รวม 8 วิธีประหยัดเงินค่าเครื่องสำอาง
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/mn/0/ud/117/588043/sanook-2-1-8-2018.jpgรวม 8 วิธีประหยัดเงินค่าเครื่องสำอาง

    รวม 8 วิธีประหยัดเงินค่าเครื่องสำอาง

    2018-08-11T15:22:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องสำอางเป็นตัวดูดเงินของสาวๆชั้นดี แต่จะมากหรือจะน้อยขึ้นอยู่กับความถี่ในการซื้อของแต่ละคน แต่สำหรับคนที่กำลังคิดว่า “สิ้นเดือนแล้ว เครื่องสำอางก็ไม่มีใช้ จะทำอย่างไรล่ะ” เรามี 8 วิธีง่ายๆที่จะช่วยประหยัดเงินค่าเครื่องสำอางมาฝากกัน

    1.ลองพิจารณาเหตุผลในการซื้อเครื่องสำอาง

    ควรพิจารณาก่อนซื้อเครื่องสำอางก่อนทุกครั้งว่าซื้อเพราะจำเป็นหรือซื้อเพราะยากได้ หากซื้อเพราะความยากจะส่งผลต่อสภาพการเงินของเรานั่นเอง ดังนั้นซื้อเมื่อจำเป็นต้องใช้จะดีกว่า

    2.ลองก่อนซื้อ

    ทุกครั้งที่ซื้อเครื่องสำอาง ต้องลองก่อนทุกครั้งเพื่อให้ได้เครื่องสำอางที่ถูกใจที่สุด ซึ่งวิธีนี้จะช่วยประหยัดเงินไปได้มากเลยทีเดียว โดยเครื่องสำอางบางแบรนด์สามารถขอคืนเงินได้หากสินค้าชิ้นนั้นไม่ได้สร้างความพอใจให้เราได้อีกด้วย ดังนั้นหากรู้นโยบายของร้านค้าและแบรนด์สินค้านั้นๆก็จะดี

    3. ซื้อแค่เครื่องสำอางชิ้นที่สำคัญที่สุดเท่านั้น

    หากเราเลือกเครื่องสำอางชิ้นที่สำคัญที่สุดและจ่ายให้แค่กับสิ่งนั้น เช่น หากแต่งหน้าไม่เยอะ ชอบแค่ปัดแก้ม ก็เน้นใช้จ่ายไปกับการซื้อที่ปัดแก้ม เท่านั้น ซึ่งการทำแบบนี้ก็จะช่วยให้ประหยัดเงินไปได้

    4.ซื้อแปรงแต่งหน้าที่มีคุณภาพ

    แปรงที่ดีอาจจะมีราคาแพง เราควรดูแลรักษาให้ดีและเก็บไว้ให้เรียบร้อยเพื่อให้เราสามารถใช้ไปได้นานๆ หากรู้สึกว่าใช้จ่ายกับแปรงแต่งหน้าเยอะไปแล้ว และต้องการประหยัดเงิน เราก็สามารถประหยัดได้โดยการหลีกเลี่ยงการใช้แปรงแต่งหน้าราคาแพงๆ แล้วเลือกซื้อแปรงแต่งหน้าที่มีราคาถูกมาแทน

    5. เช็ควันหมดอายุ

    เครื่องสำอางแต่ละประเภทมีวันหมดอายุที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น มาสคาล่า ถ้าเปิดใช้แล้ว จะมีอายุประมาณ 2-3 เดือน , เครื่องสำอางประเภทแห้ง เช่น บลัชออน จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 2 ปี เป็นต้น เมื่อเราซื้อเครื่องสำอาง ก็ควรแน่ใจว่าเรานั้นจะสามารถใช้หมดก่อนถึงวันหมดอายุ

    6. ช้อปปิ้งในวันที่ลดราคา

    ร้านขายเครื่องสำอางหลายร้านจะมีโปรโมชั่นลดราคาอยู่เสมอ เพื่อให้ดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาซื้อ ดังนั้น เราก็ไม่ควรพลาดที่จะใช้ช่วงเวลาลดราคานี้ในการเลือกซื้อเครื่องสำอาง เพราะจะช่วยให้เราประหยัดเงินไปได้มากเลยทีเดียว แต่ต้องซื้อเท่าที่จำเป็นเท่านั้นนะ

    7. ซ่อมเครื่องสำอางที่หักหรือแตก

    ถ้าอายแชโดว์ของเราหักหรือแตก อย่าเพิ่งทิ้งหรือซื้อใหม่ในทุกครั้ง ลองเปลี่ยนอายแชโดว์ที่แตกหรือหักมาใส่ในขวดโหล เพื่อใช้ในครั้งต่อไปแทน ก็ถือเป็นทางเลือกในการประหยัดเงินที่น่าสนใจที่เดียว หรือจะลองประยุกต์ใช้วิธีกับเครื่องสำอางอื่นๆก็ได้

    8. ช้อปปิ้งที่ร้าน Duty free

    หากมีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ลองหยุดดูและซื้อเครื่องสำอางที่ร้าน Duty Free แทนการซื้อข้างนอก ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะไม่เสียภาษีเพิ่มนั่นเอง