ดร. อาณัติ อาภาภิรม ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดการและกรรมการที่ปรึกษา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 27-30 กรกฎาคม 2561 บีทีเอสปรับปรุงระบบด้วยการอัพเกรดซอฟแวร์ใหม่ล่าสุด จากบอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ถือเป็นการปรับแต่งระบบให้เสถียรสูงสุดทั้งการเดินรถ และเส้นทางส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ทั้ง 8 สถานี ได้แก่ สถานีปู่เจ้า, สถานีช้างเอราวัณ, สถานีโรงเรียนนายเรือ, สถานีปากน้ำ, สถานีศรีนครินทร์, สถานีแพรกษา, สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ รวมระยะทาง 11 กิโลเมตร โดยจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2561
ภายหลังจากที่ บริษัทฯได้ย้ายคลื่นจาก 2400 เป็น 2460-2495 HMz รวมถึงติดตั้งตัวกรองคลื่นสัญญาณ (band pass Filter) ในรถไฟฟ้าทั้งหมด 52 ขบวน เสร็จเรียบร้อยแล้ว และเพิ่มการติดตั้งตัวกรองสัญญาณ (band pass filter) ที่สถานีรถไฟฟ้าทั้ง 35 สถานี และเสาสัญญาณตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า โดยบีทีเอสเชื่อว่าหลังจากนี้ ปัญหารถไฟฟ้าที่เกิดอาการกระชาก หรือกระตุกจะหายไปจนเหลือไม่ถึง 5% จนผู้โดยสารรู้สึกว่าบีทีเอสซื้อรถใหม่เลย
ส่วนกรณีผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบในช่วงเกิดเหตุรถไฟฟ้าขัดข้องระหว่างวันที่ 25 – 27 มิถุนายนที่ผ่านมา มีจำนวน 400,000 คน และเข้ารับสิทธิ์ชดเชยเที่ยวโดยสารแล้ว 60% โดยการจะหมดสิทธิ์ชดเชยเที่ยวโดยสารภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561
นายเกรกอรี่ อองจาลแบร์ท รองประธาน ระบบอาณัติสัญญาณควบคุมรถไฟประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และผู้อำนวยการจัดการ ประเทศไทย บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ระบุถึงกรณีการปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณ ว่าสามารถดำเนินการได้ 2 วิธี คือ
1.ปิดการให้บริการและปรับปรุงระบบ ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กับระบบการให้บริการที่มีผู้โดยสารจำนวนน้อย เช่น ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น
2.เปิดให้บริการตามปกติและปรับปรุงระบบในเวลากลางคืนและช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ สำหรับโครงการที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพื่อให้มีผลกระทบกับผู้โดยสารน้อยที่สุด
อย่างไรก็ดี การปรับปรุงระบบของรถไฟฟ้าบีทีเอสขณะนี้อยู่ในขั้นตอนปรับปรุงระบบส่งข้อมูล (DTS) ซึ่งเป็นเครือข่ายหลักของระบบสัญญาณ เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อระบบวิทยุ รถไฟ และรางสัญญาณเข้าด้วยกัน เพื่อให้อุปกรณ์ทั้งหมดสามารถสื่อสารกันได้อย่างชัดเจน โดยไม่มีสัญญาณอื่นใดมารบกวน ซึ่งระบบส่งข้อมูล (DTS) ได้ถูกนำมาใช้กันในหลายประเทศ นับเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยของระบบสูง (Cyber-security) และมีการป้องกันการรบกวนจากระบบอื่นๆ
โดยระบบใหม่นี้จะทำให้การบริการมีความเสถียรตลอดทั้งสายปัจจุบันที่เปิดให้บริการแล้ว และส่วนต่อขยายที่กำลังจะเกิดขึ้น และรถไฟฟ้าในอนาคต 20 ปีข้างหน้า ซึ่งหลังจากที่ปรับปรุงระบบแล้ว บริษัทฯ เชื่อว่าปัญหาขัดข้องจะน้อยลง รวมทั้งการกระชาก กระตุกที่เคยเกิดขึ้นก็จะน้อยลงหรือไม่มีเลย
ขอขอบคุณ
ภาพ :iStock