"ตระกูลเจียรวนนท์" ครองแชมป์อภิมหาเศรษฐีของไทยประจำปี 2561

"ตระกูลเจียรวนนท์" ครองแชมป์อภิมหาเศรษฐีของไทยประจำปี 2561

"ตระกูลเจียรวนนท์" ครองแชมป์อภิมหาเศรษฐีของไทยประจำปี 2561
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความมั่งคั่งของ 50 อภิมหาเศรษฐีไทยทะยานต่อเนื่อง / 4 อันดับแรกมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นสูงสุด

กลุ่มบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของไทยมีทรัพย์สินรวมกันทะยานขึ้นเป็นกว่า 1.62 แสนล้านดอลลาร์ (5.06 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นหนึ่งในสามจากปีที่แล้ว โดยผู้ที่ติดทำเนียบ 50 บุคคลร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย มีถึงสองในสามที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น เฉพาะ 4 อันดับแรกมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นรวมกันเกือบ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ (7.81 แสนล้านบาท) ทั้งนี้ สามารถติดตามรายชื่อในทำเนียบทั้งหมดได้ที่ www.forbes.com/thailand และ www.forbesthailand.com รวมทั้งนิตยสาร Forbes Asia และ Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม 2561

หลังผ่านพ้นช่วงเวลาซบเซาสั้น ๆ เศรษฐกิจของประเทศไทยเริ่มกลับมากระเตื้องอีกครั้ง ธนาคารโลกคาดการณ์เป็นครั้งแรกนับจากปี 2555 ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวกว่าร้อยละ 4 ในปี 2561 หลังการส่งออกเพิ่มขึ้นผนวกกับความต้องการในประเทศฟื้นตัว แม้เศรษฐกิจจะโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ทรัพย์สินของบรรดาบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากตลาดหุ้นขาขึ้นและเงินบาทที่แข็งค่า

4 อันดับแรกในทำเนียบมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นสูงสุด โดยพี่น้องตระกูลเจียรวนนท์แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ยังครองอันดับ 1 อย่างต่อเนื่องด้วยทรัพย์สินมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 30,000 ล้านดอลลาร์ (9.37 แสนล้านบาท) ด้วยแรงหนุนจากราคาหุ้นของบริษัทสำคัญ ๆ ที่ทะยานขึ้น อาทิ บมจ.ซีพี ออลล์ ซึ่งเป็นบริษัทบริหารร้านค้าสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่ได้อานิสงส์จากบรรยากาศการบริโภคที่สดใส และบริษัทประกันภัย Ping An ที่ได้อานิสงส์จากการลงทุนในธุรกิจฟินเทค

อันดับที่ 2 ประจำทำเนียบเป็นของตระกูลจิราธิวัฒน์แห่งกลุ่มเซ็นทรัล มาพร้อมทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นแตะ 2.12 หมื่นล้านดอลลาร์ (6.62 แสนล้านบาท) จาก 1.53 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมา

ขณะที่ เฉลิม อยู่วิทยา แห่งกระทิงแดงมาในอันดับที่ 3 โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 8.5 พันล้านดอลลาร์ เป็น 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ (6.56 แสนล้านบาท) ในปีนี้

ส่วน เจริญ สิริวัฒนภักดี (อันดับ 4) แห่งกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ มีทรัพย์สินเพิ่มจากปีที่ผ่านมา 2 พันล้านดอลลาร์ รวมเป็นมูลค่าทรัพย์สิน 1.74 หมื่นล้านดอลลาร์ (5.43 แสนล้านบาท) Aloke Lohia (อันดับ 9) เป็นมหาเศรษฐีอีกหนึ่งท่านที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมาก ทรัพย์สินของเขาทะยานแตะ 3.3 พันล้านดอลลาร์ (1.03 แสนล้านบาท) พุ่งขึ้นถึงร้อยละ 89 โดยการบรรลุข้อตกลงที่สำคัญนับตั้งแต่ปี 2557 ของเขาทำให้ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส เข้าเป็นเจ้าของกิจการ 16 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงกิจการในยุโรปและอเมริกาเหนือ ในปี 2560 บริษัทรายงานตัวเลขรายได้ 8.4 พันล้านดอลลาร์ เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึงร้อยละ 17

สิ่งสะท้อนความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นคือ ปีนี้มีถึง 32 อันดับที่มีทรัพย์สินระดับพันล้านดอลลาร์ขึ้นไป เพิ่มจากปี 2560 4 อันดับ (5 ท่าน) และเป็นมหาเศรษฐีใหม่ที่เพิ่งเข้าอันดับเป็นครั้งแรก 2 ท่าน หลังจากพาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ สารัชถ์ รัตนาวะดี (อันดับ 7) ซีอีโอแห่ง บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งเข้าตลาดเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีหน้าใหม่ที่ร่ำรวยที่สุดด้วยทรัพย์สินมูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ (1.06 แสนล้านบาท) และอีกหนึ่งคือประจักษ์ ตั้งคารวคุณ (อันดับ 14) เข้าทำเนียบมาเป็นปีแรกด้วยทรัพย์สินสุทธิ 2.1 พันล้านดอลลาร์ (6.56 หมื่นล้านบาท)

อีก 2 มหาเศรษฐีหน้าใหม่ประจำทำเนียบมาจากธุรกิจความสวยความงามที่กำลังเฟื่องฟู ได้แก่ นพ.สุวินและธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ (อันดับ 40) แห่งบิวตี้ คอมมูนิตี้ โดยทั้งคู่มีทรัพย์สินรวมกัน 715 ล้านดอลลาร์ (2.23 หมื่นล้านบาท) และสราวุฒิ พรพัฒนารักษ์ (อันดับ 45) กับมูลค่าทรัพย์สิน 675 ล้านดอลลาร์ (2.11 หมื่นล้านบาท) ซึ่ง "ดู เดย์ ดรีม" บริษัทของเขาทำรายได้อย่างงามจากกระแสคลั่งไคล้ผิวขาว

ในบรรดามหาเศรษฐินี 9 คนที่เข้าสู่ทำเนียบในปีนี้ สองคนเป็นผู้ที่กลับเข้าสู่อันดับอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งรวมถึง สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ (อันดับ 28) ประธานกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ด้วยทรัพย์สิน 1.3 พันล้านดอลลาร์ (4.06 หมื่นล้านบาท) ด้าน Nishita Shah Federbush (อันดับ 32, 1.06 พันล้านดอลลาร์) ทายาทธุรกิจขนส่งทางทะเลผู้กุมบังเหียนจีพี กรุ๊ป เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐินีที่โดดเด่นด้วยมูลค่าทรัพย์สินของตระกูลมีมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากการเข้าถือหุ้นร้อยละ 51 ใน บมจ.เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ บริษัทยาและผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพที่ Kirit พ่อของเธอเป็นผู้ก่อตั้งในปี 2525

จากการกำหนดทรัพย์สินสุทธิขั้นต่ำของผู้ที่ได้รับการจัดอันดับที่ 600 ล้านดอลลาร์ ทำให้มีมหาเศรษฐี 7 คนหลุดจากทำเนียบ 50 อภิมหาเศรษฐีไทยไปในปีนี้ รวมทั้งภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ของเขาทำรายได้และผลกำไรลดลงจากอุปสงค์ที่อ่อนแรงและราคาวัตถุดิบที่ถีบตัวสูงขึ้น

รายชื่อตระกูลและอภิมหาเศรษฐี 10 อันดับแรกของไทย

  1. พี่น้องเจียรวนนท์ มูลค่าทรัพย์สิน  3 หมื่นล้านดอลลาร์
  2. ตระกูลจิราธิวัฒน์ มูลค่าทรัพย์สิน  2.12 หมื่นล้านดอลลาร์
  3. เฉลิม อยู่วิทยา มูลค่าทรัพย์สิน  2.1 หมื่นล้านดอลลาร์
  4. เจริญ สิริวัฒนภักดี มูลค่าทรัพย์สิน  1.74 หมื่นล้านดอลลาร์
  5. วิชัย ศรีวัฒนประภา มูลค่าทรัพย์สิน  5.2 พันล้านดอลลาร์
  6. กฤตย์ รัตนรักษ์ มูลค่าทรัพย์สิน  3.7 พันล้านดอลลาร์
  7. สารัชถ์ รัตนาวะดี มูลค่าทรัพย์สิน  3.4 พันล้านดอลลาร์
  8. นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ มูลค่าทรัพย์สิน  3.35 พันล้านดอลลาร์
  9. Aloke Lohia มูลค่าทรัพย์สิน  3.3 พันล้านดอลลาร์
  10. วานิช ไชยวรรณ มูลค่าทรัพย์สิน 3 พันล้านดอลลาร์

 

การจัดอันดับในทำเนียบฯ ใช้ข้อมูลทางการเงินและการถือครองหุ้นที่ได้รับจากครอบครัวและผู้ที่ได้รับการจัดอันดับ ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ นักวิเคราะห์ และหน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงทรัพย์สินของครอบครัวและทรัพย์สินที่ถือครองโดยสมาชิกครอบครัวในหลายรุ่น ทั้งนี้ มูลค่าทรัพย์สินในบริษัทมหาชนคำนวณจากราคาหุ้น และอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 20 เมษายน 2561 ส่วนทรัพย์สินในบริษัทที่ถือครองส่วนตัวประเมินค่าโดยเปรียบเทียบกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเดียวกันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook