ก.ล.ต. ส่งอัยการฟ้องผู้ต้องสงสัยปั่นหุ้น 25 คน เรียกค่าปรับ 890 ล้าน

ก.ล.ต. ส่งอัยการฟ้องผู้ต้องสงสัยปั่นหุ้น 25 คน เรียกค่าปรับ 890 ล้าน

ก.ล.ต. ส่งอัยการฟ้องผู้ต้องสงสัยปั่นหุ้น 25 คน เรียกค่าปรับ 890 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ก.ล.ต. ส่งสำนวนให้อัยการฟ้อง 25 บุคคลมีพฤติกรรมร่วมกันสร้างราคา 6 หลักทรัพย์ กลุ่มสื่อ-อสังหาฯ-ค้าเหล็ก ระหว่าง ธ.ค. 2556- มี.ค. 2558 ปรับกว่า 890 ล้านบาท ชี้ขาดคุณสมบัตินั่งบอร์ดหรือผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด 25 ราย กรณีร่วมกันสร้างราคาหลักทรัพย์ 6 ราย ได้แก่

บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS

บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL

บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR

บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC

บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NINE และ

ตราสารอนุพันธ์ บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NINE-W1

ด้วยการฟ้องคดีต่อศาล เพื่อขอให้ชำระค่าปรับทางแพ่งจำนวนกว่า 890 ล้านบาท พร้อมรายงานการดำเนินการดังกล่าวไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อ

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จึงตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 12 ธ.ค. 2556 - 24 มี.ค. 2558 มีบุคคลรวม 25 ราย รู้เห็นและ/หรือตกลงร่วมกันในการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยสลับกันเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ทั้ง 6 ตัว ในลักษณะอำพรางและ/หรือต่อเนื่อง ทำให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลอื่นเข้าซื้อหรือขายหลักทรัพย์ดังกล่าว 

โดยมีรายละเอียดผู้กระทำผิด ดังนี้

1. กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS (ขณะเกิดเหตุชื่อบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC) มีผู้กระทำผิด 23 ราย ในช่วงระหว่างวันที่ 12 ธันวาคม 2556 - 27 พฤศจิกายน 2557 ได้แก่ (1) นายยรรยงค์ อินทรสงเคราะห์ (2) นายระวีโรจน์ เขียนนิลศิริ (3) นายเอกวิชญ์ กมลเทพา (4) นายศิร์วสิษฎ์ สายน้ำผึ้ง (5) นางวรณัน เลิศกุลธรรม (6) นายภาณุรักษ์ แสงอร่าม (7) นางสาวพรเพ็ญ นิธิเกษม (8) นางสาวกรรณิดา ตั้งกิจตรงเจริญ (9) นายกรวิช อัศวกุล (10) นายภควันต์ วงษ์โอภาสี (11) นายสุวิทย์ พิพัฒน์วิไลกุล (12) นายพิสิษฏ์ พิพัฒน์วิไลกุล (13) นายสงกรานต์ ตันศิริ (14) นายปรีชา ตันติวัฒนวัลลภ (15) นายวิรัตน์ ตันสวัสดิ์ (16) นายอมร พรหมดีราช (17) นางสุภวรรณ รัตนวัน (18) นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ (19) นายธนพล วิระเทพสุภรณ์ (20) นายตรีขนิษฐ์ มากรักษา (21) นายธิติพัฒน์ ธิติพันธุ์ (22) นายธีระชัย รัตนกมลพร และ (23) นายนิรันดร์ เหตระกูล

2. กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL มีผู้กระทำผิด 6 ราย ระหว่างวันที่ 21 มีนาคม 2557 - 3 มิถุนายน 2557 ได้แก่ (1) นายยรรยงค์ (2) นายระวีโรจน์ (3) นายเอกวิชญ์ (4) นายศิร์วสิษฎ์ (5) นางวรณัน และ (6) นายภาณุรักษ์ 

3. กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัทโพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR (ขณะเกิดเหตุชื่อบริษัท วธน แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ WAT) มีผู้กระทำผิด 17 ราย ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน 2557 - 9 มกราคม 2558 ได้แก่ (1) นายยรรยงค์ (2) นายระวีโรจน์ (3) นายเอกวิชญ์ (4) นายศิร์วสิษฎ์ (5) นางวรณัน (6) นายภาณุรักษ์ (7) นางสาวกรรณิดา (8) นายกรวิช (9) นายภควันต์ (10) นายสุวิทย์ (11) นายพิสิษฏ์ (12) นางสาวพัชรา มาสอน (13) นางสาวพรพรรณ สะระบุญมา (14) นายกำพล (15) นายตรีขนิษฐ์ (16) นายธิติพัฒน์ และ (17) นายธีระชัย 

4. กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC มีผู้กระทำผิด 11 ราย ระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 - 13 กุมภาพันธ์ 2558 ได้แก่ (1) นายยรรยงค์ (2) นายระวีโรจน์ (3) นายเอกวิชญ์ (4) นายศิร์วสิษฎ์ (5) นางวรณัน (6) นายภาณุรักษ์ (7) นางสาวกรรณิดา (8) นายกรวิช (9) นายภควันต์ (10) นายสุวิทย์ และ (11) นายพิสิษฏ์ 

5. กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NINE มีผู้กระทำผิด 12 ราย ระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม 2557 - 24 มีนาคม 2558 ได้แก่ (1) นายยรรยงค์ (2) นายระวีโรจน์ (3) นายเอกวิชญ์ (4) นายศิร์วสิษฎ์ (5) นางวรณัน (6) นายภาณุรักษ์ (7) นางสาวพรเพ็ญ (8) นางสาวกรรณิดา (9) นายกรวิช (10) นายภควันต์ (11) นายสุวิทย์ และ (12) นายพิสิษฏ์

6. กรณีสร้างราคาใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NINE-W1 มีผู้กระทำผิด 5 ราย ระหว่างวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2558 ถึงวันที่ 2 มีนาคม 2558 ได้แก่ (1) นายระวีโรจน์ (2) นายเอกวิชญ์ (3) นายภาณุรักษ์ (4) นายสุวิทย์ และ (5) นายพิสิษฏ์

 

การกระทำของบุคคลทั้ง 25 รายข้างต้นเป็นการดำเนินการอย่างเป็นกระบวนการ โดยสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทั้งทางการเงินและความสัมพันธ์ส่วนบุคคล รวมทั้งวิธีส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะที่เป็นการผลักดันราคา และ/หรือพยุงราคาอย่างต่อเนื่องในหลายช่วงเวลาต่างกัน ตลอดจนเป็นการกระทำโดยมีการปิดบังหรือปกปิดความสัมพันธ์และการส่งคำสั่งซื้อขายดังกล่าว จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2) และมีระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นความผิดตามมาตรา 244/3 และมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

 

ปรับอัตราสูงสุดกว่า 890 ล้านบาท-ขาดคุณสมบัตินั่งบอร์ดหรือผู้บริหาร

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ โดยการปรับทางแพ่งกับผู้กระทำผิด

อย่างไรก็ดี ผู้กระทำผิดทั้ง 25 ราย ได้แก่ (1) นายยรรยงค์ (2) นายระวีโรจน์ (3) นายเอกวิชญ์ (4) นายศิร์วสิษฎ์ (5) นางวรณัน (6) นายภาณุรักษ์ (7) นางสาวพรเพ็ญ (8) นางสาวกรรณิดา (9) นายกรวิช (10) นายภควันต์ (11) นายสุวิทย์ (12) นายพิสิษฏ์ (13) นายสงกรานต์ (14) นายปรีชา (15) นายวิรัตน์ (16) นายอมร (17) นางสุภวรรณ (18) นางสาวพัชรา (19) นางสาวพรพรรณ (20) นายกำพล (21) นายธนพล (22) นายตรีขนิษฐ์ (23) นายธิติพัฒน์ (24) นายธีระชัย และ(25) นายนิรันดร์ ไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด 

ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องเป็นคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้ชำระค่าปรับทางแพ่งตามอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด จำนวน 890,789,424 บาท 

ทั้งนี้ การที่ ค.ม.พ. ให้ปรับทางแพ่งกับผู้กระทำผิด มีผลทำให้ผู้กระทำผิดทั้งหมดเป็นผู้มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังได้รายงานการดำเนินการดังกล่าวต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เนื่องจากความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook