รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรุปภาพตลาด   “Helicopter BEN”: ซื้อเก็งกำไรรายตัว   รายวัน คาด Consolidated (พักฐาน) แนวรับ 1,206/1,200 จุด แนวต้าน 1,220 จุด อิงข่าวลบเศรษฐกิจโลก 1) IMF ลดคาดการณ์ GDP โลกปี 2012-13F ลงเหลือ 3.5% -3.9% จาก 3.6%-4.1% ตามลำดับ 2) ตัวเลขค้าปลีกสหรัฐฯแย่กว่าคาด 3) มูดี้สหั่นเครดิตแบงก์อิตาลีตามเครดิตประเทศที่ปรับลดไปก่อนหน้า   อย่างไรก็ตามเราคาดลบต่อตลาดหุ้นไทยจำกัด เพราะกลุ่มที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก (พลังงาน ปิโตรฯ ฯลฯ) เป็นกลุ่มที่รับรู้ข่าวดังกล่าวไปมากและคาดมีแรงขายจำกัด ขณะที่ตลาดหุ้นไทยจะให้ความสำคัญกับแนวโน้มผลการดำเนินงาน บจ.ไทย และหุ้นที่อิงการบริโภคในประเทศยังคงนำตลาด กลุ่มเด่นวันนี้ คาดได้แก่ แบงก์-เช่าซื้อ, หุ้นขนาดกลางเล็กที่มีข่าว, หุ้นที่คาดกำไรดี-ปันผลดี   ส่วนปัจจัยหนุนการรีบาวด์ของตลาดหุ้นไทยตามแนวรับ จะมาจาก การฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลก ตามแรงซื้อเก็งกำไร 1) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในวันพุธ-สภาฯแห่งชาติจีนจะจัดประชุมนโยบายเศรษฐกิจสำหรับครึ่งปีหลัง 2) ถ้อยแถลงประธานเฟดวันนี้ พรุ่งนี้ 3) แนวทางการแก้หนี้แบงก์ยุโรป (สเปน) วัพฤหัส-ศุกร์ และ 4) ผลการดำเนินงาน บจ.ไทย MS คาด Earning revision ดีกว่าภูมิภาค (มีโอกาสรายงานกำไรดีกว่าคาด)   หุ้นเด่น: ซื้อเก็งกำไร (โดยมี Stop loss ที่แนวรับ) GLOBAL (แนวรับ 12.2 บ.ต้าน ลุ้นเบรก 12.5 บ. เป้าแนวต้าน 13.7 บ.) UMI (รับ 3.86 บ. แนวต้าน 4.20+บ.) TISCO (laggard กลุ่มฯ รับ 39 บ.ต้าน 40.75 บ.) หุ้นมีข่าว PTTEP มีโอกาสสูงได้ดีล COVE หลัง Shell ถอนตัว คาดบวกจำกัด (เป้าระยะสั้นแนวต้าน 175.5 บ. รับ 170 บ.) เพราะมีแนวโน้มเพิ่มทุนสูงในปีหน้าจาก Capex ที่เพิ่มขึ้น (ดูรายงานวันนี้)   ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดฯ   (+) สหรัฐฯ-ประธานเฟด แถลงนโยบายครึ่งปีต่อสภาครองเกรส (Testimonial) วันนี้ และ รายงานเฟดเบจบุ๊ก วันพุธ ทั้งนี้คาดไม่มีประเด็นลบใหม่ต่อตลาด (คาดคงท่าที ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ QE3)   (+) ยุโรป-วันนี้แถลงการณ์คณะกรรมการ ECB และวันพฤหัสจับตาสุนทรพจน์ นายกเยอรมนี ต่อประเด็นการโหวตให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินในสเปนที่ประสบปัญหาหนี้ และวันศุกร์ อียูกรุ๊ปอนุมัติแผนแก้หนี้แบงก์สเปน   (+) วันพุธนี้ (เช้า) สภาฯแห่งชาติจีน (State council) จะประชุมนโยบายเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง เราคาดตลาดหุ้นเอเชียจะมีแรงซื้อเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน อิงภาวะเศรษฐกิจจีน 1H12 ที่เติบโตเพียง +7.8% ใกล้เคียงเป้าหมายที่รัฐบาลคาด 7.5% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่มีความเสี่ยงสูงต่อการรองรับภาวะถดถอยในยุโรป หากยังไม่มีมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศเพิ่มเติม   Investment theme: หุ้นที่มีกำไรรอบนี้ แนะนำ รอทยอยขายที่แนวต้านเป้าหมาย ส่วนการเก็งกำไรจากนี้ไป ควรมีจุดตัดขาดทุน 3-5%   Save haven: หุ้นมีปันผลระหว่างกาล 1H12F สูง INTUCH BECL ADVANC EGCO MAJOR TICON   Earning play: คาดกำไร 2Q12F โตเด่น (Preliminary) SAT STANLY CPALL CPN HEMRAJ SPALI QH BECL SORKON THCOM กลุ่มแบงก์-งบออกมาดีเป็นโอกาสในการขายทำกำไร / ส่วนหุ้นด้อย (กำไรแย่ลง) SCC   พลังงาน คาดรีบาวด์จากปัจจัยฤดูกาล แนะนำสะสม/เก็งกำไร PTT PTTGC ESSO TOP   วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336   ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด   ยอดค้าปลีกสหรัฐลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน   กระทรวงพาณิชย์สหรัฐแจ้งยอดตัวเลขค้าปลีกของสหรัฐเดือนมิ.ยผิดคาดปรับลง 0.5% (เทียบกับปรับตัวลง 0.2% ในเดือนพ.ค) และ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดโต 0.2% จากสำรวจของ Bloomberg โดยดัชนีฯมีการปรับลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน ส่งผลให้นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley, Goldman Sachs, และ Credit Suisse ได้พร้อมใจปรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 2 ลงจากเดิมที่คาดไว้ที่โต 2% เหลือ 1.6% เหตุผลที่ทำให้ตัวเลขยอดค้าปลีกลดลงเกิดจากอัตราการว่างงานที่ยังสูง (Bloomberg)   รัฐบาลจีนอาจใช้มาตรการสร้างรางรถไฟกระตุ้นเศรษฐกิจ   นายกรัฐมนตรี เวิ่น จินเป่า ของจีนอาจพิจารณาหยิบมาตรการลงทุนในโครงการรถไฟมากระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยรัฐบาลจีนได้เคยใช้มาตรการดังกล่าวมาแล้วในปี 2009 จากการเปิดเผยตัวเลขงบประมาณการลงทุนกับโครงการรถไฟ พบว่ารัฐบาลจีนได้ขยายงบประมาณเพิ่มเติมเป็น 4.48 แสนล้านหยวน หรือ 7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐจากรายงานในเดือนก.ค นั่นหมายถึงรัฐบาลจีนจะใช้จ่ายงบเพิ่มอีก 3 แสนล้านหยวนเทียบกับ 6 เดือนแรกของปีนี้ที่ใช้เงินลงทุนไปเพียง 1.48 แสนล้านหยวน ซึ่งย่อมหมายถึงตัวเลขเศรษฐกิจของจีนในอีก 6 เดือนหลังของปีอาจโตมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เดิม จากความเห็นของนักวิเคราะห์ (Bloomberg)   หัวหน้าฝ่ายลงทุนของ เจพี มอร์แกนชี้แจงตัวเลขขาดทุนเพิ่ม   หัวหน้าฝ่ายลงทุนของเจพี มอร์แกนเผยทางบริษัทได้มีการปรับตัวเลขผลขาดทุนจากพอร์ตลงทุนในอังกฤษ เนื่องจากพบว่า นักค้าตราสารอนุพันธ์ตราสารหนี้จงใจบันทึกผลขาดทุนต่ำกว่าความจริง ทั้งนี้บริษัทได้มีมาตรการให้นักค้าตราสารการเงินต้องมีการบันทึกผลกระทบขาดทุนกำไรทุกวัน พร้อมกับมีการตรวจสอบกระทบยอดการลงบัญชีจากสำนักงานใหญ่ในสหรัฐเพื่อควบคุมผลขาดทุน และ ความเสี่ยง บริษัทตัดสินใจปรับปรุงตัวเลขกำไรในไตรมาสแรก 459 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้บริษัทมียอดขาดทุนจากการค้าตราสารหนี้ และ อนุพันธ์เกี่ยวข้องอย่างน้อยกว่า 5.8 พันล้านเหรียญสหรัฐใน 6 เดือนแรกของปีนี้ (Bloomberg)   สนข.ชงแผนลงทุน 8 ปี มูลค่ารวม 1.9 ล้านล้านบาท   นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า จากที่กรณีกระทรวงการคลังเตรียมออก พ.ร.บ.กู้เงินฉบับใหม่วงเงิน 1.6 ล้านล้านบาท รวมแล้วไม่เกิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางอาเซียนนั้น สนข.ได้ส่งกรอบแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่งให้กระทรวงคมนาคมแล้ว โดยเป็นแผนลงทุน 8 ปี คือ ปี 2556-2563 วงเงิน 1,990,608.88 ล้านบาท รวม 55 โครงการ ประกอบด้วย สาขาการขนส่งทางถนน 479,122.10 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24.07 สาขาการขนส่งราง 1,288,034.96 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 64.71 สาขาการขนส่งทางน้ำ 128,959.82 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.48 และสาขาการขนส่งทางอากาศ 94,492 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 4.75 (หนังสือพิมพ์มติชน)   'ปู-บีโอไอ'โรดโชว์ยุโรปลงทุนไทย สศค.เชื่อวิกฤตหนี้อียูทุบเศรษฐกิจไม่เกิน1%   นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ปัญหาวิกฤตหนี้สหภาพยุโรป (อียู) จะยืดเยื้อต่อไป 5-10 ปี เพราะถือเป็นปัญหาระดับโครงสร้างทางเศรษฐกิจทั้งทางด้านสถาบันการเงิน ภาคการคลัง หนี้สาธารณะ ตลาดแรงงาน รวมไปจนถึงเรื่องทางการเมือง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาแก้ไขนาน และในระยะสั้นประเทศไทยจะได้รับผลกระทบในภาคการส่งออก เพราะไทยส่งออกไปยุโรปคิดเป็นสัดส่วน 9.4% ของการส่งออกทั้งหมด ซึ่งสศค.คาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ 12.8% (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)   'ปู'ไล่บี้เคลียร์รันเวย์สุวรรณภูมิ สั่งเพิ่มไฟลต์มืดลดแออัด-เฟส2ต้องเสร็จไว   น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามการบริหารจัดการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อ วันที่ 16 ก.ค. ว่า ได้ติดตามการแก้ไขปัญหาความแออัดของปริมาณผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาแนวทางการเฉลี่ยเที่ยวบินที่ทำการบินขึ้นลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ซึ่งทำการบินน้อย จะทำอย่างไรให้เพิ่มเที่ยวบินให้มากขึ้น จากเดิมที่มีปัญหาแออัดเฉพาะบางช่วงเวลาเท่านั้น และยังกำชับให้เร่งดำเนินโครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด 70 เดือน รวมทั้งจะได้เร่งรัดการดำเนินโครงการก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) เส้นที่ 3 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันยังให้เพิ่มการใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อลดความแออัดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)   เตือนรับมือวิกฤติแรงงาน ชี้เอสเอ็มอีขาดแคลนหนัก   นายยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอียังกังวลกับปัญหาอื่น เช่น ราคา ตลาด ภาวะเศรษฐกิจ ค่าน้ำมัน มากกว่าปัญหาเรื่องแรงงาน ขณะที่ปัญหาค่าจ้างแรงงานไม่เป็นอุปสรรคมากนักในเอสเอ็มอีขนาดใหญ่ แต่มีผลกระทบกับรายเล็ก รายกลางที่ต้องปรับตัวอย่างมาก ขณะที่รายย่อมที่มีลูกจ้างไม่เกิน 5 คนนั้นพบว่าไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายค่าแรงสูง ทั้งนี้เอสเอ็มอีขนาดกลางและขนาดเล็ก จำเป็นต้องเร่งเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพและยกระดับเทคโนโลยีที่ใช้ทดแทนแรงงานคนให้เร็วที่สุด เพื่อควบคุมต้นทุนและให้ธุรกิจแข่งขันได้ โดยนโยบายค่าจ้างสูงอาจทำให้เอสเอ็มอีบางส่วนต้องปิดตัวลงและเลิกจ้างแรงงาน แต่เชื่อว่าสถานการณ์ไม่น่าจะเลวร้าย เนื่องจากไทยยังขาดแคลนแรงงานระดับกลางและระดับล่างหลายแสนคน (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)   รัฐบาลลังเลขึ้นแอลพีจี หวั่นชาวบ้านสวดยับ   นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยว่า แม้รัฐบาลจะเสนอต่อรัฐสภาให้ราคาพลังงานก๊าซแอลพีจี ค่อย ๆ ปรับให้เป็นไปตามกลไกตลาด และเตรียมพร้อมกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 58 แต่จะเป็นการปรับแบบค่อยเป็นค่อยไปด้วยความระมัดระวัง โดยที่ปรับให้ถูกต้องไปแล้วคือ ภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ภาคขนส่ง ได้เตรียมความพร้อมมาระยะหนึ่ง เพราะไม่สนับสนุนให้รถบรรทุกมาแต่แรกแล้ว และขณะนี้กำลังจะเข้าสู่ภาคครัวเรือน (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)   ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1   รายงานวันนี้   กลุ่ม: ปิโตรเคมี          คำแนะนำ: เพิ่มน้ำหนักการลงทุน          ราคาเป้าหมาย (บาท): - ส่วนต่างราคาโอเลฟินส์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ส่วนต่างราคา HDPE และส่วนต่างราคา MEG ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน ส่วนต่างราคาพีวีซียังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน   หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม   Technical Analysis   Security: PTTGC Position: ซื้อ เป้าหมาย: 62-63 Stop loss< 56.5 Reason: หุ้นอยู่ในช่วงของการสร้างฐาน สัญญาณซื้อจะเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุผ่านแนวต้าน 58 แนะนำ Follow buy คาดว่าวอลุ่มจะเพิ่มสูงขึ้นตามสัญญาณ Break out   Security: IVL Position: ซื้อ เป้าหมาย: 32/34 Stop loss< 27.5 Reason: สัญญาณซื้อคาดจะเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุแนวต้าน 29 จุดสังเกตคือวอลุ่มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แนะนำ Follow buy แนวต้านถัดไป 32 และ 34   Security: STEC Position: ซื้อ เป้าหมาย: 16 Stop loss< 14.5 Reason: เป็นหุ้นที่น่าจับตาเนื่องจากเป็นหุ้นที่ส่งสัญญาณแข็งแกร่งมากกว่ากลุ่มขณะที่ราคาทะลุแนวต้านสำคัญ 14 ขึ้นไปได้แล้วสามารถยืนไต่นะดับรักษาโมเมนตัมขาขึ้นไว้ได้อย่างต่อเนื่อง   Security: TCAP Position: ซื้อ เป้าหมาย: 33/34 Stop loss< 29.5 Reason: ทะลุทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่พบวอลุ่มหนาแน่นและเพิ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 2 สัปดาห์คาดเป็นสัญญาณดีดขึ้น   Security: STPI Position: ซื้อ เป้าหมาย: 33/35 Stop loss< 28 Reason: สัญญาณทะลุเส้นแนวโน้มระยะกลางทำให้คาดว่าหุ้นจะเปลี่ยนกรอบการวิ่งรอบใหม่ โดยมองสัญญาณ Breakout ที่แนวต้าน 30 สนับสนุนด้วนวอลุ่มที่เพิ่มขึ้น   Security: JAS Position: ซื้อ เป้าหมาย: 3.5/3.6 Stop loss< 3.24 Reason: ทะลุทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ สัญญาณทางเทคนิคยังมองการแกว่งตัวขึ้นบนแนวโน้มระยะกลาง โดยมีแนวต้านบริเวณ 3.5 และ 3.6   โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 17 ก.ค. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook