให้กับผู้หญิงไทยรู้สึกสนุกกับการตื่นแต่เช้าเพื่อแต่งหน้าออกไปทำงาน เช่น การลองกรีดหรือทาสีเปลือกตาแบบที่แตกต่างไปจากเดิม หรือลองสีลิปสติกใหม่ๆ เพื่อเปลี่ยนลุคส์ และสร้างสีสันให้กับชีวิตเดิมๆ ที่ตื่นเช้ามาอาบน้ำ แต่งตัวแบบเดิม และออกไปทำงานกลับมาอาบน้ำนอน

"โดยส่วนตัวของ แพร จะรู้สึกสนุกทุกครั้งเมื่อนึกถึงเช้าอีกวันว่าจะทาปากสีอะไรดี จะเขียนตาแบบไหน นี่คือความสุขทุกวันของ แพร ถึงแม้คนอื่นจะมองเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ

แต่มันเป็นแรงผลักดันให้เรามีแรงจะทำอะไรในแต่ละวันด้วยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อเรามีความสุข มีประสบการณ์ดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิต จึงอยากแชร์ให้คนอื่นด้วย เผื่อจะไปสร้างสีสันหรือแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงที่ต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ลองทำในสิ่งใหม่ๆ บ้าง"


10 ไอเท็มชิ้นโปรดของ แพร อมตา