กิตติรัตน์เผยยังไม่จำเป็นตั้งกองทุนพยุงหุ้น

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง กรณีที่ คณะรัฐมนตรี มีแนวคิดในการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นว่า ขณะนี้ยังคงไม่มีความจำเป็นที่จะจัดตั้งกองทุนดังกล่าว เพราะยังไม่มีสัญญาณดัชนีหุ้นว่า จะมีการปรับตัวลดลง ภายใน 1 - 2 สัปดาห์นี้ แต่หากเกิดปัญหาดัชนีในตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงรุนแรงก็สามารถจัดตั้งกองทุนได้ทันที โดยก่อนหน้านี้ ได้มีการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวมาแล้ว ในช่วงปี 2545 - 2546 โดยได้เคยจัดตั้งกองทุนดังกล่าว ในวงเงินเกือบ 10,000 ล้านบาท ซึ่งได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยในขณะนั้น มีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่ นักลงทุน ก็ได้รับผลตอบแทนที่ดีอย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจาก อาจจะทำให้มีผลต่อดัชนีในอนาคตและเชื่อว่าขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่า เศรษฐกิจของประเทศ ยังมีเสถียรภาพ ซึ่งหากมีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้น ก็มีเครื่องมือรองรับอยู่แล้วนายกิตติรัตน์ ยังกล่าวถึงกรณีเรื่องของตัวเลขการส่งออกที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมาว่า เกิดจากการผลิตที่ชะลอตัวลงจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากเศรษฐกิจยุโรป และการบริโภคที่ชะลอตัวลง ดังนั้นจึงเชื่อว่า การส่งออกในปีนี้ยังคงขยายตัวได้ตามเป้าที่ร้อยละ 15 นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ ยังได้กล่าวยืนยันว่า จะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล จนมีผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน แต่หากจะมีการปรับขึ้นในส่วนการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลนั้น ก็จะไม่มีการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นในการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เพราะทางกรมสรรพสามิตยังคงสามารถจัดเก็บภาษีได้เกินเป้าหมาย