สมคิดชู4กลยุทธ์หนุนไทยฮับอาเซียน
'รองนายกฯสมคิด' เผย 4 กลยุทธ์หนุนไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน แนะเอกชน - 500 บจ.เร่งลงทุน อย่าถือเงินสดหวั่นเสียโอกาส
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน The Nikkei Asia 300Global Business Forum ว่า จากวิกฤตการเงินปี2540หรือวฤตต้มยำกุ้ง เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างบทเรียนสำคัญให้กับภาครัฐและเอกชนในภูมิภาคเอเชีย ได้ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงในการสร้างวินัยทางการเงิน จนทำให้ขณะนี้เศรษฐกิจเอเชียฟื้นตัวทาง และมีสถานะเงินสำรองเงินตราที่มั่นคง ทั้ง ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ และเกาหลีใต้ ต่างก็มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี และเป็นแหล่งดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนจากต่างประเทศ โดยจากผลการสำรวจของ Bloomberg มีการคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีเม็ดเงินมาลงทุนในตลาดทุนและตลาดพันธบัตรของอาเซียนและไทยอย่างน้อย 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ หากไทยต้องการที่จะได้ประโยชน์จากโอกาสดังกล่าวและเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนมี 4 กลยุทธ์ประกอบด้วย 1.การสร้างความสามารถด้านการแข่งขัน จะต้องเน้นเรื่องการสร้างนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ 2.การวางตำแหน่งเชิงยุทธศาสตร์ในเวทีโลก ซึ่งต้องยอมรับว่าไทย และประเทศอื่นๆในอาเซียน ต่างเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็ก แต่กลับเป็นที่สนใจลงทุนของต่างชาติ เพราะมีการรวมกลุ่มกันในภูมิภาค จึงทำให้ภูมิภาคอาเซียนกลับเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของโลก 3.ภาคเอกชนต้องมีความแข็งแกร่งและสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกและ4.สร้างเอกภาพภายในประเทศเพื่อดึงดูดนักลงทุน ดังนั้นหากสามารถปรับตัว และสร้างความแข็งแกร่งได้ ก็จะสามารถรับมือ และได้ประโยชน์จากโอกาสที่กำลังเข้ามา
ขณะที่ การลงทุนภายในประเทศมั่นใจว่าหลังจากนี้จะเพิ่มขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งภาคเอกชนควรจะเร่งเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนกว่า 500 บริษัท ควรจะลงทุนมากกว่าการถือเงินสด เพื่อไม่ให้ไทยเสียโอกาสการลงทุนในหลายๆด้าน
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 11 กันยายนนี้ นักธุรกิจญี่ปุ่นทั้งรายใหญ่และเอสเอ็มอีกว่า 500 บริษัทมาเยือนประเทศไทย พร้อมเข้าหารือร่วมกับภาคธุรกิจไทย