บอลโลกประชารัฐกับกฎ Must Have ที่ทำคนไทย (เกือบ) อดดูถ่ายทอดสด

บอลโลกประชารัฐกับกฎ Must Have ที่ทำคนไทย (เกือบ) อดดูถ่ายทอดสด

บอลโลกประชารัฐกับกฎ Must Have ที่ทำคนไทย (เกือบ) อดดูถ่ายทอดสด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล อาร์เอสประมูลซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดมาล่วงหน้า แต่ก่อนหน้าที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น ต้องเจอกับวิบากกรรม

เมื่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) งัดเอาประกาศเรื่องหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ.2555 หรือที่เรียกว่ากฎมัสต์แฮฟ (Must Have) มาบังคับให้อาร์เอสถ่ายทอดสดบอลโลกผ่านฟรีทีวีทุกนัด

แต่อาร์เอสไม่ยอม จนเรื่องต้องไปสู่การพิจารณาของศาลปกครอง โดยข้อต่อสู้สำคัญที่อาร์เอสยกมาโต้แย้งคือ สัญญาที่บริษัทชำระเงินกับฟีฟ่านั้นดำเนินการเสร็จสิ้นตั้งแต่ปี 2548 ก่อนหน้าที่ กสทช. จะออกประกาศกฎมัสต์แฮฟมาบังคับใช้

แม้สุดท้ายศาลปกครองสูงสุดจะตัดสินให้อาร์เอสชนะคดี ทว่า 'นายกฯ ลุงตู่' พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจในฐานะหัวหน้า คสช. สั่งการให้ กสทช. หาแนวทางนำเงินกองทุนวิจัยและพัฒนาฯ (กทปส.) มาจ่ายชดเชยให้อาร์เอส จนทำให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลกแบบสด ๆ ผ่านทางทีวีช่อง 5, 7 และ 8

พอมาจนถึงปีนี้ที่ฟุตบอลโลกเตรียมกลับมาบรรเลงเพลงแข้งกันอีกครั้ง แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีทีวีช่องไหนกล้าลงทุนซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดในเมืองไทย

ล่าสุดรัฐบาลต้องออกโรงเองอีกครั้ง คราวนี้เป็น 'ลุงป้อม' พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่เชิญชวนองค์กรยักษ์ใหญ่ 7 แห่งให้ร่วมลงขันจ่ายเงินซื้อลิขสิทธิ์ ซึ่งประกอบไปด้วย

บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือซีพี

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด หรือช้าง

บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส และ

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

จะเห็นได้ว่าแทบทั้งหมด อยู่ในเครือข่ายประชารัฐ ร่วมเป็นคณะทำงานนโยบายด้านต่าง ๆ ของรัฐบาลชุดนี้อยู่แล้ว ขณะที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เป็นหน่วยงานรัฐเพียงแห่งเดียวใน 7 แห่งนั้น ก็เป็นองค์กรที่เอาไว้ขับเคลื่อนนโยบายสำคัญแบบปัจจุบันทันด่วน

เท่าที่เช็คข้อมูลมา ฟีฟ่าตั้งราคาลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกปีนี้ไว้ที่ 1,400 ล้านบาท แต่นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ระบุว่าอยู่ระหว่างเจรจาต่อรองเพื่อให้สามารถลดราคาลงมาเหลือราว ๆ 1,000 ล้านบาท

ประเมินกระแสและท่าทีแล้ว คนในรัฐบาลคงไม่ปล่อยให้คนไทยอดดูบอลโลกอย่างแน่นอน

 

ศัพท์ Sanook! --> กฎมัสต์แฮฟคือรายการกีฬาสำคัญที่คนไทยจะได้ดูแบบฟรี ๆ ผ่านช่องฟรีทีวี ซึ่งมีอยู่ 7 รายการ ประกอบด้วย 1. ซีเกมส์ 2. อาเซียนพาราเกมส์ 3. เอเชี่ยนเกมส์ 4. เอเชี่ยนพาราเกมส์ 5. โอลิมปิกเกมส์ 6. พาราลิมปิกเกมส์ และ 7. ฟุตบอลโลก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook