ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.เคทีบี (ประเทศไทย)

ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.เคทีบี (ประเทศไทย)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

DAILY COMMENT   Strategy View (3-month) Top Pick    Target Price    Closing Price    % Upside PTT           420              327           28.4 PTTEP          204              173           17.9 CPF            50              35            42.9   SET Index 1186.95 จุด -13.13(-1.10%)   High 1192.58 -7.50(-0.62%)           Low 1186.32-13.76(-1.15%)   มูลค่าการซื้อขาย           19,017 ล้านบาท Foreign Board          531.33 ล้านบาท (2.79%) Big Lot              1,142.48 ล้านบาท (6.01%)   Stock Market Indices ปิด             เปลี่ยนแปลง (%) DJIA                     12,736.29          -36.18(-0.28%) NASDAQ                    2,931.77          -5.56(-0.19%) FTSE                      5,627.33          -35.30(-0.62%) NIKKEI                    8,896.88          -123.87(-1.37%) HANG SENG                19,428.09          -372.55(-1.88%) SSE COMPOSITE            2,170.813          -52.766(-2.37%) KOSPI                     1,836.13          -22.07(-1.19%)   Eyeing Factors  : ภายในประเทศ (+/-) ศาลรัฐธรรมนูญนัดตัดสินคำร้องวันที่ 13 ก.ค.55 ว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่ (+) นายกฯ จะเดินทางไปกัมพูชาวันที่ 13 ก.ค.55 เพื่อกล่าวสุนทรพจน์กับนักธุรกิจสหรัฐฯ ตามคำเชิญของนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ   ต่างประเทศ (-) ติดตามตัวเลข GDP ของจีนงวด 2Q55 ในวันศุกร์ (13 ก.ค.55) ...หลังโพลล์รอยเตอร์คาดเติบโตลดลงเหลือ 7.6% (เทียบกับ +8.1% ในงวด 1Q55) (-) ดัชนีดาวโจนส์ลบ 36.18 จุดเมื่อวาน (9 ก.ค.55) ..ยังวิตกเศรษฐกิจโลกชะลอตัว (+) ราคาน้ำมันดิบ Nymex ทะยาน 1.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน Brent พุ่ง 2.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 100.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ...กังวลนอร์เวย์ระงับการผลิตน้ำมันดิบทั้งหมด (+) ราคาทองคำ COMEX บวก 10.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,589.10 ดอลลาร์/ออนซ์ (+) ดัชนี BDI บวก 5 จุด ปิดที่ 1,162 จุด   ตลาดหุ้นไทย เมื่อวาน : SET Index อ่อนตัวระยะสั้นตามที่เราคาดไว้ เมื่อวาน (9 ก.ค.55) ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในลักษณะอ่อนตัวลงทันทีที่ตลาดหุ้นไทยเปิดทำการวันแรกของสัปดาห์ ซึ่งสอคล้องกับมุมมองที่เราให้ไว้ว่า SET Index จะตอบสนองกับปัจจัยลบในเรื่องตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด ผนวกกับความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงมีอิทธิพลต่อจิตวิทยาการลงทุนโดยทั่วไป ทำให้นักลงทุนยังไม่กล้าเข้าซื้อ รวมถึงชะลอดูสถานการณ์นอกตลาดไปก่อน จึงมีผลทำให้มูลค่าการซื้อขายของตลาดเบาบางลงอย่างมากเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยปิดทำการที่ระดับ 1,186.95 จุด (-1.09%) โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันอยู่ในช่วง 1,186.32-1,192.58 จุด สำหรับมูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 19,017 ล้านบาท ส่วนผู้ซื้อสุทธิเพียงกลุ่มเดียว ได้แก่ นักลงทุนรายย่อยเท่ากับ 429 ล้านบาท   วันนี้  : SET อ่อนช่วงสั้นไม่เป็นไร...ปัจจัยพื้นฐานไม่อ่อนแอตามก็ไม่ต้องกลัว ในวันนี้ (10 ก.ค.55) เราคาดว่า SET Index มีโอกาส rebound ขึ้น (โดยมีแรงหนุนจากการเข้าซื้อหุ้น big cap. ในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก) หลังจากที่แสดงอ่อนตัวลงพอสมควรเมื่อวานนี้ ซึ่งสะท้อนว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับฐานและพักฐานระยะสั้นเกิดขึ้น ประกอบกับเราเห็นว่า การเคลื่อนไหวของ SET Index ที่ระดับปัจจุบันยังไม่ทำให้ทิศทางของตลาดหุ้นไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางลบอย่างน่ากังวล อย่างไรก็ตาม ความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อตลาดหุ้นไทยจะเป็นตัวกดดันระยะสั้นให้ SET Index ปรับตัวขึ้นได้ไม่ไกลมากนักในสัปดาห์นี้ ยกเว้นว่า คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่จะเกิดขึ้นในวันศุกร์ (13 ก.ค.55) ออกมาเป็นบวกต่อรัฐบาลให้สามารถดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ไปได้แบบไม่สะดุด แต่ในขณะนี้ ยังเป็นปัจจัยที่เราคาดว่า ไม่มีผู้ใดคาดการณ์ได้ ทำให้คาดว่า SET Index ยังมีโอกาสแกว่งตัวผันผวนต่อไป โดยมีทั้งแรงบวก (แรงซื้อของกองทุนรวม LTF  และ RMF, ผลประกอบการงวด 2Q55 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์) และลบ (ภาพรวมเศรษฐกิจโลกอ่อนแอจากยุโรป-สหรัฐ-จีน, การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ) ต้านกันเองในสัปดาห์นี้ สำหรับวันนี้ เราให้กรอบ SET Index เคลื่อนไหวในช่วง 1,180-1,192 จุด (ไม่เกิน 1,195 จุด)   กลยุทธ์การลงทุน: นักเก็งกำไร แนะนำ “ขึ้นขาย ... ลงซื้อ” โดยยึดกรอบ SET Index รายวันที่ให้ไว้ (ไม่เล่น หาก SET หลุดกรอบล่าง) ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ยังคงให้ทยอยซื้อหุ้นปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เมื่อหุ้นเป้าหมายมีราคาอ่อนตัว ส่วนหุ้นพื้นฐานดี ต้นทุนต่ำ ยังแนะนำถือต่อไป   หุ้นเด่นวันนี้: แนะนำซื้อเก็งกำไร PTT, PTTEP, PTTGC และ TOP ในระยะสั้น เราแนะนำให้เก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่จะได้อานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเมื่อคืนนี้ โดยมีปัจจัยหนุนที่สำคัญจากความกังวลที่ว่า นอร์เวย์อาจระงับการผลิตน้ำมันทั้งหมด สืบเนื่องจากคนงานผละงานประท้วง ผนวกกับความหวังที่ว่า จีนจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการปรับตัวไปในทางบวกของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะหนุนผลการดำเนินงานของบริษัทในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่ดีในช่วง 2H55 เรายังคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 420, 204, 85.50 และ 78 บาท ตามลำดับ   ปริญทร์  กิจจาทรพิทักษ์: Parin Kitchatornpitak เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 017611 Tel: 02-6481120/Email: parin.k@ktbst.co.th   News Release   ตลท.ปรับเกณฑ์รับหุ้นใหม่ มุ่งสู่สากลแข่งตลาดภูมิภาค ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับปรุงเกณฑ์รับหลักทรัพย์ใหม่ เพื่อเป็นสากลและแข่งขันกับตลาดหุ้นภูมิภาคเล็งเปิดช่องบริษัทขนาดใหญ่มาร์เกตแคปไม่น้อยกว่า 5 พันล้านบาทเข้าจดทะเบียนได้แม้ยังไม่มีกำไร หวังเพิ่มทางเลือกลงทุนให้กับนักลงทุน พร้อมปรับปรุงเกณฑ์รับหุ้นต่างประเทศเข้าเทรด\"ปวีณา\" แจง 19 ก.ค.นี้ เชิญ บจ.-ที่ปรึกษา ทางการเงิน-บลจ.ให้ความเห็น (ASTVผู้จัดการรายวัน)   ปตท.มั่นใจกำไรครึ่งปีแรกโตสผ.ขยายเวลาซื้อโคฟ13ก.ค. +          ปตท.ชี้ผลงานครึ่งปีแรกออกมาดี กำไรยังโตกว่าปีก่อนหน้า แม้ราคาน้ำมันตลาดโลกฉุดธุรกิจปิโตรเคมี-โรงกลั่นขาดทุนจาก สต็อก แต่ความต้องการใช้น้ำมันยังโตต่อเนื่อง คาดครึ่งปีหลังราคาน้ำมันฟื้นตัวกลับมายืนเหนือ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ เผยทบทวนแผนงานกลางปีแล้ว ยังไม่จำเป็นต้องปรับแผนลงทุน ด้าน ปตท.สผ.ขยายเวลาซื้อโคฟถึง 13 ก.ค.นี้ (กรุงเทพธุรกิจ)   เด็มโก้ผลงาน Q2 เริ่ด กำไรนิวไฮ 120 ล้าน +          DEMCO ลุ้นไตรมาส 2 กำไรนิวไฮ 110-120 ล้าน เติบโต 40-50% หลังรับรู้รายได้ขายเสาโทรคมนาคมให้กับทรูมูฟ 450 ล้านบาท และรับรู้รายได้งานก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมห้วยบงเต็มไตรมาส (ข่าวหุ้น)   TRT รับงาน กฟผ. ครึ่งหลังอีก270 ล. +          ถิรไทย T เริ่มกวาดงานครึ่งปีหลังเซ็นสัญญารับงานกฟผ. อีก 270 ล้านบาท สั่งผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ 300 MVA จำนวน 5 ยูนิตติดตั้งสถานีไฟฟ้าลำลูกกา และนครราชสีมา พร้อมเตรียมเสริมกำลังการผลิตเต็มสูบหลายเท่าตัว หลังเปิดขายหุ้นกู้ 600 ล้านบาท เกลี้ยงในพริบตา (ASTVผู้จัดการรายวัน)   ขายทิ้ง กษมราษฎร์ 25%บำรุงราษฎร์กำไร 270 ล้าน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ตัดขายหุ้นยกล็อตโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ที่ถืออยู่ทั้งหมดเกือบ 25% หรือกว่า 400 ล้านหุ้น ให้กลุ่มทุนต่างชาติในราคาหุ้นละ 9.15 บาท ต่ำกว่าราคาในกระดาน ซึ่งปิดที่ 9.85 บาท รับกำไรทันทีกว่า 270.155 ล้านบาท สาเหตุตัดขายเนื่องจากฐานลูกค้าไม่เกื้อหนุน (กรุงเทพธุรกิจ)   เคซีอี ขึ้นราคารับเงินประกันดันกำไรปีนี้เพิ่ม +          เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ คาดยอดขายไตรมาส 2/2555 ดีกว่าไตรมาสแรกหลังกลับมาเดินเครื่อง 70% เผยไม่หวั่นวิกฤติยุโรปเหตุลูกค้ากระจายหลายประเทศ ยันกำไรทั้งปีดีกว่า ปีที่แล้ว หลังขยับราคาขายขึ้น 5-10% และ รับเงินประกันน้ำท่วม ส่วนรายได้คงเป้าหมาย 250 ล้านดอลลาร์ (กรุงเทพธุรกิจ)   กังขา ตงฮั้ว เพิ่มทุนขายพีพี ตลาดหลักทรัพย์สั่งเปิดชื่อผู้ซื้อ-หลักเกณฑ์เลือกผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ สั่ง \"ตงฮั้ว\" แจงแผนเพิ่มทุนภายใน 12 ก.ค.นี้ กังขาแผนขายหุ้นพีพี 2 มาตรฐาน จี้เปิดรายชื่อนักลงทุน ระบุเพิ่มทุน 500 ล้านหุ้น จากทุนจดทะเบียนแค่ 120 ล้านหุ้น หวั่นกระทบโครงสร้าง ผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมให้แจงวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนอย่างละเอียด ด้านราคาหุ้นยังบวกต่อสูงสุดในรอบ 7 ปี (กรุงเทพธุรกิจ)   THCOM กำไรโต ครึ่งแรก 100ล้าน ดาวเทียมขึ้นหม้อ +          \"ไทยคม\" ลุ้นรายได้ไตรมาส 2/55 พุ่ง 2,000 ล้านบาท ฟันกำไรสุทธิกว่า 58 ล้านบาท หนุนครึ่งปีแรกกำไรทะลุ 100 ล้านบาท เหตุรายได้ดาวเทียมไทยคม 5-ไอพีสตาร์เพิ่ม (ข่าวหุ้น)   IVL สเปรดพ้นจุดต่ำสุดแล้ว  Q2 กำไรยังไม่ฟื้น! เหตุขาดทุนสต๊อกเพียบ \"ไอวีแอล\" เผยสเปรด PTA-PET-โพลีเอสเตอร์ พ้นจุดต่ำสุดแล้ว หลังเห็นสัญญาณไตรมาส 2/55 ทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่ยอมรับกำไรไตรมาส 2/55 ยังไม่ฟื้นตัว แม้ MEG ดึงอีบิทด้าอยู่ที่ 25 ล้านเหรียญ เหตุมีขาดทุนสต๊อกเพียบ ด้านรายได้ดีขึ้นตามกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากโรงงานลพบุรีกลับมาเดินเครื่องผลิตไตรมาส 2/55 (ข่าวหุ้น)   พรรณนภา  เขมะสุรัตน์     Tel 02 – 6481124 / Email: patra.p@ktbst.co.th   โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 10 ก.ค. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook