'นกแอร์' ส่ง 3 แพกเกจใหม่ 'นกเลือกได้' เพิ่มทางเลือกลูกค้า -วางแผนเพิ่มเที่ยวบินไปจีน

'นกแอร์' ส่ง 3 แพกเกจใหม่ 'นกเลือกได้' เพิ่มทางเลือกลูกค้า -วางแผนเพิ่มเที่ยวบินไปจีน

'นกแอร์' ส่ง 3 แพกเกจใหม่ 'นกเลือกได้' เพิ่มทางเลือกลูกค้า -วางแผนเพิ่มเที่ยวบินไปจีน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สายการบินนกแอร์ เปิด 3 แพกเกจใหม่ หวังขยายความต้องการของนักเดินทางทุกกลุ่ม พร้อมแผนลดการขาดทุน 3 ระยะ และเพิ่มเที่ยวบินจีน

นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ (9 พฤศจิกายน 2560) นกแอร์ได้ปรับเปลี่ยนแพกเกจการเดินทางใหม่ โดยคำนึงถึงการเดินทางของลูกค้า แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. บินเบาๆ (Nok Lite) 2. บินสบาย (Nok X-tra) และ 3. บินเพลิดเพลิน (Nok Max) 

"นี่คือการเปลี่ยนแปลงการให้บริการครั้งสำคัญของนกแอร์"

nokair2

โดยความแตกต่างของสามแพกเกจอยู่ตรงที่ บินเบาๆ หรือ Nok Lite จะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่ถือสัมภาระขึ้นเครื่องเป็นหลัก ส่วนบินสบาย หรือ Nok X-tra จะเน้นไปที่การให้บริการสำหรับลูกค้าที่โดยสารในประเทศ และต่างประเภท ซึ่งในส่วนแพกเกจบินสบาย ยังคงได้โหลดสัมภาระเช่นเดิม (15 กิโลกรัมสำหรับเที่ยวบินในประเทศ และ 20 กิโลกรัม ในเที่ยวบินระหว่างประเทศ) และแพกเกจสุดท้ายบินเพลิดเพลิน หรือ Nok Max จะเหมือนกับบินสบายทุกประการ เพียงแต่จะมีบริการอาหารร้อนบนเครื่องเสริมเข้ามา

พร้อมกันนี้นายปิยะ ยังได้เปิดเผยแผนการลดการขาดทุนของนกแอร์ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระยะ ครอบคลุมทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยภายใน 6 เดือนหลังจากนี้นกแอร์จะพยายามลดการขาดทุนให้ได้ ดังเช่น การนำเครื่องบินเก่าออกจากฝูงบินเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง อีกทั้งมีแผนเพิ่มระยะการบินให้ไกลขึ้น ซึ่งเน้นการบินไปยังประเทศจีน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการยืนยันว่าจะเป็นเมืองใดในจีน

ต่อมาในระยะที่สองจะเน้นการจัดการภายในของบริษัท ซึ่งส่วนนี้จะใช้เวลาราว 1 ปี และระยะสุดท้าย คือ การขยายเส้นทางการบินให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ โดยยังคงเน้นเส้นทางบินที่จะมุ่งสู่ประเทศจีนเหมือนเดิม

อย่างไรก็ดี นายปิยะ ยอมรับว่า นกแอร์มีความสนใจที่จะเปิดเที่ยวบินในประเทศอินเดีย แต่ถึงกระนั้นการทำตลาดในประเทศอินเดียก็เป็นเรื่องที่ยาก ซึ่งเวลานี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกับสายการบินท้องถิ่นอินเดีย เพื่อให้การทำธุรกิจในอินเดียคล่องตัว

ทางด้านในประเทศ นกแอร์อาจตัดสินใจเพิ่มเที่ยวบินระหว่างภาค อาทิ เส้นทางบินอุดรธานีไปยังแม่สอด หรือจากสนามบินอู่ตะเภาไปยังจังหวัดในภาคใต้ เป็นต้น

ในส่วนเครื่องบินเก่าที่ปลดระวางไปแล้ว จะถูกแทนที่ด้วยเครื่องบินใหม่ที่นกแอร์ได้สั่งซื้อล่วงหน้าตั้งแต่ปี 2013 โดยจะเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max จำนวน 8 ลำ ซึ่งจะทยอยเข้ามา เริ่มตั้งแต่ปี 2019 จำนวน 2 ลำ ปี 2020 อีก 2 ลำ และในปี 2021 จะรับเข้ามาอีก 4 ลำ

ปัจจุบันธุรกิจสายการบินกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน โดยนกแอร์วางเป้าการใช้งานเครื่องบินให้เกิดประโยชน์ หรือ Utilization ในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 10.1 ชั่วโมง/วัน ต่อลำ แต่ในปีหน้า 2017 จะเพิ่มเป้าให้สูงขึ้นอยู่ที่ 11 ชั่วโมง/วัน ต่อลำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook